รีวิว MT-09 Y-AMT 2025 กับ 3 เรื่องต้องรู้ เมื่อขี่ในเมือง
จากคอมเมนต์แฟนรายการของเราในช่องยูทูป เรียกร้องขอชมรีวิวสายสตรีทตัวพ่ออย่าง Yamaha MT-09 Y-AMT 2025 รุ่นพิเศษที่มีระบบ Yamaha Automate Manual Transmission ไม่ต้องกำคลัตช์ ไม่ต้องสับเกียร์เอง ทำให้เราหาโอกาสนำรถรุ่นนี้มารีวิวอยู่ตลอด จนกระทั่งยามาฮ่าแจ้งมาว่ามีรถให้ลองแล้วนะ จึงเป็นที่มาของ รีวิว MT-09 Y-AMT 2025 มอเตอร์ไซค์สุดสายสตรีทที่ “เหนือธรรมดา” ไปอีกสเตป และนี่คือบทสรุป “3 เรื่องหลัก” ของบิ๊กไบค์คลาส 900 คันนี้ครับ
1.ดีไซน์ / การควบคุม
หนึ่งในคุณสมบัติของ MT-09 ซึ่งอยากใช้คำว่ายอดเยี่ยมทุก ๆ ครั้งที่ได้ขี่คือ “การควบคุม” ที่โคตรดีจริง ๆ ครับ
ต้นทางของประเด็นนี้ มาจากการออกแบบอย่างเข้มข้น มีการพัฒนาต่อเนื่องของเมนเฟรมเดลต้าบ๊อกซ์อลูมิเนียมไดแคสท์ ทีเด็ดเคล็ดลับที่มาพร้อมขุมพลัง CP3 ยุคใหม่ของยามาฮ่า โดยคำนวณการใช้งานร่วมกับช่วงล่างและเครื่องยนต์บล็อกใหม่อย่างเป็นระบบ ผลคือความบาลานซ์ดีเลิศ ตัวรถขี่ง่ายยังกับไม่ใช่บิ๊กไบค์คลาส 900 ดังนั้นกับการทดสอบครั้งนี้เราจงใจพารถเคลื่อนที่ไปในความแออัดของการจราจรกลางกรุงเทพฯ รู้สึกเหมือนขี่รถขนาด 250 ซีซี.ที่มุด หลบ หลีก ปาด ได้คล่อง

ความสูงเบาะ 825 มม. เป็นระยะที่ไม่เตี้ยมาก ผู้ทดสอบสรีระร่างเล็กสูง 160 ซม. ก็มีจังหวะต้องบัลเล่ต์บ้าง สามารถเอาตัวรอดได้กับการชะลอเข้าจอดแล้วเอาเท้าลงตามไฟแดงหรือจุดจอด เนื่องจากตรงหัวเบาะมีความเรียวแคบประมาณหนึ่ง

ระยะแฮนด์กว้าง 820 มม.ไม่ถือว่ากว้างและสัมผัสได้ว่าชุดแฮนด์ถูกปรับต่ำลงให้ท่านั่งฟีลสปอร์ต (ซึ่งน่าจะเวิร์คหากเอาไปขี่ลงแทรคด้วย) ระยะแฮนด์นี้ มีผลต่อฟีลลิ่งการควบคุมรถซอกแซกไปย่านกลางเมืองกรุงเทพฯ ลาดพร้าว พระราม 9 อนุสาวรีย์ชัยฯ ที่ไปได้ฉลุยไม่ติดขัดอะไร ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการปรับเชพถังเชื้อเพลิงให้รับกับการนั่งช่วยให้จัดท่าหนีบรถได้กระชับขึ้น
บทสรุปเรื่องดีไซน์และการควบคุมภายใต้โครงสร้างนี้ ขอให้คะแนน 9 เต็ม 10 ครับสำหรับการขี่ในเมือง เพราะในมุมของนักทดสอบเองก็มีบ้างที่น้ำหนักตัวระดับ 194 กก.ของรถอาจจะเป็นปัญหาเล็กน้อยสำหรับการลงเท้าและบัลเล่ต์ไปบนถนนที่เอียงองศา
2.เครื่องยนต์ / ระบบช่วยเหลือ
ขุมพลัง CP3 สามสูบเรียง 890 ซีซี. ระบายความร้อนด้วยน้ำ กำลังสูงสุด 119 แรงม้า คาแรคเตอร์ดุจัดเร้าใจตามสไตล์ MT-09 เนื่องจากการรีวิวครั้งนี้ เราเน้นใช้งานในเมืองล้วน ๆ ดังนั้นสิ่งที่มีผลจากเครื่องยนต์ของ MT-09 จึงเป็นเรื่องความกระชับกระฉับกระเฉงของย่านกำลังที่แปรให้การเคลื่อนที่ออกจากการจราจรทำได้ทันใจปน “ความสนุก” เข้ามาด้วยมากกว่า
