รีวิว INDIAN 101 Scout 2025 เก๋าทั้งสไตล์และสมรรถนะ
Rooted in history
มีเพียงไม่กี่ยี่ห้อในโลก ที่เอ่ยชื่อแล้วนึกถึง “ตัวตน” ได้ในทันที ..ในจำนวนนั้นคือ แบรนด์อเมริกันพรีเมียมผู้ครองอัตลักษณ์โดดเด่นนามว่า INDIAN ซึ่งยังคงสร้างสรรค์ “มอเตอร์ไซค์อเมริกัน” ในสไตล์ที่แตกต่างอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง
และนี่คือฟูลรีวิว INDIAN 101 Scout การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของสายพันธุ์ Scout เวอร์ชัน 2025 กลายเป็นโมเดิร์นครุยเซอร์ที่เฉียบขาดรุ่นหนึ่งบนพื้นพิภพ!!
ปฏิรูปโครงสร้าง
การเปิดตัว Scout รุ่น 2025 (ในรุ่น 101 คือกลุ่ม Sport Scout) ไม่ใช่แค่แต่งหน้าทาปาก แต่อินเดียนได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างและขุมพลังทั้งระบบ เมนเฟรมจากเดิมเป็นเฟรมอัลลอยถูกยกออกแล้วใส่เฟรมท่อเหล็กกล้าเข้ามาแทนที่ พร้อมซับเฟรมออกแบบใหม่ ลดน้ำหนักโดยรวมไปได้อีกราว 10%
สัมผัสของการทดสอบ 101 Scout ในระยะทางหลายร้อยกิโลเมตร พบว่ารถรุ่นนี้วางเครื่องและเฟรมมาในจุดศูนย์ถ่วงต่ำบาลานซ์ยอดเยี่ยม ส่งผลต่อการทรงตัวเป็นเลิศ เช่นเดียวกับแฮนด์ลิ่งที่คนร่างเล็กก็สามารถควบคุมรถคันนี้ได้อย่างกระชับ คล่องตัว จนอยากให้คะแนนเต็มสิบเลยสำหรับโครงสร้างของ 101 Scout 2025
นอกจากนี้เฟรมและซับเฟรมใหม่ยังทำมาเพื่อรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมสมรรถนะได้ง่ายดายอีกด้วย (ของแต่งตรงรุ่นมีมาให้เล่นไม่น้อย)
มิติ
เชื่อมโยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้าง คือผลสำคัญด้านมิติและช่วงรถ สำหรับ 101 Scout น้ำหนักพร้อมของเหลวอยู่ที่ 249 กก. บนท่านั่งสไตล์จิ๊กโก๋อเมริกัน ความสูงเบาะติดรถ 654 มีออพชั่นเบาะสูง 680 มม.ให้เลือก ช่วงแฮนด์กว้าง 965 มม. ทรงแฮนด์ไม่ยกมากยื่นมือจับแล้วแขนตึงเล็กน้อย เข้าเซ็ตกับฟุตบอร์ดแบบ Forward เยื้องไปด้านหน้า
ขี่ 101 Scout ระยะไกลทริปนี้ ผู้ทดสอบค่อนข้างเซอร์ไพรส์กับช่วงรถที่พอเหมาะมากๆ อินเดียนใส่ใจดีเทลของมิติรถไปจนถึงตำแหน่งคันเกียร์-คันเบรกเท้าที่ให้ระยะการใช้งานมาได้พอดีไม่ขัดไม่ขืน ท่านั่งที่ลงตัวนี้ยังหมายถึงคนขี่ร่างเล็กสามารถยกเข่าหนีบถังเชื้อเพลิงทรงหยดน้ำ(จุ 13 ลิตร)ในช่วงความเร็วสูงและช่วงที่เข้าโค้งได้อย่างกลมกลืนด้วย
ขุมพลัง 111
