รีวิว Legend Pro 2025 คลาสสิกสไตล์ by EM Motor

รีวิว Legend Pro 2025 คลาสสิกสไตล์ by EM Motor

EM Motor ผู้ผลิตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าแบรนด์ไทย มีการพัฒนาโปรดักต์หลากหลายรุ่นส่งลงสู่ตลาดเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรุ่น Legend ถือว่าขายดีและเป็นที่รู้จักอย่างมากในกลุ่มผู้ใช้ ล่าสุดทางค่ายอัปเกรดความน่าใช้ของรุ่นขายดีด้วยการเติมรหัส Pro พร้อมการปรับเปลี่ยนใหม่หมดจด ทั้งดีไซน์สไตล์คลาสสิกและมิติการควบคุม ฟีลลิ่งการขับขี่รถคันนี้และข้อมูลที่ควรรู้ในจุดต่าง ๆ มีอะไรบ้าง? ติดตามได้ใน รีวิว Legend Pro 2025 ฉบับนี้กันได้เลย

ดีไซน์-มิติ

แน่นอนว่าเลเจนด์โปรคันนี้เน้นภาพลักษณ์ให้สวยงามขึ้นและน่าใช้กว่าเดิม โดยเปลี่ยนโฉมไปสู่ความสวยงามเต็มฟีลแบบคลาสสิกในทุก ๆ แง่มุมของบอดี้

โคมไฟหน้าทรงเหลี่ยมแมตช์กับไฟท้าย สังเกตว่าภายในโคมไฟหน้าและไฟท้ายดีไซน์ให้มีเลเยอร์ โดยวางไฟหรี่ไว้ภายในกรอบโคมไฟ แล้ววางหลอดไฟต่ำหลอดไฟสูงในกรอบ 4 เหลี่ยมเล็ก ๆ ตรงกึ่งกลางอีกที ขณะที่ไฟเลี้ยวหน้า-หลัง ฝั่งมาแบบบิลต์อิน พร้อมคำว่า Full LED สวยงาม สว่างชัด

มิติตัวรถก็เป็นไปตามสไตล์คลาสสิกเช่นกัน ไซส์ใกล้เคียงมอเตอร์ไซค์ขนาด 125 ซีซี. เน้นความเล็ก คล่องตัว กระชับ น้ำหนักไม่รวมแบตเตอรี่ เพียง 78 กก.เท่านั้น ตามข้อมูลบอกว่าน้ำหนักบรรทุก 140 กก. ซึ่งหมายถึงรถรุ่นนี้สามารถขี่ซ้อน 2 พร้อมสัมภาระเล็ก ๆ ได้

สเปซของท่านั่งกับการวางเท้าบนฟลอร์บอร์ด เป็นอีกจุดที่น่าสนใจ เพราะตัวรถเล็กกระชับ แต่กลับมีท่านั่งที่ค่อนข้างกว้าง นั่งขี่สบาย มีระยะขยับการวางเท้าได้ยาว ตรงพื้นมียางกันลื่นใส่มาให้ด้วย

ประการสำคัญในด้านมิติ คือตัวโปรคันนี้ใช้วงล้อขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 12 นิ้ว (จากรุ่นเดิม 10นิ้ว) มาพร้อมยาง 90/90-12 ที่เน้นดอกยางรีดน้ำตามสภาพพื้นที่การใช้งานบ้านเรา การใช้ล้อขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 12 นิ้ว ก็ทำให้การขับขี่ทรงตัวดีขึ้น รองรับการใช้งานได้หลากหลายกว่าเดิมนั่นเอง

ฟังก์ชั่น

ระบบเบรกสำหรับรถรุ่นนี้ ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะให้มาเป็น ดิสก์เบรกหน้า-หลัง และยังเป็น Combi Brake System เฉลี่ยแรงเบรกหน้า-หลัง ซึ่งทำงานเมื่อกำเบรกซ้ายที่เป็นเบรกหลัง ก็จะมีการกลไกกระจายแรงเบรกไปที่เบรกหน้าด้วย จากการทดสอบพบว่าน้ำหนักเบรกของรถทดสอบถือว่าดีและเบรกอยู่

