รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT ใคร ๆ ก็ขี่ได้!!

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT ใคร ๆ ก็ขี่ได้!!

หนึ่งในมอเตอร์ไซค์ที่แฟนๆถามหามากสุดจากช่องโมโตครอสของเรา คือครุยเซอร์สไตล์เท่เฉพาะตัวจาก Honda ที่ใช้รหัสว่า Rebel
ในที่สุดเราก็มีโอกาสออกทริป กรุงเทพฯ-กาญจนบุรี กับ Honda Rebel 1100 DCT พี่ใหญ่ตระกูลรีเบลที่ซ่อนประเด็นน่าสนใจเอาไว้มากมาย ..แต่..สุดท้ายรถคันนี้จะเหมาะกับใคร? ไปดูกัน!!

ดีไซน์

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

คาแรคเตอร์ความเป็น “รีเบล” โดดเด่นและแตกต่าง ดังนั้นเราจึงได้เห็นมุมมองของการ “คุมโทน” หล่อเข้มขรึมตามสไตล์ฮอนด้าครุยเซอร์ ความหล่อนี้มีแกนหลักจากโครงสร้างเฟรม Diamond Steel ที่ใช้ท่อเหล็กกล้าสานขึ้นเป็นชิ้นเฟรมพร้อมสวิงอาร์มแบบกลม ให้ขนาดรถที่ดูคอมแพคไม่ยาวเทอะทะ พร้อมกับองค์ประกอบของรถถูกประกอบเข้าไปอย่างสวยงาม ตั้งแต่ชุดบังโคลนหน้าหลัง ถังน้ำมันทรงสวยที่ตีมาแบบไร้รอยต่อ Seamless ความจุ13.6 ลิตร รวมทั้งเครื่องยนต์ที่ถูกร้อยเข้ากับเฟรมได้สวยงามไม่มีขัดตา

ระบบไฟส่องสว่างทั่วคัน Full LED ถ้าสังเกตโคมไฟหน้าทรงกลมให้หลอดโปรเจกเตอร์ 4 ดวง แบ่งการทำงานสูง-ต่ำอย่างละคู่ ไฟหน้าชุดนี้เราได้ทดลองใช้งานช่วงกลางคืน พบว่าให้แสงโคตรสว่าง แต่ระดับไฟต่ำยังเชิดสูงไปเล็กน้อย ขี่ไปก็มีเพื่อนร่วมทางที่สวนมากระพริบไฟเตือนเรื่อยๆ อย่างไรก็ตามเรื่องนี้ไม่มีปัญหาเพราะระดับสูง-ต่ำของไฟสามารถปรับได้ครับ

ขุมพลัง

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

เรื่องใหญ่ของรถคันนี้คือ “ขุมพลังคลาสพัน” จากพื้นฐานเดียวกันกับ CRL1100L นั่นคือ เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง SOHC 8วาล์ว ลูกใหญ่ 92 มม. ช่วงชัก 81.5 มม. ความจุ1,084 ซีซี. ข้อเหวี่ยง 270 องศา ให้กำลังสูงสุด 85.82 ม้า ที่ 7,000 รอบ/นาที และซ่อนแรงบิด 98 นิวตันเมตรที่ 4,700 รอบ/นาที จากตัวเลขด้านขุมพลัง สัมผัสได้จากทุกจังหวะของการเปิดคันเร่ง ซึ่งบิดมันส์ตอบสนองฉับไว ให้ฟีลลิ่งอัตราเร่งเร้าใจมากๆ จนอยากจะถามว่านี่รถครุยเซอร์หรอเนี่ย!?ระบบ DCT โคตรเจ๋ง

 

สิ่งที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์แรงๆคือ คันเร่งไฟฟ้าพร้อมเกียร์ 6 สปีด บนระบบคลัตช์คู่อัจฉริยะ DCT ที่ใช้งานง่ายดายสุดๆ แค่สตาร์ทเครื่องยนต์-กดปุ่ม D แล้วบิดคันเร่งออกไป ระบบจะทำงานเปลี่ยนเกียร์ให้อัตโนมัติตามความเร็วที่เหมาะสม และยังมีปุ่ม A/M (Auto-Manual) ไว้ให้เลือกใช้ตามต้องการด้วย ถึงตอนนี้สัมผัสได้ว่า DCT เจนฯล่าสุดแม่นยำและเลือกเกียร์ให้เราได้สอดคล้องกับสภาพความเร็วจริงๆ

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT
ทริปนี้ในช่วงการทดสอบช่วงขึ้นเขาแถวหลังเขื่อนศรีฯ เราเน้นใช้โหมด M เพื่อควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ ขึ้น-ลง ได้เอง การชิฟท์เกียร์ก็แค่กดนิ้วชี้และนิ้วโป้งมือซ้ายจากแพดที่ติดตั้งไว้พอดีตรงปะกับแฮนด์ฝั่งซ้ายซึ่งเป็นตัวช่วยอย่างดีในการ “ค้างเกียร์” เรียกเอนจินเบรกให้ขับขี่ลงเขาได้อย่างปลอดภัย
จากที่ลองใช้งานตลอดการเดินทางทดสอบ กรุงเทพฯ-เขื่อนศรีนครินทร์ ยืนยันว่าการชิฟท์เกียร์ใน DCT เจนฯนี้ ทำได้อย่างอิสระในโหมด D ด้วยครับ ในกรณีที่จอดติดไฟแดง มีปุ่ม N ให้กดเข้าสู่เกียร์ว่างเหมือนรถทั่วไป

