รีวิว GT150 2025 สรุป 5 เรื่อง โมเดิร์นคลาสสิกสุดเก๋จาก Royal Alloy

รีวิว GT150 2025 สรุป 5 เรื่อง โมเดิร์นคลาสสิกสุดเก๋จาก Royal Alloy

รีวิว GT150 2025

Royal Alloy สกู๊ตเตอร์แบรนด์สัญชาติอังกฤษ เดินหน้าลุยตลาดประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง มีตัวเลือกครบทั้งไลน์อัพคลาสสิกและโมเดิร์น โดยเฉพาะโมเดลใหม่ภายใต้ Logo สีส้มอย่าง Gran Turismo 150 ถือว่าเป็นคันเก่งครบเครื่องสุด ๆ ของ RA เลยทีเดียว ครั้งนี้เราออกทริป รีวิว GT150 2025 พาชิลที่ “ลพบุรี” และมีข้อมูลรถรุ่นนี้มาสรุปให้ฟังกัน 5 เรื่อง …อ่านจบ-รู้จักแน่นอน!

1.เครื่องยนต์ ไม่ธรรมดา!

                      รีวิว GT150 2025

เดินทางถึงลพบุรี ทริปนี้ไม่พลาดต้องแวะเช็คอินที่ “ปรางค์ สามยอด” โบราณสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เพื่อเป็นพุทธสถานในลัทธิวัชรยานประจำเมืองละโว้และการขี่เที่ยวก็ตรงกับ “ประเด็นแรก” ของ Royal Alloy GT150 ( GranTurismo) ที่มาพร้อมสมรรถนะขุมพลังแน่นๆ  “เหลือเฟือ” สำหรับการเดินทาง

รีวิว GT150 2025

เครื่องยนต์ สูบเดี่ยว SOHC 4 วาล์ว ปริมาตร 148  ซีซี. พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ ใช้หัวฉีดเชื้อเพลิงจาก Delphi จากสเปคที่ระบุว่ากำลังสูงสุด 15.42 แรงม้า ที่ 8,500 รอบ/นาที

รีวิว GT150 2025

กลับมาขี่ GT150 ครั้งนี้ก็ยังคงประทับใจในคาแรคเตอร์ที่ให้อัตราเร่งดี ออกตัวไม่หน่วงรอบ และให้เพาเวอร์รอบกลางต่อเนื่อง ขี่สนุก การเร่งแซงต่าง ๆ ทำได้พอเหมาะไม่รอรอบและไม่ห้อยเกินไป ขี่เดินทางแบบนี้ถือว่าตอบโจทย์ครับ อัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ทำได้อยู่ที่ประมาณ 40 กม./ลิตร  ส่วนความเร็วปลายแบบสบาย ๆ ที่ 115-120 กม./ชม. อีกอย่างที่ชอบคือ GT150 ใช้ระบบอีซี่สตาร์ทแบบรถยุคใหม่  กดปุ่มทีเดียวเครื่องติดได้ง่าย ๆ รอบเดินเบาก็นิ่มนวล

2.ดีไซน์เท่

รีวิว GT150 2025

ปัจจุบันในย่านเมืองเก่าลพบุรี มีการสร้างสรรค์ศิลปะแนวสตรีทอาร์ท ตามตึกเก่าและกำแพงต่างๆ กลายเป็นแลนด์มาร์คใหม่ที่โดนใจสายถ่ายภาพ เรียกว่าผสานความคลาสสิกเข้ากับมุมมองใหม่ๆได้ลงตัว เช่นเดียวกับดีไซน์ของ GT150 ที่สวยงามมีความโดดเด่นในหลายจุด

จะสังเกตว่า Royal Alloy รุ่นนี้ใช้โลโก้ RA สีส้ม สื่อถึงกลุ่มโปรดักท์ไลน์อัพใหม่ที่ทางแบรนด์เพิ่มทางเลือกในแนวโมเดิร์นคลาสสิกมากขึ้น

