บุก Troy Lee Designs เฮดควอเตอร์ ต้นกำเนิดแบรนด์ดังระดับโลก
อีกครั้งแล้วที่เราได้มีโอกาสพิเศษออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ดินแดนแห่ง ความฝัน และ เสรีภาพ สหรัฐอเมริกา แหล่งรวมวัฒนธรรมทีให้กำเนิดสุดยอดนักกีฬามากมาย รวมไปถึงกีฬามอเตอร์สปอร์ตอย่าง “โมโตครอส” จุดกำเนิดความนิยมที่มีมายาวนานก็เริ่มต้นขึ้นที่นี่ และยังมีรายการแข่งขันระดับโลก เช่น AMA Supercross Championship ที่รวมตัวเหล่านักแข่งแถวหน้าของโลกไว้ในรายการนี้อีกด้วย การเดินทางในครั้งนี้เราจะพาทุกท่านไปบุก Troy Lee Designs เฮดควอเตอร์ หรือบ้านของ “ลุงทรอย” เพื่อทำความรู้จักกับแบรนด์อุปกรณ์ขับขี่ที่อยู่คู่กับวงการการแข่งขันที่เกี๋ยวกับรถทุกประเภทที่มีล้อมากว่า 44 ปี จะมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่ร่วมติดตามไปด้วยกันครับ
แบรนด์อุปกรณ์ขับขี่รถวิบากและจักรยานเสือภูเขา Troy Lee Designs ปัจจุบันแบรนด์ได้รับความนิยมไปพร้อมกันกับการเติบโตของกีฬาขับขี่รถวิบากและจักรยานเสือภูเขาจากทั่วทุกมุมโลก จนทำให้เกิดความนิยมในแบรนด์เป็นวงกว้างข้ามมาถึงฝั่งเอเชีย รวมไปถึงในไทย โดยมีผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายตัวแทนหนึ่งเดียวคือบริษัท 2Power Thailand ในนามของ Troy Lee Designs Thailand และในครั้งนี้ทางแบรนด์ได้รับจดหมายเชิญจากทาง Headquarter ที่ตั้งอยู่ที่เมืองโคโรน่า แคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเข้าไปเยี่ยมชมที่บริษัทแม่ และที่ทำงานของ Troy Lee ผู้ก่อตั้งแบรนด์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ
ประวัติ
ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับแบรนด์แบบสรุปสั้น ๆ กันก่อน ผู้ก่อตั้ง Troy Lee โดยผมจะขออนุญาตเรียกว่าลุงทรอย แทนล่ะกันนะครับ ลุงทรอย คือวัยรุ่นวัยมันที่ชื่นชอบในกีฬาขับขี่รถวิบาก และยังเป็นนักแข่งตัวตึงในยุคนึงอีกด้วย ซึ่งเป็นเพราะอิทธิพลที่ได้รับมาจากคุณพ่อของเค้า Larry Lee ที่เป็นนักแข่งทั้งรถวิบาก แฟล็ตแทรค และฮอตร็อด ที่มีชื่อเสียงอยู่พอตัวจึงทำให้ลุงทรอย ซึมซับมาในวงการนี้ตั้งแต่เด็ก
ปี ค.ศ. 1981 ถือเป็นจุดเริ่มต้น Troy Lee Designs หลังจากที่ตัวเองได้ค้นพบว่ามีความชอบส่วนตัวในเรื่องงานศิลปะ จึงเริ่มต้น เพ้นต์งานลวดลายต่าง ๆ ลงในสิ่งของมากมาย ไม่ว่าจะตู้ไปรษณีย์ รถแข่ง เตาอบ แม้กระทั่งเครื่องบิน รวมไปถึงหมวกกันน็อค แต่ที่สำคัญเลยก็คืองานศิลปะของลุงทรอยนั้นมีเอกลักษ์เฉพาะตัวและเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