![]() |
![]() |
ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัยที่ให้มาแน่น เอาจริงๆการขี่ในเมืองแบบนี้ ระบบที่ได้ใช้บ่อยสุดเห็นจะเป็น ABS 2 ชาแนล ที่ทำงานร่วมเบรกดิสก์หน้าคู่-ปั๊มบน Brembo และเบรกหลังได้อย่างยอดเยี่ยม ขอย้ำอีกทีว่าเบรก MT-09 Y-AMT แม้จะใช้ปั๊มล่าง OEM เดิม ๆ แต่ฟีลลิ่งการเบรกดีมากครับ น้ำหนักเบรกดี การตอบสนองก็แม่นยำ

อีกหนึ่งออปชั่นอิเล็กทรอนิกส์ ที่จำเป็นและได้ใช้งานจริงในเมืองหลวงของเรา คือ TCS แทรคชั่นคอนโทรล เพราะเรามักเจอมีบางโค้งที่มีน้ำขังพร้อมพื้นผิวลื่น ๆ ตลอดเวลา หรือบางแห่งที่ถนนยังมีการก่อสร้างไม่เสร็จแล้วปล่อยเศษดินหินกรวดลอยไว้ ซึ่งสถานการณ์แบบนั้น ระบบ TCS จะช่วยให้เราพารถที่แรงบิดหนัก ๆ ระดับ 93 นิวตันเมตรอย่าง MT-09 ผ่านได้อย่างปลอดภัย
ส่วนระบบ SLC สไลด์คอนโทรล กับระบบ LIF ป้องกันล้อหน้ายก ส่วนตัวผมมองว่าน่าจะมีประโยชน์ในการลงแทรคหรือออกทริปเพลิน ๆ มากกว่าที่จะเอามาใช้ในเมืองเน้น ๆ แบบนี้ครับ
เอาล่ะ ในเรื่องคาแรคเตอร์เครื่องยนต์ และระบบอิเล็กทรอนิกส์ “ที่จำเป็น” ให้ไปเลย 10 เต็ม 10
3.ผลการทำงานของ Y-AMT และ Riding MODE
มาถึงประเด็นใหญ่ Y-AMT (Yamaha Automate Manual Transmission) ซึ่งเป็นแกนหลักของระบบขับเคลื่อนของรถคันนี้ กับโจทย์ “ใช้ในเมือง” กับการทดสอบคราวนี้ เริ่มต้นใช้งานระบบ Y-AMT เอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ซับซ้อนยุ่งยากอะไรนัก ใช้เวลาทำความเข้าใจไม่นานก็สามารถใช้งานได้เลย เริ่มต้นด้วยการต้อง On ระบบ Smart Key ก่อน ทำโดยการกดแป้นลง 1 ครั้งแล้วบิดไปด้านขวา เมื่อหน้าจอติดแล้ว ก็กดปุ่ม Start ที่ปะกับแฮนด์ฝั่งขวาพร้อมกำเบรก เครื่องยนต์จะติดขึ้นมาอย่างง่ายดาย สังเกตตอนเราจับแฮนด์ ในตำแหน่งนิ้วชี้มือขวา มีปุ่ม AT/MT ให้เลือก ซึ่งตรงนี้เป็นการเลือกลักษณะการขับเคลื่อนในแบบ AT- ออโต้ล้วน ๆ หรือ MT ที่ผู้ขี่ต้องใส่เกียร์เองด้วยการชิฟต์เกียร์ด้วยมือที่ตำแหน่งนิ้วชี้และนิ้วโป้งปะกับแฮนด์ซ้าย
ข้อควรจำ คือไม่ว่าเราจะเลือก AT หรือ MT ก็ต้องกดปุ่ม Shift + เพื่อเข้าเริ่มต้นการรันเกียร์ ก่อนเปิดคันเร่งออกตัวทุกครั้งครับ และเมื่อจอดก็ต้องกด Shift – เพื่อปลดเกียร์เป็นเกียร์ว่างเสมอ
ระบบ MT มีข้อควรรู้
เอาล่ะ มาเริ่มที่การเลือกใช้งานระบบ MT ที่หมายถึงการชิฟต์เกียร์ด้วยตัวเราเอง และมีสิทธิ์เลือกใช้ Riding Mode ไปด้วยในตัว โดยมีโหมด Rain, Street และ Sport รวมทั้งคัสตอมโดยผู้ใช้เองได้อีก 2 สลอต ซึ่งการเลือกไรดิ้งโหมดจะถูกล็อคไว้ให้เฉพาะ MT เท่านั้น ทำโดยกดปุ่ม MODE ตรงปะกับแฮนด์ฝั่งขวา
