Skip to content
รีวิว KLX230 Sherpa พิชิตทุกเส้นทางได้ด้วยการควบคุมที่เหนือชั้น
การทดสอบครั้งนี้เราจะทำการ รีวิว Kawasaki KLX230 Sherpa ด้วยการจับมาออกทริปท่องเที่ยวที่ต้องเจอกับสถานการณ์ที่หลากหลายเพื่อมองหาจุดเด่นของรถคันนี้ว่ามีจุดไหนบ้างที่น่าสนใจ
แต่ก่อนอื่นต้องขอพูดถึงที่มาสักหน่อย สำหรับการกลับมาในเวอร์ชั่นใหม่ของ Kawasaki KLX230 ที่มาพร้อมกับรหัสลงท้ายว่า Sherpa ที่มาของรหัสนี้คงเป็นการอ้างอิงถึงชนเผ่าที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้ ๆ กับเทือกเขาหิมาลัย แถบเนปาล ภูฏาน และทิเบต ขึ้นเชื้อเรื่องความอึดความอดทน อยู่ได้ในทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าดินแดนแห่งนั้นจะโหดร้ายแค่ไหนก็สามารถเอาตัวรอดได้ และยังขึ้นชื่อในฐานะลูกหาบที่ช่วยให้ผู้คนสามารถพิชิตยอดเขาเอเวอร์เรสต์ได้ ซึ่งสื่อถึงความ “อึด ถึก ทน” แบบที่ทาง Kawasaki ตั้งใจจะสื่อนั่นเอง
สำหรับโมเดลนี้พื้นฐานยังคงเดิมจาก KLX230 ในเวอร์ชั่นก่อนหน้าที่ทำได้ดี และได้รับความนิยมอยู่ในปัจจุบันทั้งในการท่องเที่ยวและการแข่งขัน แต่มีการปรับให้รถคันนี้ตอบสนองการใช้งานเพื่อการเดินทางท่องเที่ยวได้ดีมากยิ่งขึ้น
ดีไซน์
ดีไซน์ใหม่ เปลี่ยนภาพจำแตกต่างออกไปจากทุกเวอร์ชั่นของรถในตระกูล KLX มาพร้อมกับสีใหม่ MEDIUM SMOKY GREEN สีเขียวเอิร์ธโทน ตกแต่งเพิ่มเติมด้วยสติ๊กเกอร์สีดำล ายพื้นเหล็ก ที่เสริมให้ความรู้สึก เท่ลงตัวสุด ๆ เข้ากันการธรรมชาติ ได้อารมณ์คล้ายกับสีที่ใช้ในรถทหาร ดุดันลงตัวไม่เหมือนใคร
เฟรมแบบเซมิดับเบิลเครเดิลสีใหม่มีเหลือบสีทอง โดนแดดแล้วโดนใจสุด ไฟหน้า ฝาครอบไฟหน้าขนาดกำลังเหมาะลงตัวกับตัวรถให้อารมณ์แบบรถแข่งมาก ๆ การ์ดแฮนด์ใหม่ เสริมโครงเหล็กมาจากโรงงาน ช่วยให้ลุคดูแน่นขึ้น ไม่ต้องไปแต่งเพิ่มทรงสวยอีกด้วย ที่สำคัญสายลุยเค้ารู้กัน ท้ายกระดกแบบนี้ถือว่าทรงสวยเหมือนรถสูตรเลย
เครื่องยนต์
ขุมพลังยังคงพื้นฐานเดิม เครื่องยนต์สูบเดียว 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยอากาศ 2 วาล์วต่อสูบ ปริมาตรกระบอกสูบ 232 ซีซี ระบบเกียร์ 6 สปีด ให้พละกำลังสูงสุด 18 แรงม้าที่ 8,000 รอบต่อนาที แรงบิด 19 นิวตันเมตร 6,400 รอบต่อนาที มาพร้อมถังน้ำมัน 7.6 ลิตร เป็นเครื่องยนต์ที่พิสูจน์ตัวเองมานานแล้วในเวอร์ชั่นก่อนหน้าว่าสามารถใช้งานได้ทั้งท่องเที่ยวจนไปถึงระดับนำไปโมดิฟายเพื่อการแข่งขัน
จุดเด่นคือแรงบิดที่ดี ให้พละกำลังที่ตอบสนองได้สนุก โดยผ่านอัตราทดสเตอร์หน้า 13 ฟัน หลัง 45 ฟัน ขี่ทางดินสนุก แต่ก็ไม่ทิ้งทางดำ โดยความเร็วสูงสุดที่ทำได้ในทริปนี้ก็อยู่ที่ 120 กม./ชม.