รีวิว GT150 2025

งานสีบอดี้ต้องย้ำเลยว่าพิเศษมาก ๆ สมกับที่เป็นรุ่น Special ดูแวบเดียวเห็นถึงความแตกต่างมีเอกลักษณ์แบบ RA โดยคันนี้ใช้สีทูโทนพิเศษผิวเปลือกส้ม สี Durian หรือสีทุเรียน มาพร้อมเทคนิคการทำสีให้มีเทกเจอร์บนชิ้นงาน ซึ่งบ้านเราเรียกกันว่า “ผิวระเบิด” จากสีผิวแบบนี้เชื่อมโยงกับการออกแบบโดยผสานแนวคิดจากรูปลักษณ์ “เครื่องบิน”  โดยติดตั้งโมเดลเครื่องบินอยู่ที่บังโคลนหน้า ซึ่งโมเดลเครื่องบินที่ว่าคือเครื่อง “Spitfire” เสืออากาศตัวร้ายยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 อันสุดโด่งดังของประเทศอังกฤษ

ขณะที่ส่วนของ “พักเท้าคนซ้อน” ก็เลียนแบบรูปปีกเครื่องบิน ทั้งนี้ไอเดียในการนำเครื่องบินอังกฤษมาเป็นส่วนผสมในการออกแบบ ก็เพราะ Royal Alloy เป็นแบรนด์สัญชาติอังกฤษ มีการจดทะเบียนการค้าแบรนด์ภายในสหราชอาณาจักร ทำให้รถหลาย ๆ รุ่นของรอยัลอัลลอยสื่อความเป็น “บริติชสกู๊ตเตอร์” อย่างชัดเจน

3.มิติดี ไซส์นี้กำลังเหมาะ

มิติของ GT150 เซ็ทออกมาได้สมคาแรคเตอร์โมเดิร์นคลาสสิก สัมผัสที่ชัดเจนคือตัวรถรุ่นนี้มีจุดศูนย์ถ่วงต่ำ ให้ท่านั่งกึ่งกลางบอดี้ พร้อมระยะฐานล้อ Gold Ratio 1,380 มม.ที่หมายถึง “ช่วงรถ” ดีมาก ๆ ส่งผลต่อช่วงการบังคับรถที่ระดับแขนของผู้ขี่มีความอิสระ ควบคุมขับขี่ง่าย คล่องตัว และบาลานซ์ดีไปในขณะเดียวกัน

รีวิว GT150 2025

รีวิว GT150 2025

ส่วนฟีลลิ่งจากการเดินทางที่ต้องมีเลี้ยวโค้งหลายจุด เป็นอีกหนึ่งความน่าทึ่งของ GT150 เพราะรถคันนี้ให้ฟีลลิ่งเลี้ยวดี การบังคับเลี้ยวและพลิกพลิ้วรถไปตามโค้ง ก็ไม่มีฝืน ไม่ทื่อ และไม่มีอาการหน้าลอย

น้ำหนักตัวพร้อมของเหลวเพียง 134 กก. นับว่าเป็นอีกจุดเด่น ที่ทำให้ GT150 คุมง่าย เอาอยู่ ไม่เป็นภาระสำหรับนักบิดร่างเล็ก แถมพื้นที่วางเท้าหรือฟลอร์บอร์ดก็กว้าง ให้ระยะการวางเท้าที่ผ่อนคลาย และ Cover รองรับนักบิดขายาวได้ด้วย ขี่ไกล ๆ เมื่อยน้อยกว่ารถสไตล์คลาสสิกบางรุ่นครับ