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

ในด้านความเร็วปลายเท่าที่มีโอกาสลองขี่ไล่ความเร็ว พบว่าผ่าน 170 กม./ชม.ได้ครับ แต่ความจริงหากเร็วสูงเกิน 160 กม./ชม.ไม่เหมาะอย่างยิ่งกับทรงรถ เพราะจะออกอาการหน้าไวพร้อมชกมวยในทันทีหากมีสภาพถนนไม่พร้อม ดังนั้นเอาแค่ขี่สบายๆ 120-130 เหลือกำลังให้เร่งแซงและถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย ดูจะเข้าท่ามากกว่าครับนั่นเอง

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

จากที่ลองหาอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เติมเต็มถังจากกทม.แล้ววิ่งไปกว่าระยะทาง 162.2 กม. เติมน้ำมันคืนเต็มถังอีกครั้งที่ปตท.แก่งเสี้ยว 7.24 ลิตร หารออกมาได้ตัวเลขประหยัดน้ำมันที่ 22.41 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดน่าทึ่งทีเดียวเมื่อดูจากขนาดเครื่องยนต์

อิเล็กทรอนิกส์

เครื่องยนต์จัดเต็มมาขนาดนี้ มีระบบอิเล็กทรอนิกส์รองรับมากมายบนพื้นฐานคันเร่งไฟฟ้า ทำงานร่วมกับ Mode การขับขี่ 3+1 ได้ Standard ,Rain ,Sport และโหมด User ที่เปิดให้ผู้ขับขี่เซ็ตค่าต่างๆเซฟไว้ตามลักษณะการขับขี่เฉพาะตัว  ซึ่งในแต่ละโหมดมีค่าการทำงานของระบบต่างๆลดหลั่นกันไป แน่นอนว่าเราเลือกเล่นโหมด Sport ที่ให้ฟีลลิ่งขับขี่มันส์จัดจ้านบ่อยที่สุดและลองสลับกับโหมดอื่นๆ ในช่วงท้ายทริปนี้มีโอกาสลองโหมด Rain ขี่ยาวๆเพราะฝนถล่มกาญจนบุรี ซึ่งได้พึ่งพาระบบ HSTC ป้องกันล้อหลังลื่นไถลทำงานหลายรอบ

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

อยากบอกว่า Rebel 1100 DCT มีระบบป้องกันล้อยก Wheelie Control มาให้ด้วยนะ ก็เข้าใจได้ว่าเพราะเครื่องยนต์มีแรงบิดหนัก ๆ ขนาดนั้น ส่วนอีกหนึ่งระบบเจ๋ง ๆ ที่แฮนด์ฝั่งขวา คือ ครูซคอนโทรลควบคุมความเร็วอัตโนมัติซึ่งลองแล้วใช้งานสะดวกง่ายดาย ซึ่งระบบนี้เหมาะมากในการขี่ทางไกลเพราะช่วยลดความล้าที่เกิดจากการเกร็งข้อมือบิดคันเร่งนานๆ

มิติการควบคุม

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

ด้วยระบบเมนเฟรมเดียวกับตระกูล Rebel รุ่นน้อง ท่านั่งการควบคุมจึงออกมากระชับกำลังเหมาะ เป็นช่วงรถที่อยากเรียกว่าสไตล์เฉพาะตัวของรีเบลแท้ๆ  ซึ่งคนร่างเล็กก็สามารถขี่รถคันนี้ได้อย่างสบายๆ เมื่อขึ้นนั่งบนอานรู้สึกชัดว่าการยื่นขาไม่ยืดออกเท่าไหร่เพราะฟุตเพจไม่ฟอร์เวิร์ดมาก ระดับแฮนด์ก็ไม่สูงนัก ความสูงเบาะนั่งแค่ 700 มม. เท่านั้นทำให้ลงได้เต็ม 2 เท้า ระยะฐานล้อ 1,520 พร้อมช่วงแฮนด์กว้าง 834 มม.ถือว่าแคบทีเดียว น้ำหนักตัวขนาด 233 กก. อาจดูหนักไปนิด แต่ตัวรถมีศูนย์ถ่วงต่ำ ทำให้ทุกๆท่วงท่าการขับขี่ “อยู่มือ” จนมือใหม่เองก็สามารถขี่ได้ครับ