งานออกแบบลวดลายบน “พีคหมวกกันน็อควิบาก” ให้กับนักแข่ง ถือเป็นงานที่ได้รับความนิยมมากที่สุด รวมไปถึงการคัสตอมในเรื่องของระบบแอโรไดนามิกให้กับพีคหมวกก็เป็นเรื่องที่ดึงดูดและทำให้ลุงทรอยมีชื่อเสียงขึ้นมา และได้เริ่มต้นสร้างผลงานของตัวเองในห้องครัวของคุณแม่ แต่ก็ต้องบอกว่างานนี้ไม่ได้สวยหรูแบบที่คิด เมื่อลุงเล่นเอาเตาอบของคุณแม่มาอบพลาสติก กลิ่นของสารเคมีก็เลยคละคลุ้งไปทั้งบ้านและชุมชน จนคุณแม่ต้องไล่ให้ลุงทรอยไปหาที่ทำงานใหม่
เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ของการก่อตั้งออฟฟิศแห่งแรก โดยยึดเอาโรงจอดเครื่องบินเก่าใกล้ ๆบ้านของลุงที่ เมืองโคโรน่า แคลิฟอร์เนีย และหลังจากนั้นในยุค 90 เป็นยุคที่การพ่นสีหมวกกันน็อคแบบสั่งทำพิเศษได้รับความนิยมมาก ขนาด Jeremy McGrath อดีตนักแข่งโมโตครอส และซูเปอร์ครอสในตำนานก็เข้ามาสร้างความฮือฮาโดยให้เขาพ่นสีหมวกกันน็อคแบบสั่งทำพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ที่สุดให้กับเขา
และยังมีผลงานที่ทำร่วมกับนักแข่งอีกหลายคน ไม่จะนักแข่งโมโตครอส นักแข่งจักรยานเสือภูเขา นักแข่งรถยนต์ทางเรียบ อเมริกันฟุตบอล เลียกได้ว่าฮอตสุด ๆ ซึ่งในระหว่างนั้นลุงทรอยเองก็ได้เริ่มพัตนาสินค้าชุดอุปกรณ์ต่าง ๆ ของตัวเองออกมาอยู่เรื่อย ๆ
ที่ผ่านมา 40 กว่าปี ลุงทรอยก็ได้ผลิตผลงานออกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นชุดขับขี่ หมวกกันน็อค และเสื้อผ้าต่าง ๆ ในแบรนด์ Troy Lee Designs ซึ่งให้ความสำคัญกับความสวยงามและความปลอดภัยอยู่เสมอ เพราะไม่ว่าจะเป็นลวดลาย หรือการพัฒนาสินค้าทาง Troy Lee Designs ก็จะมีความเข้มข้นและเข้มงวดมากขึ้นตามสโลแกน “Pushing The Limits of Art & Speed” ที่หมายความว่า “ท้าทายขีดจำกัดทั้งศิลปะและความเร็ว” ต้องบอกว่าจริง ๆ แล้วตลอด 44 ปีที่ผ่านมีอีกหลายเรื่องที่น่าประทับใจอีกมาก แต่ถ้าเล่าหมดจะยาวเกินไป ไว้มีโอกาสเดี๋ยวจะมาเล่าให้ฟังกันอีกครั้ง เอาเป็นว่าตอนนี้ผมยืนอยู่ที่หน้า Headquarters Troy Lee Designs แล้วตอนนี้มาดูกันว่าด้านในผมไปเจออะไรบ้าง ตามมาครับ
ว้าวสุด ๆ
