Skip to content
รีวิว 2025 Yamaha PG-1 ประหยัดจริง วิ่งในเมือง..เหมาะเลย!
ได้รู้กันซะที!! ว่าฟีลลิ่งเป็นยังไง หลังได้ทดสอบ รีวิว New Yamaha PG-1 เจ็น 2 หากต้องเอามาขี่แบบ “ใช้ทุกวัน” วิ่งถนนในเมืองทั่วไปจริง ๆ ตามสโลแกน Every Day Playful ที่ต้องเจอทั้งเรื่องรถติดและต้องฟิตทำความเร็วในเวลาเร่งรีบ รถคันนี้จะมีบทสรุปออกมาในแบบไหนกัน..!??
เหตุผลของการรีวิวครั้งนี้ก็เพื่อค้นหาข้อมูลที่ทุกคนอยากรู้ ..กินน้ำมันเท่าไหร่ ..วิ่งแค่ไหน จัดไปครบ ๆ..ตามนี้!
1. มิติ–การควบคุมขับขี่
คำว่า “มุดไหวเปล่า..ซอกแซกสะดวกแค่ไหน? คือความท้าทายอย่างแรกของการนำ New PG-1 มาขี่ใช้งานจริงในเมือง ซึ่งโดยปกติทีม MTC ของเราก็ใช้ชีวิตอยู่ในย่านพระราม 9 – ลาดพร้าว – รามคำแหง อันเป็น“แหล่งรถติด”เน้น ๆ อยู่แล้ว
โจทย์ที่ตั้งใจออกไปฝ่าการจราจรกับช่วงแฮนด์กว้าง 805 มม.ของ New PG-1 คำตอบที่พบคือ ยังมีความคล่องตัวไม่มากนัก หากต้องฝ่าสภาวะการจราจรในระดับ “โคตรหนาแน่น” ในแบบรถเคลื่อนตัวช้า-ช่องว่างระหว่างเลนมีน้อย
ช่วงแรกที่ออกไปลองขี่โซนนี้ ผมต้องตั้งสมาธิเล็งพารถผ่านช่องว่างเหล่านั้นไปให้ได้โดยไม่สะกิดกระจกมองข้างของรถยนต์ เมื่อสร้างความคุ้นเคยไปสักพักก็เริ่มจับจังหวะมุดได้คล่องตัวขึ้น ถ้าสภาพจราจรทั่วไปที่การเคลื่อนตัวขยับไม่จอดนิ่ง การขับขี่ใช้งานกลางเมืองก็ไม่มีปัญหาครับ ไปได้สบาย
แฮนด์บาร์กว้างแบบนี้ ความจริงมีข้อดีรองรับการเอาไปใช้งานขี่ในสภาพทางแย่ ๆ หรือเส้นทางท่องเที่ยวได้ดี เพราะคุณสมบัติการช่วยกระจายแรงสะเทือนที่ส่งมาจากล้อหน้า ลดอาการมือชาได้เลยนะ
ส่วนข้อสังเกต “ระดับของแฮนด์” ที่รู้สึกว่า “ต่ำ” ไปสักนิด ก็แก้ได้ไม่ยาก เพราะแค่หาตุ๊กตายกแฮนด์มาใส่ก็จบเรื่อง
ขณะที่ประเด็นความสูงเบาะนั่ง 795 มม. กับความสูงท้องรถ 190 มม. คนร่างเล็กอย่างผู้ทดสอบ สามารถลงเท้าทั้งสองข้างได้เกือบเต็มครับ เนื่องจากเบาะนั่งคนขี่ถูกดีไซน์ให้มีลักษณะหัวเบาะเรียวและแคบ ก่อนจะขยายกว้างขึ้นเล็กน้อยในช่วงปลายเบาะ บอกเลยว่ามีผลต่อความคล่องตัวที่ดีมาก ๆ
ส่วนเบาะคนซ้อนที่แยกกัน ว่ากันตรงๆถ้านั่งซ้อนนาน เบาะเดิมชิ้นนี้อาจจะทำให้เกิดอาการปวดก้นได้เพราะบางและค่อนข้างแข็ง ดังนั้นหากใครต้องใช้เวลาอยู่กับรถเยอะหรือสายออกทริป ก็ควรเสริมเบาะให้ฟองน้ำหนานุ่มขึ้น หรือหาเบาะเจลมาใช้จะเหมาะสุด
ถังน้ำมันขนาดความจุ 5.1 ลิตรที่อยู่ใต้เบาะคนขี่ มีผลดีต่อคนที่ใช้เบาะคนซ้อนเป็นตำแหน่งบรรทุกของ เติมน้ำมันทีนึง ไม่ต้องรื้อให้วุ่นวาย