 4.ฟังก์ชั่นจัดเต็ม

รีวิว GT150 2025

การขี่ Royal Alloy GT150 มาชิลลพบุรีครั้งนี้ ยังมีโอกาสไปชมธรรมชาติบน “ถนนเลียบอ่างเก็บน้ำซับเหล็ก” และ “เขาจีนแล” ซึ่งเป็นจุดเช็คอินคู่กับวิวสวย ๆ ตระการตา และแน่นอนการมาถึงตรงนี้ได้ เราได้ใช้องค์ประกอบสำคัญของ GT150 อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะ “ฟังก์ชั่น” ที่เค้าออกแบบมาอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้อย่างไม่มีกั๊ก ดังนี้

กุญแจระบบ Keyless พร้อมสัญญาณกันขโมย  ออกแบบให้ใช้งานเบ้ากุญแจสำหรับการบิดควบคุมเปิดเบาะและล็อครถด้วย  จากที่ลองพบว่าใช้งานได้ง่ายดี ไม่มีอะไรยุ่งยาก

หน้าจอ TFT ทรง 4 เหลี่ยม ขนาดกว้างกำลังเหมาะ เปลี่ยนสีแบคไลต์ให้อัตโนมัติตามสภาพแสง  พร้อมกับให้ค่าสัญญาณต่างๆครบถ้วน และเซ็ททริปได้ มีฟังก์ชั่นแจ้งเตือนแรงดันลมยางแบบเรียลไทม์ปรากฏบนฝั่งซ้ายล่างของจอ เชื่อมต่อสมาร์ทโฟนง่าย ใช้แอปพลิเคชั่น EYLINK ที่เวิร์คมากๆ  มิเรอร์หน้าจอโทรศัพท์มือถือเราขึ้นไปบนจอของตัวรถก็ทำได้อย่างง่ายดาย แถมแอพฯนี้ช่วยให้สามารถใช้งาน Google Map ได้อย่างสะดวก เพราะในแอปมีระบบล็อคหน้าจอ ทำให้การรันแมพนำทางไม่ต้องกังวลเรื่องหน้าจอโทรศัพท์ล็อคแล้วแมพดับลงไป และในแอปฯก็มีฟังก์ชั่นแผนที่มาให้เลือกใช้อีก 1 ตัวด้วย เชื่อมแอปและมิเรอร์จอแล้ว สามารถดู Youtube บนหน้าของ GT150 ได้เลย ระหว่างใช้งานการเชื่อมบรูทูธมีการแจ้งเตือนสายเข้า

มีระบบ Auto Start & Stop ดับเครื่องยนต์อัตโนมัติและเปิดปิดการใช้งานได้ที่ปะกับแฮนด์ฝั่งขวา

ถังน้ำมันก็มีความจุมากถึง 9 ลิตร เหมาะมากกับรถขนาด 150 ซีซี. เติมน้ำมันง่าย ๆ ที่ช่องด้านหน้า ไม่ต้องเปิดเบาะให้ยุ่งยาก

มีช่องจ่ายไฟ USB Type A และ Type C พร้อมที่แขวนของมาให้พร้อม

ในต่างประเทศมีฮีทกริปกับฮีทซีท แต่บ้านเราตัดระบบนี้ออกไปเพราะไม่จำเป็น แม้จะมีปุ่มอยู่ อย่างไรก็ตามใครอยากใส่ก็เบาะอุ่นก็สั่งซื้อกับตัวแทนฯ RA ได้นะ ช่องเก็บของใต้เบาะกว้างพอให้ใส่หมวกกันน็อคแบบครึ่งใบได้พร้อมสัมภาระส่วนตัวอีกจำนวนหนึ่ง

ไฟหน้าทรงเหลี่ยม ระบบไฟส่องสว่าง Full LED  ไฟเลี้ยวหน้า-หลังแบบบิลด์อิน ดูมินิมอล พร้อมไฟท้ายที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์ ใช้งานจริงก็มองเห็นชัดครับ ฟลอร์บอร์ดแบบเรียบและกว้าง วางได้สบายเท้า และก็อาจจะวางของได้เช่นกระเป๋าสัมภาระ เบาะนั่งแบบ 2ตอน นวมหนาหุ้มด้วยวัสดุดูสวยงาม หรูหรา มีเทกเจอร์กันลื่น สังเกตว่ามีแรคท้ายติดมา อันนั้นเป็นของแต่งตรงรุ่น GT150 ที่สามารถซื้อเพิ่มได้ครับ