ใครจะไปคิดว่าที่เฮดควอเตอร์จะเป็นโกดังโรงไม้สุดคลาสสิค แตกต่างโดดเด่นออกมาจากบริเวณรอบ ๆ ที่เต็มไปด้วยโรงงานและออฟฟิศแบบทั่ว ๆ ไป ซึ่งส่วนแรกที่เราจะเจอเป็นภาพที่ติดอยู่ที่กระจกนั้นคือภาพของสนาม Angel Stadium สนามเบสบอลที่ใช้ในการแข่งขัน AMA Supercross Championship ในภาพเราจะเห็นโลโก้ Troy Lee Designs และ Ducati นั้นคือโปรเจกต์ล่าสุดของทางแบรนด์ที่ได้มีการจับมือกับ Ducati ค่ายรถยักษ์ใหญ่เพื่อสร้างทีมแข่งใหม่พร้อมลุยสึก AMA ในฤดูกาลหน้าด้วยรถรุ่นใหม่ Desmo450 MX แต่ตอนนี้ยังไม่มีนักแข่ง ยังไงก็ต้องรอลุ้นกันต่อไป
ซึ่งในปัจจุบันมีการปรับเปลี่ยนและปิดสำหรับบุคคลทั่วไปเป็นการชั่วคราว แต่ด้านในทีมงานยังคงทำงานกันอยู่ตลอดใช้เป็นออฟฟิศหลักสำหรับการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และงานคัสตอมหมวก และที่สำคัญคือนี่คือที่ทำงานของลุงทรอย ซึ่งแน่นอนว่าเราก็จะพาเข้าชมห้องทำงานของลุงแกด้วย
พอได้เข้ามาด้านในก็พบกับผลงานมากมายถูกจัดเก็บไว้ ภาพวาดผลงานของทีมงานที่ติดไว้ที่ฝาผนังสวยงามมากและงานละเอียดมากๆ หมวกกันน็อคมากกว่า 100 ใบที่ถูกจัดวางไว้ทั่วทุกสาระทิศ และไม่ใช่แค่หมวกมอเตอร์ไซค์ มีหมด หมวกจักรยาน หมวกรถแข่งทางเลียบ หมวกอเมริกันฟุตบอล หมวกรถยนต์ แต่ล่ะใบคือดีไซน์ไม่เหมือนกันสักใบถูกคัสตอมลวดลายได้สวยงามประหนึ่งงานศิลปะ และยังมีชุดแข่ง รถบังคับ จักรยาน มอเตอร์ไซค์ กีต้าร์ ฯลฯ
และมีมุมนึงที่ผมได้เจอกับรถแข่งโมโตครอสของ Justin Barcia #51 นักแข่งพรีเซนเตอร์ของแบรนด์คนปัจจุบันที่ยังคงโลดแล่นอยู่ในการแข่งขัน AMA Supercross Championship ในทีม Rockstar Energy GasGas Factory Racing Team และที่ทำผมทึ่งไปเลยในมุมนึงคือ เขาเอารถ G-Force GF01 แขวนโชว์บนผนัง ซึ่งคันนี้เป็นรถแข่งของ Jeff Ward ที่ใช้ในการแข่งขัน Indianapolis 500 ลุงเค้าอินดี้จริงๆ
ผลงานที่ถูกจัดเก็บไว้นั้นล้วนเต็มไปด้วยเรื่องราวประวัติศาสตร์มากมาย ทำเอาผมนี่ตาลายอยากจะมีเวลาอยู่ที่นี่สัก 3 วัน จะได้เก็บข้อมูลให้ได้มากกว่านี้ มันตื่นเต้นไปหมดทุก ๆ มุมห้องมีผลงานมากมายที่ไม่คาดคิดว่าจะได้เห็น บางอันล้ำซะจนผมต้องอุทานว่า “ลุงคิดอะไรอยู่”
หลังจากโดนทุบด้วยผลงานน่าตื่นตาตื่นใจยังไม่ทันได้ตั้งตัวผมก็เดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องทำงานของ “ลุงทรอย” หน้าประตูที่มีป้าย Troy Lee Designs และเขียนว่า Out of This World หง่อออ !!! เจ๋งจ๊าดดด หลังจากทีมงานเปิดไฟ ประวัติศาสตร์ที่อยู่ในห้องผลงานต่าง ๆ ก็ได้วิ่งถาโถมเข้ามาใส่ผมจนขนลุกซู่!! ภาพวาดหลังห้องสีชมพูคือ ภาพที่ติดตาเป็นเครื่องยืนยันว่าที่นี่แหละคือที่ที่ลุงทรอยทำงานจริง ๆ ภายในห้องถูกตกแต่งด้วยชิ้นงานมากมาย ทั้งหมวกกันน็อค ชุดแข่ง ภาพวาด เดาว่าที่อยู่ในห้องนี้คงจะเป็นผลงานชิ้นสำคัญของลุงทรอย ที่เลือกเก็บไว้ใกล้ตัว เป็นห้องที่เห็นปุ๊บก็รู้เลยว่านี่คือห้องของศิลปินที่แท้จริง แต่เอ๊ะ !!! มีใครเห็นเหมือนผมไหม หมวกกันน็อคที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ นั้นอาจจะเป็นผลงานชิ้นใหม่ล่าสุดที่ลุงกำลังทำอยู่ก็เป็นได้