สุดท้ายคือเรื่องน้ำหนักตัวรถรวมของเหลวที่ 109 กก. อันนี้ถือว่าดีครับ กำลังเหมาะ เพราะเราไม่ได้ขี่รถอย่างเดียว อาจจะต้องเข็น ยก หมุน หรือดึงรถขึ้นขาตั้งคู่อะไรแบบนั้นด้วย ซึ่งน้ำหนักขนาดนี้นอกจากคล่องตัวแล้ว ยังไม่เป็นภาระสำหรับผู้ขับขี่ร่างเล็กหรือสาว ๆ ที่ชื่นชอบPG-1
2.เครื่องยนต์ –ท็อปสปีด–อัตราสิ้นเปลือง
จากพื้นฐานเครื่องยนต์ 115 ซีซี. เสื้อลม หัวฉีด เป็นระบบ 4 เกียร์วนแบบเดียวกับฟินน์ แต่ความต่างอยู่ตรงที่การเข้าเกียร์ของ PG-1 กระชับกว่าชัดเจนครับ รู้สึกว่าเกียร์นุ่มแต่รอยต่อระหว่างเกียร์ไม่หนืดแบบฟินน์
ในจุดนี้ยามาฮ่าได้ให้ข้อมูลไว้ด้วยว่าแมพปิ้งหัวฉีดแตกต่างกัน ทำให้อัตราเร่งรอบต้นเค้นได้สนุกกว่า ขณะที่อัตราทดสเตอร์หน้า 13 หลัง 40 หากเอามาใช้งานทุกวันแบบนี้ก็สบาย ๆ ไม่ตึงมาก จังหวะสับเกียร์ลงเร่งแซงก็ตอบสนองได้ดี แน่นอนว่าสเตอร์หลัง 40 ก็รองรับเอาไปเที่ยวหรือใช้งานขึ้นดอยได้อยู่แล้ว
การทดสอบครั้งนี้ มีโอกาสออกไปวิ่ง Top Speed ปรากฏว่าทำได้ 101 กม./ชม. ก็เป็นตัวเลขที่สายเดินทางน่าจะพอใจ เพราะเพียงพอสำหรับวิ่งทริป
ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เติมเต็มถังแล้วขับขี่ใช้งานจนได้ระยะทางรวม 116.7 กม. จากนั้นเติมน้ำมันคืนเต็มถังเหมือนเดิม แล้วคำนวนการกินน้ำมันออกมาได้ที่ 54.35 กม./ลิตร (ถัง 5.1 ลิตร) ก็เป็นคำตอบที่ชัดเจนครับว่า ประหยัดน้ำมันเอาเรื่อง
3. ระบบช่วงล่างโคตรนุ่ม –ระบบเบรก ABS
อีกหนึ่งความแตกต่างชัดเจนจากฟินน์คือ “ระบบช่วงล่าง” ซึ่ง PG-1 ให้กันสะเทือนได้นุ่มนวลมาก ๆ ทั้งโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิกปกติ และโช้คหลังคู่ ที่เซ็ทอัพใหม่ให้มีช่วงยุบ “ยาว” กว่าเดิม ด้านหน้ายืดช่วงยุบไปที่ 130 มม. ด้านหลัง 109 มม. เมื่อทำงานร่วมกับยางแบบมียางในขอบล้อ 16 นิ้ว ขนาด 90/100-16 ซึ่งเน้น หน้ากว้าง-แก้มสูง ผลคือนุ่มจริงและไม่มีอาการ “ยัน” เมื่อเราผ่านไปเจอหลุม (แม้จะซ้อนสองก็ตาม)
ช่วงล่างนุ่มแบบนี้ จะว่าไปก็เหมาะกับใช้งานในเมืองหลวงแบบกทม.ที่มีหลุมบ่อโคตรเยอะ หรือจะเอาไปเดินทางระยะไกลก็ตรงโจทย์ เพราะช่วยลดความเหนื่อยและเป็นส่วนหนึ่งของการช่วยลดความเสี่ยงอุบัติเหตุได้
ระบบเบรก อีกหนึ่งทีเด็ดและข้อบ่งชี้ความ “โคตรคุ้ม” ที่ทำให้เปรี้ยงปังอยู่ในขณะนี้ คือการปรับเบรกหน้า ขยับจานดิสก์ขึ้นเป็น 245 มม.แล้ววางคาลิเปอร์พร้อมระบบ ABS มาให้เสร็จสรรพ ส่วนระบบเบรกหลังยังเป็นดรัมเบรก แต่ฟีลลิ่งการสั่งหยุดความเร็ว บอกเลยว่าดีมาก ๆ ทั้งการทดสอบเบรกและเบรกกระทันหันจากสถานการณ์จริงทำได้มั่นใจจริง ๆ และพาให้เราเอาตัวรอดจากความปั่นป่วนของการจราจรในกทม.ได้ในหลายจังหวะเลยครับ
4.จอดิจิทัล ฟังก์ชั่นมาครบๆ