หน้าจอ LCD สีสันสวยงาม มาพร้อมรายละเอียดมาตรวัดต่าง ๆ ที่ครบครัน มีบอก % แบตเตอรี่พร้อมบาร์สเกล มีตัวเลขระดับเพาเวอร์ 1-2-3 มีตัวเลขระยะทางรวม และเลขความเร็วที่ขนาดใหญ่มองง่ายเห็นชัดทุกรายละเอียด

ตัวกุญแจมาแบบคู่ คือมีทั้งดอกกุญแจและรีโมท (รีโมทใช้เป็นตัวเปิดระบบกันขโมย และ เปิด On ระบบตัวรถให้พร้อมขี่) เบ้ากุญแจที่รถเป็นกุญแจระบบชัตเตอร์คีย์ หากต้องการเปิดเบาะเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ก็ต้องเสียบดอกกุญแจแล้วบิดตามเข็มนาฬิกา และเมื่อเรากดกุญแจลงไปแล้วบิดทวนเข็มนาฬิกาก็จะเป็นการเปิดเก๊ะหน้าที่มีช่องใส่ของเล็ก ๆ ซ่อนในนั้นอีกที ส่วนการใช้กุญแจเพื่อเปิดระบบการขี่รถ ก็แค่บิดไปที่ On แล้วกำเบรกให้ปรากฏอักษร Ready ขึ้นที่หน้าจอก่อน ก็จะบิดคันเร่งออกรถได้

สุดท้ายคือช่องใส่ของและพอร์ท USB Type A และ C ที่บริเวณคอนโซนฝั่งซ้ายก็ถือว่าเป็นฟังก์ชั่นมาตรฐานที่ให้มากำลังพอเหมาะ ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป

ขุมพลัง

ในด้านขุมพลัง Legend Pro มาพร้อมมอเตอร์กำลังขับ 2500 วัตต์ ซึ่งอยู่ในดุมล้อหลังสไตล์ฮับมอเตอร์ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ขนาด72V24 AH (ชาร์จผ่านอแดปเตอร์เต็มภายใน 2-4 ชม.) สเปคระบุว่า หากชาร์จเต็ม 100% จะวิ่งได้ระยะทางสูงสุด 80 กม.ซึ่งแน่นอนว่าอัตราแบตเตอรี่ก็ผกผันตามความเร็วที่เราใช้

จากการลองขี่ในการทดสอบ พบว่าความสมูทของคันเร่งดีขึ้น การเร่งแซงและทำความเร็วกระชับขึ้น แต่ก็เหมาะสำหรับการใช้งานที่ไม่เน้นความเร็วสูง ความเร็วสูงสุดที่ทำได้ เลขหน้าจอโชว์ไว้ที่ 75 กม./ชม. มีปุ่มเลือกระดับสปีดได้ 3 ระดับ 1-2-3 เรียงจากน้อยไปหามาก

มาตรฐานและการรับประกัน

Legend Pro มาพร้อมมาตรฐานและการรับประกันด้านต่าง ๆ ดังนี้

-ผ่านการทดสอบมาตรฐานความปลอดภัย UNR 136

-ผ่านมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม

-รับประกัน มอเตอร์ 5 ปี หรือ 30,000 กิโลเมตร

-รับประกัน คอนโทรลเลอร์และแบตเตอรี่ 3 ปี หรือ 20,000 กิโลเมตร

-รับประกันชุดไฟฟ้าและอื่น ๆ 1 ปี

ทางด้านราคาจำหน่ายเปิดโปรโมชั่นไว้ที่ 45,740 บาท และสามารถจดทะเบียนได้ ตอกย้ำบทสรุป สำหรับมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารุ่นนี้ อยู่ที่ “ไลฟ์สไตล์” บรรจบกับความคุ้มค่า..ของแท้!!