ช่วงล่าง
ระบบกันสะเทือนหน้าแบบเทเลสโคปิก ขนาด 37 มม. ระยะยุบ 200 มม. โช้คหลังเดี่ยวพร้อมกระเดื่อง ปรับพรีโหลดได้ ระยะยุบ 23 มม. ถึงด้านหน้าจะไม่ให้เป็นหัวกลับมา แต่หลังจากได้ทดสอบสมรรถนะถือว่าเก็บรายละเอียดได้เยี่ยม บนทางดำความเร็วสูงก็เอาอยู่ไม่ดิ้น เข้าโค้งได้ไม่มีโยน ส่วนต้องมาเจองานในทางดิน หิน ขอน ดันเนินเขา รูดได้เลย ไม่มีชก ระบบช่วงล่างของทาง Kawasaki ถือว่าเดิม ๆ ขึ้นชื้อเรื่องประสิทธิภาพอยู่แล้ว
ระบบเบรก ด้านหน้าดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 265 มม. คาลิเปอร์แบบ 2 ลูกสูบ เบรกหลังดิสก์เบรกเดี่ยว 220 มม. คาลิเปอร์เบรกลูกสูบเดี่ยว ไฮไลท์อยู่ที่ระบบ ABS 2 Channel เปิด/ปิดทั้งล้อหน้าและล้อหลัง ควบคุมผ่านปุ่มที่ปะกับทางซ้ายมือ
ระบบชุดนี้สอบผ่านทุกประการ ระยะเบรคดีไล่น้ำหนักมาได้ดี ระบบ ABS มีการตัดการทำงานได้ละเอียดใช้ในทางดินและทางดำได้ดี แต่ประเด็นที่เราจะพูดถึงคือเรื่องของระบบ ABS มีผลมากน้อยอย่างไรต่อการขับขี่ทางดิน หลังจากได้ทดลองแล้ว สำหรับมือใหม่หรือคนที่เริ่มต้นขับขี่รถแนว Enduro ถือว่าเข้ามาช่วยให้ปลอดภัยขึ้นได้เยอะ ขี่แล้วควบคุมได้ง่าย
แต่สำหรับสายลุย ก็สามารถปิด ABS แล้วก็ขี่ออกแอ็คชันได้ตามที่ถนัดได้เลย เรียกว่าปรับตัวได้ก็สามารถใช้ให้เกิดประโยชน์ขึ้นได้
มิติการควบคุม
ขนาดกว้าง x ยาว x สูง 920 X 2,080 X 1,150 มม. ระยะฐานล้อ 1,365 มม. ระยะห่างจากตัวรถถึงพื้น 240 มม. ความสูงเบาะนั่ง 845 มม. น้ำหนักรถรวมของเหลว 134 กก. ถือว่าไม่สูงมากและน้ำหนักเบา
ท่านั่ง เบาะตรงยาวตอนเดียวนั่งสบาย พาร์ทใหม่เพรียวบางกว่าเดิมนั่งหนีบรถได้กระชับ พักเท้าเหล็กหนามยึดเกาะดีเยี่ยมแฮนด์ต่ำหน่อย กว้างพอประมาณ ยื่นแขนไม่ไกล เดินทางไกลไม่ปวดหลัง ท่านั่งควบคุมง่าย
ท่ายืน ผมสูง 180 ซม. ปลายเท้าวางบนพักเท้าได้มั่นคง ตำแหน่งกริปบริเวณตั้งแต่ข้อเท้าถึงหัวเข่ากระชับสุดที่ปลายถังตรงเบาะพอดี หนีบรถง่าย แฮนด์กว้างกำลังดี แต่ต่ำไปนิดสำหรับความสูงผม แนะนำเสริมได้สบายของแต่งเพียบ
เป็นรถที่มีมิติการควบคุมที่ง่ายและดีเยี่ยมถูกใจ นักทดสอบมาก ด้วยความเพรียวบางของการดีไซน์มือใหม่อยากเริ่มต้นเส้นทางสายนี้แนะนำอย่างยิ่ง และสิ่งที่สัมผัสได้ทันทีคือ สาว ๆ ครับเชิญทางนี้ได้เลยเหมาะที่สุด
ล้อจะเป็นล้อซี่ลวด หน้า 21 นิ้ว หลัง 18 นิ้ว ในสไตล์รถ Enduro มาพร้อมกับยาง IRC Trails GP-22R ขนาดยางหน้า 2.75-21″ 45P ยางหลัง 4.10-18″ 59P เป็นแบบใช้ยางใน เป็นยางวิบากแบบสปอร์ตที่เหมาะสำหรับการขับขี่บนสภาพถนน เอาอยู่ไม่ว่าจะทางดิน ทางดำหนึบเอาอยู่ แต่อยากลุยมากกว่านี้ก็สามารถเปลี่ยนเป็นยางหนามก็จะพร้อมลุยมากว่า
เรือนไมล์ Full Digital บอกข้อมูลครบครัน ทั้งความเร็ว รอบเครื่องยนต์ เกจน้ำมัน รวมถึงแจ้งเตือนเปิดปิด ABS และสามารถเชื่อมต่อสมาร์ทโฟนได้ แฮนด์แฟตบาร์ทรงกว้างจาก DID เบาแข็งแรง
สรุป
Kawasaki KLX230 Sherpa เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการเปิดโอกาสที่คุณกำลังมองหาความท้าทายใหม่ในการขับขี่ เป็นรถที่เป็นมิตรควบคุมง่าย และสามารถพัตนาคุณกับรถไปได้พร้อม ๆ กันด้วยทั้งสกิลและการปรับแต่งตัวรถ สายท่องเที่ยวติดแกลม อยากแค่มีรถสักคันที่เดินทางไปกับคุณได้แบบชิว ๆ สายแคมปิ้ง เชิญทางนี้เลยครับ และที่สำคัญนอกจากคุณผู้ชายสายลุยจะขี่ได้สาว ๆ ตัวเล็กที่อยากฝึกขับขี่ในแนวนี้ ตอบโจทย์แน่นอน ด้วยเครื่องยนต์ที่ดูแลง่ายไม่จุกจิก ช่วงล่างที่สมรรถนะเกินตัว ฟังชั่นและดีไซน์ที่ลงตัวสุด ๆ ซึ่ง ทั้งหมดนี้มาในราคาเพียง 159,000 บาทเท่านั้น
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่