ช่วงล่าง ยาง เบรก

โช้คหน้าแบบเทเลสโคปิก โช้คหลังคู่ Showa พร้อมซับแทงค์

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

ระบบกันสะเทือน เป็นออพชั่นที่ดูธรรมดา แต่ฟีลลิ่งที่ได้เกินคาด เพราะคู่โช้คหน้าเทเลสโคปิกใช้ขนาดแกนใหญ่ 43 มม. เคลือบไทเทเนียมออกไซด์ สามารถปรับพรีโหลดได้ตรงปุ่มที่หัวโช้ค ส่วนโช้คหลังคู่มาพร้อมซับแทงค์และการปรับพรีโหลดได้ 19 ระดับ ฟีลลิ่งช่วงล่างจากที่ได้ลองทริปนี้ ออกแนว นิ่ง-หนึบ-นุ่มนวล เน้นเก็บอาการบั๊มพ์ในสภาพทางดำที่พบได้ดี  ส่วนฟีลลิ่งการเลี้ยวโค้งอยู่ในระดับที่เอาตัวรอดได้ ทำได้ดีกว่าครุยเซอร์คลาสพันบางรุ่นเลยล่ะ

Rebel 1100 DCT ให้ล้อหน้าขอบ 18 นิ้ว รัดด้วยยางหน้า130/70-18  ส่วนยางหลัง 180/65-16 ล้อหลัง 16 นิ้ว สังเกตว่ายางติดรถมาแนว “สปอร์ต” เมดอินเจแปนจาก Dunlop ทำให้อารมณ์การขี่ Rebel1100 ต่างจากตัว 500 และ 300 อย่างชัดเจน ถ้าเขียนให้เข้าใจง่ายๆคือมันทรงตัวดีกว่า เลี้ยวดีกว่า ขับเคลื่อนได้มั่นใจกว่าครับ

ดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวพร้อมคาลิเปอร์เบรกแบบเรเดียลเมาท์ ดิสก์หลังเดี่ยวเช่นกัน

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT
อีกหนึ่งจุดที่อยากกล่าวถึงคือ “ระบบเบรก” ซึ่งได้จานดิสก์หน้าเดี่ยวไซซ์ 330 มม. คาลิเปอร์เรเดียลเมาท์ 4 pot จานดิสก์หลัง 235 มม. คาลิเปอร์เดี่ยว พร้อม ABS 2 ชาแนล ฟีลลิ่งการเบรกโดยรวมตอบสนองการหยุดความเร็วได้ตามมาตรฐาน แต่ด้วยน้ำหนักรถระดับ 230 กก.ที่มีแรงเฉื่อยค่อนข้างมาก โดยเฉพาะการขี่ในความเร็วสูงแล้วต้องหยุดรถให้ได้ระยะปลอดภัย ดังนั้นผู้ทดสอบจึงมองว่าหาก Rebel 1100 เวอร์ชันต่อไปให้ดิสก์เบรกหน้าคู่มาเลยน่าจะเบรกได้มั่นใจกว่านี้ครับ

ฟังก์ชั่น

หน้าจอเรือนไมล์ดิจิทัล LCD ปาร์กกิ้งเบรก
ช่องเสียบกุญแจด้านข้างตัวรถ ตรงตามสไตล์คลาสสิก เบาะนั่งแบบแยกชิ้น ถอดออกกลายเป็นที่นั่งเดี่ยวได้ง่าย ๆ

ด้วยตัวตนของรถครุยเซอร์ที่ปกติไม่ค่อยมีฟังก์ชันอะไรมาก ดังนั้นมีเพียงหน้าปัดเรือนไมล์ทรงกลมที่เป็นดิจิทัลทั้งหมด การควบคุมใช้งานจากปุ่มจอยสติ๊กที่แฮนด์ฝั่งซ้ายให้ปรับค่าต่างๆได้ละเอียดและคล่องตัว

-เซ็ตทริป A-B ได้ และตั้งค่าอื่นๆได้สมบูรณ์

-สามารถเลือกดูอัตราความเร็วเฉลี่ย อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยแบบเรียลไทม์

-มีพอร์ท USB Type C ใต้เบาะคนขี่ โดยต้องเปิดเบาะด้วยการบิดกุญแจสวนทางการสตาร์ท

-มีพาร์คกิ้งเบรกที่แฮนด์ฝั่งซ้าย ใช้งานง่ายเพียงดึงก้านเข้าหาตัวคนขี่ และกดปุ่มยกเลิกที่อยู่ใต้ก้านโยกเมื่อใช้งานเสร็จ

-เบาะนั่งให้มาแบบ 2 ชิ้น เบาะคนซ้อนสามารถถอดออกได้ให้กลายเป็นนั่งเดี่ยวง่าย ๆ

ค่าตัวและบทสรุป รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

รีวิว Honda Rebel 1100 DCT

Honda Rebel 1100DCT เปิดราคาจำหน่ายที่ 429,000 บาท (ส่วนรุ่นธรรมดา ราคา 399,000 บาท) กับสไตล์อันแจ่มชัดของตระกูล “ฮอนด้า รีเบล”ซึ่งออกแบบมาตอบโจทย์แฟนๆฮอนด้าหรือคนรักครุยเซอร์ที่อยากได้ความแตกต่าง ถ้าคุณให้ความสำคัญกับคำว่า แรง-ดี ขี่ง่าย สะดวกสบายและครบถ้วนทั้งเทคโนโลยีและสมรรถนะ Honda Rebel 1100DCT คันนี้แหละ..มอเตอร์ไซค์สำหรับคุณ!!

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่