เปลี่ยนเฟรมแล้วเครื่องยนต์ก็เปลี่ยนด้วย เป็นรหัสใหม่ Speedplus V-twin 60 องศา ระบบแคมฯคู่ DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว อัพขนาดกระบอกสูบขึ้นอีก 5 มม. ไปเป็น 1250 ซีซี โดยในรุ่น 101 Scout ถูกแมพปิ้งจูนกำลังสูงสุดขยายขึ้นเป็น 111 แรงม้าที่ 7,250 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 82 ฟุต-ปอนด์ ที่ 6300 รอบต่อนาที
คาแรคเตอร์ของย่านกำลังแบบอัตราเร่งสูง-รอบต่ำ บอกเลยว่าตลอดทางที่ไปกับ 101 Scout รถตอบสนองคันเร่งได้เร้าใจยังกับขี่สปอร์ต เสียงท่อกระหึ่มเร้าใจ ที่สำคัญชุดเกียร์ 6 สปีด ให้เรนจ์เกียร์แต่ละลูกมา “กว้าง” มากๆ จากที่ลองอยากบอกว่าหากเป็นสายขี่เล่นในเมือง เผลอๆใช้ไม่เกินเกียร์ 4 เท่านั้น ส่วนเกียร์ 5-6 ที่ขยายมากว้างขนาดนั้นก็รองรับการเอามาขี่ออกทริปพอดี เกียร์ของ 101 Scout นุ่มแต่เวลาสับก็มีเสียงขบเฟืองเร้าใจเหมือนกัน
การมีคลัทช์แอสซิสต์ช่วยให้ความสมูทกับการสับหรืองัดเกียร์ ความเร็วของ 101 Scout สามารถวิ่งทะลุ 180 กม./ชม.ได้สบายครับ แต่เงื่อนไขสำคัญกว่าคือทรงรถแบบนี้หากขี่ออกทริปใช้ความเร็วสูงตลอดเวลา ตัวคนขี่ต้องฟัดกับลมเต็มๆอก อาจจะส่งผลให้เหนื่อยเกินไปจนหมดสนุกได้ ถ้าให้ดีขี่หล่อๆถ้าเร็วก็อย่าเกิน 120-150 กม./ชม.เหมาะสุดแล้ว
อิเล็กทรอนิกส์
เครื่องแรงขนาดนี้ ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อการใช้งานที่สะดวกและเพิ่มความปลอดภัยจึงมีมาให้ครบถ้วน เริ่มจากโหมดการขับขี่ 3 ตัวเลือก ได้แก่ Sport, Standard และ Rain ที่ให้การส่งกำลัง-การทำงานของระบบช่วยเหลือแตกต่างกัน แต่ที่พิเศษคือเลือกโหมดไหนก็ไปถึงกำลังสูงสุดได้หมด
เสริมด้วย Traction Control ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน แบบเปิด-ปิดได้จากเมนูหน้าจอ ทั้งนี้การออกแบบให้ปิด TC ได้ ก็คงทำมาสำหรับสายบ้าพลัง เผื่อใครอยากจะปั่นท้ายขวาง หรือเล่นท่าอะไรเหล่านี้
101 Scout ยังมีฟังก์ชั่นตรงใจสายเดินทางอยู่ที่ปุ่มด้านบนสุดของแฮนด์ฝั่งซ้าย ซึ่งเป็นระบบควบคุมความเร็วคงที่หรือ Cruise Control ใช้งานง่ายดายไม่ซับซ้อนครับ
ช่วงล่าง
ด้วยเส้นทาง กรุงเทพฯ-ลพบุรี ที่มีทุกอย่างช่วยทดสอบระบบช่วงล่าง สิ่งที่ประทับใจมากๆต่อรถรุ่นนี้จึงเป็นทำงานของระบบกันสะเทือน คู่โช้คหน้าหัวกลับขนาดแกน 43 มม.ปรับพรีโหลดได้ ส่วนโช้คหลังคู่แบบมีซับแทงค์ ฟีลลิ่งถูกใจผู้ทดสอบมากๆเพราะมาแนวนุ่มนวลแต่ไม่ย้วย จัดการกับอาการจากบั๊มพ์ต่างๆรวมถึงเลี้ยวโค้งได้หนึบมั่นใจ หากใครอยากเซ็ทติ้งให้เข้ากับสไตล์การขี่ของตัวเอง ก็ปรับค่าได้ โดยเฉพาะโช้คหลังสามารถปรับค่าได้เต็มที่ทั้งรีบาวด์-สปริงพรีโหลด หลังจากจบทริปที่ต้องเจอกับสภาพทางแย่ๆต่อเนื่องตั้งแต่ วังน้อย-สระบุรี-พระพุทธบาท ได้คำตอบถึงช่วงล่างเดิมๆโรงงานทำมาดีมากครับ สำหรับผมมองว่าใช้งานได้เลยไม่ต้องหาโช้คมาเปลี่ยน
