Skip to content
รีวิว AEROX 2025 ช่วงล่างหนึบขึ้น ใส่ดิสก์หลังให้แล้ว
สรุปแล้วการเปิดตัวขายในบ้านเราอย่างเป็นทางการของ All New Yamaha AEROX 2025 มาพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงจุดใดบ้าง มีผลอะไรต่อฟีลลิ่งการขับขี่ ดีขึ้นจริงไหม เราได้ทำการทดสอบ รีวิว AEROX 2025 และสรุปไว้ให้แล้ว 9 เรื่องตามนี้!
กลับมาคราวนี้ All New AEROX 2025 ประกาศตัวชัดเจนในตัวตน “Supersport Automatic” ยุคใหม่ ดังนั้นโมเดลนี้จึงได้รับการปรับโฉมเพิ่มความลงตัวมากขึ้น เสริมความคมเข้มลงบนแฟริ่งด้วยเส้นสายดีไซน์สปอร์ตจาก DNA ของตระกูล R Series มาเพียบทีเดียว
ถ้าออกไปยืน “มองหน้า” ตรง ๆ จะเห็นว่ามันดูเฉี่ยวด้วยหน้าตาแบบ “นกเหยี่ยว” เสริมด้วยวิงเล็ตด้านหน้า ขณะที่บอดี้พาร์ทส่วนกลางรถ ก็ถูกดีไซน์มิกซ์กับชุดสีสื่อสารออกมาให้ได้อารมณ์เหมือนรถกำลังจะพุ่งทะยานไปข้างหน้า ดูรวม ๆ แล้วหล่อสปอร์ตเร้าใจขึ้นจริง ๆ ครับ
2.ไฟหน้า–ไฟท้ายใหม่
นอกจากดีไซน์บอดี้ ระบบไฟส่องสว่างก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงให้หล่อ-ทันสมัยขึ้น โดยเฉพาะการใช้หลอดไฟหน้า “ไฟลูกแก้ว” LED Projector แมตช์กับชุดไฟ DRLพร้อมไฟเลี้ยวหน้าบิลต์อินไว้ที่มุมชุดไฟ ดูโดดเด่นมากๆ
ส่วนไฟท้าย LED มาแนว “มินิมอล” ชวนให้นึกถึงไฟท้ายของตระกูล R Series ตรงนี้หลายคนอาจจะชอบ แต่บางคนบอกว่าให้มันใหญ่กว่านี้จะได้ไหมให้มองเห็นชัด ๆ ส่วนตัวผู้ทดสอบก็คิดแบบอย่างหลังนะ
3.ช่วงล่างใหม่
จะว่าไปนี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญและเป็นเรื่องหลัก ๆ เลยก็ว่าได้ เนื่องจากในช่วงของการลงไปทดสอบขี่ในแทร็ค ฟีลลิ่งของ All New AEROX กับการผ่านโค้งบนแทร็คแคบ ๆ ของสนามอิมแพ็คสปีดพาร์ค สะท้อนออกมาแบบ “หนึบ-นิ่งขึ้น” จนผู้ขี่เองรู้สึกมั่นใจกับช่วงล่างที่ดีขึ้นจากเวอร์ชั่นก่อนหน้าโคตรชัด
เหตุผลของเรื่องนี้ มาจากการเซ็ทอัพระบบช่วงล่างใหม่ทั้งหมด โช้คหน้าอัพแกนโช้คขึ้นเป็น 30 มม.(กระบอกโช้คเปลี่ยนเป็น 39 มม.) พร้อมรายละเอียดภายในที่ผ่านการเซ็ทใหม่อย่างละเอียด โดยลดความยาวอิสระของค่าสปริงโช้คลง แล้วเพิ่มความแข็งสปริงและปริมาณน้ำมันโช้คมากขึ้น แม้จะคงช่วงยุบเท่าเดิมที่ 100 มม. ซึ่งก็ยังไปกันได้กับเซ็ทติ้งใหม่นี้
ทางด้านโช้คหลังแบบมีซับแทงค์ เน้นปรับค่าสปริงใหม่ให้แข็งกว่าเดิม คงช่วงยุบ 80 มม.ไว้เท่าเวอร์ชั่นที่แล้ว ฟีลลิ่งโดยรวมแวบแรกอาจจะรู้สึกว่าแข็งขึ้น แต่ทำงานร่วมกับโช้คหน้าแล้วจัดการแรงสะเทือนทั้งในโค้งและบั๊มพ์ต่าง ๆ ได้หนึบกว่าเดิม ขี่แทร็คสนุก หากเอาไปออนโรดก็น่าจะตอบโจทย์แน่นอน
4.เสริมซับเฟรมใหม่