ถัดจากห้องทำงานของลุงทรอย เราก็จะเข้าสู่ห้องปฏิบัติการที่ติดอยู่กับห้องลุงทรอยเลย เหตุผลที่อยู่ใกล้ขนาดนี้ทีมงานเล่าให้ฟังว่า ลุงทรอย ต้องการที่จะติดตามชิ้นงานด้วยตัวเองอยู่เสมอการที่ห้องปฏิบัติการอยู่ใกล้ก็ทำให้สะดวกต่อการทำงาน และลุงมักมีไอเดียใหม่ ๆ อยู่เสมอเลยอยากอยู่ใกล้ ๆ เพื่อที่จะได้นำไอเดียไปคุยกับทีมได้ตลอดเวลา
ห้องนี้ก็จะเป็นพื้นที่สำหรับงานสี งานออกแบบ และงานคัสตอม วันนี้เป็นวันที่ทีมงานอยู่กันไม่เยอะมากเนื่อจากออกไปทำงานภาคสนามกัน รวมถึงลุงทรอยด้วย แต่คนที่อยู่ทั้งสองท่านถือเป็นคนสำคัญมาก เพราะนี่คือ บุคคลที่อยู่กับลุงทรอยมาตั้งแต่เริ่ม ทั้ง 2 ท่าน เป็นมือขวา และมือซ้ายประจำตัวลุงทรอยเลย คนแรกน้า “เจ” มือขวา คนทีค่อยช่วยต่อยอดงานออกแบบต่าง ๆ ให้กับลุงทรอย และเป็นมือพินสไตป์งานน้าล้ำมากและได้มีโอกาสเห็นแกลากเส้นให้ดูแบบสด ๆ อีกด้วย และผมได้มีโอกาสได้สอบถามว่า มีแนวคิดวิธีการสร้างผลงานอย่างไร
น้าบอกว่าเป็นเรื่องของประสปการณ์ ที่ทำงานร่วมกับลุงทรอยมา ก็เลยสามารถรู้แนวทางที่จะไปต่อยอดงานออกแบบได้ง่าย ส่วนแรงบันดาลใจก็มาจากดนตรี ภาพยนต์ และประสปการณ์ชีวิต ที่หยิบลงมาใส่ในผลงานด้วย
ส่วนอีกคนที่พูดน้อยแต่ต่อยหนักสุดน้าเค้าชื้อ “อิซีโต้” มือซ้าย น้าคนนี้จะเป็นคนทำงานสี วางเลย์เอาท์ของชิ้นงาน แปะสติ๊กเกอร์ และลงสีแอร์บรัช งานสีฝีมือเอาเรื่องสุด ๆ สไตล์แบบฮ็อตรอด งานละเอียดยิบ เลเยอร์เยอะมาก ๆ
นอกจากนั้นเราก็ได้เห็น ชาร์ตสีที่ลุงทรอยชอบใช้ สีสันแบบจี๊ดโดนใจ มีสไตล์ชัดเจนตามแบบฉบับ ยังมีอีกหนึ่งจุดที่ก็ทำผมเซอร์ไพรส์ไม่น้อย กระดานที่เต็มไปด้วย ฟอนต์ ตัวเลข และตัวหนังสือ ที่คุณสามารถเลือกคัสตอมใส่ลงไปในหมวกของคุณได้ และบริการนี้มีอยู่ในเว็บไซต์ออฟฟิเชียล โดยมีอัตราบริการกับงานที่จะได้แตกต่างกันเหมือนจะคิดเป็นราย ชม. งานนี้ไม่จำกัดในเรื่องของแบรนด์
โดยสรุปแล้วที่สำนักงานใหญ่แห่งนี้จะเป็นที่พัตนาผลิตภัณฑ์ งานดีไซน์และงานคัสตอมเป็นหลัก และอนาคตจะถูกปรับปรุงกับมาเป็นช็อปสโตร์จำหน่ายสินค้า รวมไปถึงจะถูกพัตนาให้เป็นสถานที่สำหรับรวมตัวจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของแบรนด์อีกด้วย แต่ยังไม่มีกำหนดการ ซึ่งก็ร่วมลุ้นกันต่อไป