5.ระบบความปลอดภัย มี TCS

รีวิว GT150 2025

หลังจากรันทริปไปถึงจุดหมาย นั่งจิบกาแฟที่ร้าน Flower House Cafe & Bistro  ที่อยู่เชิงเขาจีนแล ห่างจากตัวเมืองลพบุรีราว ๆ 30 กม. ก็เป็นระยะทางที่พอดีให้จับฟีลลิ่งมาเล่าถึงประเด็นที่ 4 อันได้แก่ ช่วงล่างและระบบความปลอดภัยของ GT150

โช้คหน้าเทเลสโคปิก มาพร้อมโช้คหลังแบบคู่ ขับขี่ทริปนี้สัมผัสได้ถึงการซับแรงสะเทือนที่ดี ฟีลลิ่งตัดอาการสะเทือนออกมานุ่มนวล ไม่กระด้าง และไม่ย้วยในตอนเลี้ยวโค้ง ช่วงล่างชุดนี้ถือว่าสอบผ่านครับ เซ็ทติ้งพอเหมาะ พอดีตัวรถ วงล้อ เป็นแม็กขอบ 12 นิ้ว รัดยาง Timsun 120/70-12 ทั้งหน้า-หลัง อาการของยางถือว่าเกาะถนนได้ตามมาตรฐาน

ไฮไลต์ระบบความปลอดภัยของ GT150 มี TCS แทรคชั่นคอนโทรล ที่เปิด-ปิดได้ตรงปุ่มปะกับแฮนด์ฝั่งซ้าย จากการทดสอบพบว่าทำงานตอบสนองไวและแม่นยำครับ ไม่มีหน่วง

อีกหนึ่งทีเด็ดคือ ดิสก์เบรก ทั้งหน้า-หลัง พร้อม ABS 2 ชาแนล ให้รอบการแก้ล้อล็อคเวลาที่เบรกกระทันหันได้ละเอียดดีครับ เบรกอยู่ ไม่มีหวิว ในแง่ความปลอดภัย ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยางที่โชว์บนหน้าจอก็เป็นส่วนสำคัญ เพราะเราจะรู้แรงดันลมยางว่าเหมาะสมต่อการใช้งานหรือไม่ ทันทีที่ on ระบบรถขึ้นมา

       รีวิว GT150 2025

บทสรุป ตัวเลือกรุ่น และ ราคา

Royal Alloy GT150 รุ่นที่เรานำมารีวิวครั้งนี้ เป็นเวอร์ชั่น Special สีพิเศษ Durian ราคาจำหน่าย 95,000 บาท และยังมีอีก 2 รุ่น ได้แก่

รุ่น Elegance ราคา 89,000 บาท
รุ่น Sport ราคา 85,900 บาท

(สามารถดูรายละเอียดเพิ่มที่ https://www.facebook.com/RAThailandOfficial )

บทสรุป จากที่มีโอกาสรีวิว ออโตเมติคสายพาน CVTมาหลากหลายรุ่น อยากบอกว่า GT150 คันนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ เป็นตัวเลือกในคลาส 150 ซีซี.ที่ “โคตรครบเครื่อง” เลยครับ ทางแบรนด์เค้าจัดเต็มระบบในทุกองค์ประกอบ ทั้งหน้าตา ขุมพลัง และฟังก์ชั่น จะเอาไปใช้งานในชีวิตประจำวันหรือขับขี่ท่องเที่ยวก็ตอบโจทย์ได้หมด..คุ้ม คุ้ม!!

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่