รีวิว CBR650R E-Clutch บิ๊กไบค์ 4 สูบ คลัตซ์ไฟฟ้าขี่ง่ายๆที่อิตาลี..!!

• Facebook
• Twitter
• Line

รีวิว CBR650R E-Clutch บิ๊กไบค์ 4 สูบ คลัตช์ไฟฟ้าขี่ง่าย ๆ ที่อิตาลี..!!

รีวิว CBR650R E-Clutch รอบนี้ข้ามทวีปมาไกลถึงอิตาลี อันที่จริงแล้วงานหลักของเราคือ การเข้างาน Eicma 2024 ที่เมืองมิลาน กับการเปิดตัวรถโมเดลใหม่ครั้งแรกของโลก ที่มีมากมายหลายโมเดลยั่วกิเลสตัวผมเองแบบสุดๆ และต่อด้วยการทดสอบครั้งนี้

แน่นอน คงเป็นรุ่นอื่นใดๆไม่ได้แล้ว นอกจาก Honda CBR650R เทคโนโลยี E-Clutch ที่เพิ่งจะเปิดตัวและจำหน่ายในบ้านเราไปแบบสด ๆ ร้อน ๆ เห็นว่าหายากหาเย็นสำหรับรถรถเช่าที่นี้ แต่ฮอนด้าเองก็หามาให้จนได้ เพื่อที่สื่อมวลชนกลุ่มนี้จะได้ทดสอบบนถนนจริงของประเทศอิตาลี

เกริ่นมากไปก็ไม่ดี เดียวจะอ่านกันไม่สนุก สำหรับทริปนี้เป็นแบบ One Day Trip เส้นทางการขับขี่ใน 1 วันจาก เมืองมิลาโนไปถึงทะเลสาบโคโม จะอยู่ประมาณเกือบ ๆ 200 กิโลเมตร โดยการทดสอบครั้งนี้จะถุกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เพราะรถ E-Clutch มีเพียง 3 คันเท่านั้น จำเป็นที่จะต้องแบ่งกลุ่มทดสอบกัน ผลัดกันชมทิวทัศน์กันไป และผมเองก็ได้อยู่ในกลุ่มที่ 3 เป็นเส้นทางกลับจากทะเลสาบเข้าเมืองมิลานดูแล้วน่าจะสนุกไม่เบาขี่เขาเมืองช่วงรถติด ๆ

เราเริ่มต้นทริปกันที่ ศูนย์ดีลเลอร์ Honda Motostar เป็นจุดเริ่มต้นของทริปนี้รับฟังการบรีฟเส้นทาง ลักษณะของรูปขบวนขับขี่ ที่สำคัญเลยประเทศอิตาลีจะต้องขี่ชิดขวาห้ามลืมเด็ดขาด เริ่มทริปเราก็นึกชมทิวทัศน์กันไปก่อน ส่วนตัวถือว่าไม่ไกลมาก 2 ชั่วโมงก็ถึงครึ่งทางแล้ว วิวสวยมากจริง ๆ อิตาลีเป็นเมืองนึงที่น่าขี่รถเที่ยว แถมช่วงที่เรามาอุณหภูมิอยู่ที่ 7 องศา ทำให้ฟินเพิ่มขึ้นไปอีก…

มาครับ มาครับ มาถึงคิวของเราแล้วพักรับประทานอาหารท้องถิ่นที่ร้าน Polentoteca Chalet Gabriele บนยอดเขาสักยอดนึงในเมืองโคโม่กันเรียบร้อยเตรียมตัวสลับกรุ๊ปกลับเมืองมิลาน เส้นทางประมาณ 85 กิโลเมตร เส้นทางขี่กลับก็มีแวะเล่นโค้งลงเขา ไปที่ท่าเรือ BELLAGIO ที่อยู่ตรงแหลมของทะเลสาบเส้นทางสวยงามแปลกตาไปมาก (แน่นอนฉั๊นขี่แต่ในไทยนิน่า) แวะถ่ายรูปแอ๊คท่าสักพัก เราก็เตรียมเดินทางต่อเข้าเมืองมิลาน เพราะด้วยเวลายิ่งเย็นมากเท่าไรรถยิ่งติดมากเท่านั้น รวมไปถึงท้องฟ้าฤดูหนาวมืดเร็วกว่าปกติ

ฟีลลิ่ง E-Clutch ยังแจ๋วเหมือนเดิม การที่ไม่ต้องกำคลัตช์ออกตัว กำคลัตช์เปลี่ยนเกียร์เป็นอะไรที่ทำให้การขับขี่บิ๊กไบค์ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ยิ่งช่วงที่รถเริ่มแน่น การคอนโทรลในความเร็วต่ำ ๆ ทำให้ไม่ต้องไปพะวงกับคลัตช์เลย ทำให้ขี่ได้แบบสบายใจ ยังมีอีกอย่างที่ผมชอบเลยคือการขึ้นลงทางลาดชัน ขึ้นเขา ลงเขา ทำให้รู้สึกได้เลยมันง่ายมากจริง ๆ ที่บิ๊กไบค์มีระบบนี้เข้ามาช่วยในการเดินทาง ถูกใจผมเลย และก็คิดว่า คนยุโรปถ้าได้ลอง E-Clutch คงติดใจไม่ต่างจากผมแน่นอน

พูดถึงสายสปอร์ตที่แท้จริง มือเก๋า มือตึง หน่อย.. จะบอกว่าบิ๊กไบค์คันนี้มันยังมีคลัตช์อยู่นะและสามารถที่จะกำคลัตช์ได้เหมือนเดิม ถ้ายังชอบในเครื่อง 4 สูบที่เป็นพื้นฐาน 650 ซีซี ก็ยังขับได้ ฟีลลิ่งเหมือนเดิมไม่มีอะไรเปลี่ยนไป ซิ่งได้

จบปิดทริปฟ้ามืดพอดี ทดสอบรอบนี้เจอทุกสภาพถนน ทางลาดชัน ขึ้นเขาลงดอย ทางตรงยาว ๆ เข้ามือช่วงรถติด ทำให้ได้ลองใช้ระบบเกียร์ E-Clutch ในรถคันนี้แบบครบรสเลย ถือว่าระบบนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับมือใหม่ที่อยากจะลองขับบิ๊กไบค์แต่ยังกลัวการใช้คลัตช์ คันนี้ตอบโจทย์อย่างแน่นอน โดยคันนี้เปิดราคาจำหน่ายในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ CBR650R E-Clutch 347,300 บาท และ CB650R E-Clutch ราคา 332,100 บาท ชมคันจริงได้ที่บิ๊กวิ้งทุกสาขาทั่วไทย

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่