ล้อ–ยาง
ตัวรถพิเศษขนาดนี้ วงล้อก็ไม่ธรรมดาเพราะสะดุดตามาแต่ไกล โดยเป็นล้ออะลูมิเนียมหล่อห้าก้าน ปาดขอบก้านแม็กแล้วปัดเงาดูเท่และหรูหราทีเดียว ล้อหน้าใช้ขอบ 19นิ้ว ล้อหลัง 16 นิ้ว รัดด้วยยาง Metzeler Cruisetec ให้ฟีลลิ่งแบบยางรถสปอร์ต เกาะถนนและเลี้ยวได้คมกริบสมราคาครับ ทริปนี้ช่วงท้ายต้องลุยฝนด้วยยิ่งทำให้ชอบยาง Cruisetec เพราะหนึบ-รีดน้ำดีเยี่ยมจริงๆ
เบรก
ระบบหยุดความเร็ว คือความแตกต่างจากพี่น้องในตระกูล Sport Scout รุ่นอื่นๆ เนื่องจาก 101 ได้รับการ “อัพเกรด” เพื่อรองรับพละกำลังดุๆมาเต็ม ดังนั้นดิสก์หน้าจึงไม่เหงาเพราะเขาใส่มาเป็นคู่ แถมยังยัดคาลิเปอร์สี่ลูกสูบ Brembo แบบเรเดียลเมาท์ จานดิสก์เบรกขนาด 320 มม. ส่วนดิสก์เบรกหลังขนาด 298 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว พ่วงด้วยระบบ ABS 2 ชาแนล บทสรุปง่ายๆสำหรับระบบเบรกชุดนี้คือภายใต้น้ำหนักตัวค่อนข้างมากซึ่งหมายถึงแรงเฉื่อยในการเบรกเยอะกว่า แต่ 101 Scout ให้ฟีลลิ่งเบรกดีเลิศ แม่นยำ พร้อม ABS ตัดละเอียด กำมือเบรกได้เหมาะมือ สั่งหยุดความเร็วได้สนิทนิ่ง วางใจได้จริง!
ฟังก์ชั่น
ในความเป็นโมเดิร์นครูซเซอร์ จึงมีความทันสมัยในฟังก์ชั่นหลักๆมาให้ โดยเฉพาะหน้าปัดทรงกลม TFT ขนาด 4 นิ้ว แสดงผลระบบดิจิทัลจอสีเต็มระบบ ลองใช้งานแล้วชื่นชอบการออกแบบของ INDIAN เพราะนอกจากจะมีปุ่มควบคุมหลัก 2 ปุ่มอยู่บนปะกับแฮนด์ฝั่งซ้าย ควบคุมการเลือกโหมดและเซ็ตติ้งค่าต่างๆ ยังมีปุ่มควบคุมเสริมบนปะกับแฮนด์ฝั่งขวาด้วย แถมยังรองรับการทัชสกรีนในความเร็วใกล้เคียงกับโทรศัพท์มือถือ ตรงนี้เป็นการเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้า สะดวกแบบไหนก็ใช้งานแบบนั้น สามารถจับคู่กับสมาร์ทโฟนผ่านบลูทูธเพื่อใช้งานซอฟต์แวร์ Ride Command ของอินเดียน ที่จะมี GPS พร้อมระบบนำทางแบบโค้งต่อโค้ง (ต้องรออัพเดทว่าตัวที่ส่งมอบลูกค้าจะได้มาครบตามสเปกนี้ด้วยหรือไม่)
ฟังก์ชั่นที่น่าสนใจที่เหลือคือระบบกุญแจ Remote ใช้ง่าย ช่วยให้สตาร์ทรถแบบ one-touch starting กดทีเดียวติด รวมถึงกระจกมองข้างแบบติดปลายแฮนด์และฝาถังน้ำมันสไตล์ย้อนยุคแบบเกลียว
สรุป รีวิว INDIAN 101 Scout 2025
INDIAN 101 Scout 2025 เปิดราคาจำหน่าย 879,000 บาท หลังจากการทดสอบครั้งนี้ บอกได้เลยว่าราคาที่เปิดมาเหมาะมากๆกับสมรรถนะและสไตล์ของตัวรถ ขี่ดีแถมยังมีคาแรคเตอร์โคตรชัด คู่ควรกับการนำเข้าประจำการที่บ้านแน่นอนครับ!!