โครงสร้างเมนเฟรมของ All New AEROX ได้รับการเสริมความแกร่งด้วยซับเฟรมตรงกลางที่เรียกว่า Center Tunnel เหตุผลคือเพื่อช่วยลดการบิดตัวของเฟรม ซึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อความเสถียรและการทรงตัวที่ดีกว่าของรถ ช่วยรองรับผลกระทบจากแรงสะเทือนในปัจจัยต่าง ๆ ตอนที่รถเคลื่อนที่ไปบนถนนให้ดีกว่าเดิม ซึ่งถ้าโฟกัสจากการทดสอบในแทร็คครั้งนี้ การเลี้ยวเร็ว ๆ ในแทรค เข้าโค้งกว้าง-แคบ รวมถึงการเลี้ยวแล้วเจอบั๊มพ์ แต่ก็ยังคอนโทรลรถได้อยู่มือไม่ต้องคอยห่วงสิ่งที่เรียกว่า “เสียอาการ”
5.มิติ การควบคุมใหม่
อย่างแรก น้ำหนักตัวรถเพิ่มขึ้นเป็น 127 กก. มากกว่าเวอร์ชั่นก่อน 2 กก. แต่ความสูงเบาะเท่าเดิม 790 มม. ขณะที่ระยะแฮนด์ยืดออกเล็กน้อยเป็น 710 มม. พร้อมระยะเทรลซึ่งขยับยาวขึ้นเป็น 102 มม. (มุมคาสเตอร์ 26.5 องศาเท่าเดิม) มิติท่านั่งที่ถูกปรับใหม่นี้ ลองแล้วพบว่ามีกระชับมากขึ้น เลี้ยวง่าย จุดศูนย์ถ่วงดีขึ้นไม่รู้สึกหน้าไว ที่สำคัญขี่แล้วได้ความมั่นในแอคชั่นสไตล์สปอร์ตจริง ๆ
6.ระบบเบรกใหม่
จากเดิม ๆ ที่ AEROX ให้ระบบดิสก์เบรกหน้าพร้อม ABS อยู่แล้ว เวอร์ชั่นนี้เพิ่มความมั่นใจให้อีกระดับด้วยดิสก์เบรกหลัง จานดิสก์ 230 มม. กับความมั่นใจในจังหวะหยุดความเร็วที่ดีขึ้นและลดระยะเบรกให้สั้นลง
7.ปรับดีเทลเครื่องยนต์ใหม่
เครื่องยนต์ “บลูคอร์” 155 ซีซี. SOHC 4วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ยังสานต่อความจัดจ้านจากบล็อคเดิม แต่ปรับรายละเอียดในเรื่องของเพลาลูกเบี้ยวที่ปรับสมดุลลดการสั่น พร้อมเปลี่ยนตัวปรับความตึงโซ่ราวลิ้นเป็นแบบไฮดรอลิกส์ รวม ๆ แล้วฟีลลิ่งเครื่องยนต์ยังขี่สนุกและบิดมันส์ตามคาแรคเตอร์ AEROX แต่ลดอาการสะท้านในรอบสูงของตัวเครื่องลง ส่วนประสิทธิภาพในความเร็วปลายและการกินน้ำมัน ค่อยว่ากันอีกทีเมื่อมีโอกาสเอาไปวิ่งเต็มทริป (เร็ว ๆ นี้) ครับ
8. เติมฟังก์ชั่นใหม่
ฟังก์ชั่นใหม่ที่มาพร้อมเวอร์ชั่นนี้ เริ่มจาก
-จอใหม่ LCD มัลติฟังก์ชั่นขนาด 4.2 นิ้ว ใช้งานร่วมกับแอพพลิเคชั่น Y-Connect ได้
-คอนโทรลใช้งานจอได้ง่าย ๆ ที่ปุ่มบนปะกับแฮนด์ฝั่งซ้าย
-พอร์ท USB-C ที่ช่องใส่ของฝั่งซ้าย
ส่วนฟังก์ชั่นที่มีอยู่เดิมและเวิร์คอยู่แล้วก็ยังมาครบ
-ระบบดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดสนิท Stop & Start System
-ระบบกุญแจ Smart Key ที่ใช้ง่ายมาก ๆ
-เบาะนั่งสโลป 2 ตอน พร้อม Ubox ขนาดความจุ 25 ลิตร
-ขาตั้งข้างพร้อม Side Stand Switch และขาตั้งคู่
9.ราคาและสีสันใหม่
All New Yamaha AEROX 2025 มีตัวเลือกรุ่นเดียว ไม่มีแยกเวอร์ชั่น ราคาแนะนำเปิดมาที่ 85,900 บาท พร้อมสีสันใหม่หล่อ ๆ อีก 3 แบบ ดังนี้
น้ำเงิน RACING BLUE
ดำ-เทา VIVID BLACK
เทา-น้ำเงิน SILVER STAR (คันที่เราทำการทดสอบ-รีวิว)
สรุปอีกทีกับการ รีวิว AEROX 2025 นับว่าการเติมเต็มตลาดสปอร์ตออโตเมติคของยามาฮ่าด้วย All New Yamaha AEROX 2025 คันนี้ ถือว่าเพิ่มตัวเลือกได้ดีสำหรับสายสปอร์ต ตัวรถสวยขึ้น สมรรถนะดีกว่าเดิมชัดเจน ถ้าชอบทรงนี้…เล่นได้ ไม่ผิดหวังครับ!!
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่