ใจจริงแล้วผมอยากจะมีเวลาสำรวจและเก็บข้อมูลให้เพื่อน ๆ มากกว่านี้ เพราะสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจมากมาย อัดแน่นอยู่ในผลงาน ในทุก ๆ มุมห้อง และสิ่งที่ผมสัมผัสได้เลยคือแนวคิดเฉพาะตัวที่ลุงทรอยถ่ายทอดลงไปในชิ้นงานทุกชิ้นล้วนเกิดจากความใส่ใจ เพื่อให้ผลงานของเขาโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ทะลุทุกกฎเกณฑ์ จินตนาการที่ไม่มีขอบเขต บางชิ้นงานที่เราเห็น ถูกสร้างมานานก่อนผมเกิดซะอีก แต่การออกแบบล้ำกว่าในปัจจุบันไปแล้ว เพราะฉะนั้นผมรับรองได้เลยว่าผู้ที่เลือกใช้อุปกรณ์ขับขี่รถไม่ว่าจะ มอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานเสือภูเขาของทางแบรนด์ สิ่งที่คุณได้ติดไปด้วยนั้นก็คือ ประวัติศาสตร์ทีอัดแน่นมามากกว่า 44 ปี แล้วมันเริ่มต้นในห้องครัวของคุณแม่ ง่าย ๆ คือ เท่ไหมไหนบอกผมหน่อยครับเพื่อน ๆ
ส่วนเรื่องที่ทำให้ผมประทับใจอีกเรื่องคงเป็นเรื่อง “Street Wear”
คอลเลคชั่นเสื้อผ้า หมวก กางเกง ออกแบบลวดลายออกมาได้สวยงามลงตัวทุก ๆ ชิ้น และสิ่งที่ผมได้สัมผัสในการเดินทางครั้งนี้คือวัยรุ่นที่นั้นนิยมใส่เสื้อผ้าของ Troy Lee Designs เหมือนเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ Street Wear ที่นิยมเลยก็ว่าได้เพราะผมได้มีโอกาสได้ไปที่ Troy Lee Designs Laguna Beach ที่เป็นช็อปจำหน่ายสินค้าบอกเลยว่าวัยรุ่นเข้ามาช็อปกันเพียบ มิกซ์แต่งตัวง่ายในสไตล์วัยรุ่นเมกัน
ปัจุบันนอกจากผลงานการออกแบบที่สวยงามอุปกรณ์ของทาง Troy Lee Designs ก็ยังคำนึงถึงการใช้งานที่สะดวกสบาย สวมใส่ง่าย สำคัญสุดคือเรื่องของเซฟตี้ความปลอดภัย เป็นอีกทางเลือกของนักขับขี่ไม่ว่าจะสายวิบาก แอดเวนเจอร์ หรือสายปั่นเสือภูเขาไม่ควรพลาด และความลับที่ซ่อนอยู่ในการสวมใส่เสื้อผ้าของ Troy Lee Designs คือห้ามบอกใครเลยนะ!! “เราจะเท่เกินคนอื่นเค้า”
ประทับใจมากครับสำหรับทริปนี้ยังไงก็ต้องขอขอบคุณทาง บริษัท 2Power Thailand ในนามของ Troy Lee Designs Thailand สำหรับโอกาสสุดพิเศษในครั้งนี้ให้เรา MTC ได้เก็บเรื่องราวน่าสนใจแบบนี้มาฝากแฟนเพจและใครที่อยากได้ฟีลลิ่งมากกว่านี้ติดตามเราใน YT : Motocross Magazine ได้เลยสำหรับเรื่องราวการเดินทางในครั้งนี้ และยังมีเรื่องราวที่น่าสนในอีกมากมายยังไงติดตามชมในทุก ๆ ช่องทางของเรานะครับสำหรับทริปนี้
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่