ระบบไฟส่องสว่าง New PG-1 ใช้หลอดฮาโลเจน และหลอดไส้ทั้งระบบ ข้อดีคือหาง่าย ไม่แพง ทริปนี้มีโอกาสทดสอบใช้งานช่วงกลางคืนด้วย พบว่าระดับไฟต่ำดีมาก เมื่อกดเปิดไฟสูง ลำแสงส่องครอบคลุมได้พอดี ไม่เชิดเกินไป สำหรับผู้ทดสอบเองนี่จัดว่าเป็นอีกรุ่นที่ระดับไฟเดิม ๆ อยู่ได้เลยไม่ต้องจูน
หน้าปัดเรือนไมล์ เป็นอีกจุดเปลี่ยนสำคัญของเจนนี้ กับจอทรงกลมแบบ “ฟูล ดิจิทัล” ยัดฟังก์ชั่นมาครบมาก เอาง่าย ๆ คือทำให้ PG-1 เป็นรถเล็ก 115 ซีซี. ที่มี “วัดรอบ” ให้ด้วยซะงั้น เฟี้ยวจัด! นอกจากนั้นยังกดดูอัตราสิ้นเปลืองแบบเฉลี่ย และเรียลไทม์ได้ สามารถเซ็ททริปได้สองทริป รวมถึงปรับความสว่างหน้าจอได้ 3 ระดับ เมื่อใช้งานในสภาพแสงน้อยหรือกลางคืนจะเห็นไฟแบ็คไลต์เป็นสีฟ้าสบายตา
เบาะนั่งแบบแยก จะสังเกตว่าเชพเบาะออกไปทางทรงเล็ก เน้นความกระชับ แม้กระทั่งเบาะคนขี่เองก็ให้ปลายเบาะที่เรียว เบาะคนขี่ค่อนข้างยาวและปาดให้บานออกเล็กน้อยในช่วงใกล้รอยต่อเบาะคนซ้อน (จุดนี้น่าจะทำมารองรับสรีระคนขี่หลาย ๆ ไซส์) วัสดุหุ้มเบาะและงานเย็บสวยงาม แต่หลังจากขี่ยาว ๆ ใช้เวลาอยู่กับรถนาน รู้สึกได้ว่าเบาะค่อนข้างแข็งครับ ดังนั้นในประเด็นนี้อยากแนะว่าใครที่ต้องใช้รถตลอด อาจจะต้องเสาะหาเบาะเจลมาเป็นตัวช่วย หรือเข้าร้านเบาะปรับเรื่องความหนา-นุ่มของนวมสักหน่อย ก็ไม่น่าเป็นเรื่องใหญ่อะไร
ยาง Block ลายใหม่ IRC GP22 ขอบ 16 นิ้ว หลัก ๆ คือการปรับ “ดอกยาง” ให้ใหญ่ขึ้น หน้ายางกว้าง 90/100-16 เท่ากันหน้า-หลัง ลองแล้วตอกย้ำเลยว่ายางบล็อครุ่นนี้เกาะถนนดีเกินคาด การทรงตัวก็เสถียรขึ้นกว่าเก่า ที่ได้เพิ่มมาคือความนุ่มนวลไม่ว่าจะทางเรียบหรือทางไม่เรียบ สำหรับผู้ทดสอบเอง นี่เป็นยางบล็อคที่ขี่ความเร็วสูงได้มั่นใจทีเดียว แต่ก็พอจะมีเสียงบ้าง แต่ก็ลดลงกว่าตัวเก่า
4.สีสันและราคา
New PG-1 2025 เปิดราคาสวย ๆ ที่ 57,500 บาท มีตัวเลือก 4 สี ได้แก่ ฟ้า, เทา, น้ำตาล และสีแดงที่เราทำการ รีวิว 2025 Yamaha PG-1อยากบอกว่าเนื้อสีและงานประกอบบอดี้พาร์ทในทุก ๆ จุด ดูแนบเนียนและสวยงามทีเดียว
5. ซื้อช่วงนี้ โปรฯดีมาก
นอกจากการรับประกันรถมากถึง 5 ปี หรือ 50,000 กม. จาก บริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ยังมีความน่าสนใจของได้รับประกันยามาฮ่าแคร์สุด X2 สำหรับผู้ซื้อ New PG-1 ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม – 31 ตุลาคม 2568 ที่เป็นการรับประกันอุบัติเหตุ ชดเชยรายได้ วันละ 1,500 บาท สุดสุด 45,000 บาท เรียกว่าคุ้ม ๆ คูณสองไปเลย นอกจากรถจะสมรรถนะดีแล้วยังโปรฯ ดีอีกต่างหาก
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่