ในการทดสอบครั้งนี้ ผมเลือกถนนย่านลาดพร้าว พระราม 9 เพื่อลองใช้ระบบ MT ก่อน แล้วทำการสลับ Riding Mode ไปเรื่อย ๆ พร้อมกับ Shift เกียร์ อัพ-ดาวน์เองตามฟีลลิ่งและรอบเครื่อง ปรากฎว่าเมื่อเข้าโซนจราจรหนาแน่น โหมดที่เวิร์คจริง ๆ คือ Street เพราะให้ย่านกำลังพอเหมาะพอดีสุดครับ ส่วนโหมด Rain นั้นหนืดเกินไป ขณะที่ Sport ก็รู้สึกว่าล้นไป ไม่เหมาะกับการขี่ Cross Town แบบนี้
“ข้อสังเกต” ประการสำคัญเมื่อใช้ระบบ MT ซึ่งเราต้อง Shift เกียร์เองตลอด คือเรื่องการ “อัพเกียร์” ที่ตัวรถจะเรียกร้องรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสมเท่านั้น จึงจะยอมให้ใส่เกียร์ “ขึ้น” ถ้ารอบไม่ถึงก็จะไม่สามารถอัพเกียร์ได้ครับ ส่วนการชิฟท์ดาวน์นั้นไม่มีข้อจำกัด เพราะสามารถยกคันเร่ง ลดความเร็วลงแล้วกดปุ่มลดเกียร์ได้ตามสเตป ดังนั้นสำหรับผมมองว่าการใช้งานในเมืองด้วยโหมด MT อาจจะส่งผลถึงอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ “มากกว่า” เพราะบางครั้งเราจำเป็นต้องเลี้ยงรอบในเกียร์ต่ำเอาไว้ยาวๆจากสภาพความหนาแน่นของจราจรนั่นเอง
ระบบ AT ..อันนี้ชอบมาก!
หลังจากเข้าใจระบบ MT แล้ว ก็ได้เวลาเลือกใช้ระบบ AT ซึ่งมาพร้อมออพชั่นให้กดปุ่มMode เลือกโหมด D และ D+ ที่เป็นสัดส่วนพละกำลังตามชื่อ และพบว่า D+ ให้การตอบสนองย่านกระชับติดมือดูจะเหมาะกับลักษณะการขับขี่ของตัวเองมากกว่าครับ
หลายจังหวะของการผ่านไปในย่านเมืองของกรุงเทพฯที่ผมจงใจเข้าไปขี่เล่นย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ-ศรีอยุธยา ทำให้พบว่าระบบขับเคลื่อน AT เลือกเกียร์ได้แม่นยำ สมูทและฉลาด ทำให้เราโฟกัสกับการจราจรคับคั่งได้โดยไม่ต้องกังวลว่ากำลังขี่รถบิ๊กไบค์คลาส 900 ซีซี.อยู่ในใจกลางเมือง!!
สำหรับการใส่เกียร์ของตัวรถเอง ก็มีฟีลลิ่ง “เฉพาะตัว” ของยามาฮ่า กับเสียงเฟืองเกียร์ขบให้รู้สึกทั้ง 6 เกียร์ค่อนข้างชัด ยิ่งเกียร์ 1 เสียงดังฟังชัดมาก ๆ
ที่สำคัญคือขณะที่เรากำลังใช้ระบบ AT ยังมีออพชั่นให้ Snap Shot คือสามารถกดปุ่มชิฟต์เกียร์เองได้แบบอิสระ (ภายใต้เงื่อนไขรอบเครื่องที่เหมาะสม) สัมพันธ์กับตัวตนของ MT-09 ที่เป็นสตรีทพันธุ์แท้ ซึ่งฟีลลิ่งแบบนี้ตรงโจทย์การใช้งานในเมืองจริง ๆ ในมุมมองผู้ทดสอบบอกเลยว่าโคตรชอบครับ!!
หลังจาก รีวิว MT-09 Y-AMT 2025 คันนี้เสร็จ ก็มั่นใจและขอย้ำอีกทีถ้าคุณเป็นสายสตรีท ชอบรถแรงเพอร์ฟอร์แมนซ์สูง เบรกและช่วงล่างลงตัว ฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานก็สมตัว มีครูซคอนโทรลพร้อมหน้าจอเชื่อมต่อซื้อแอพเพิ่มได้ แถมยังให้ฟีลลิ่งการใช้งานในเมืองได้ดีเยี่ยม MT-09 Y-AMT คันนี้เล่นได้ครับ ครบจบในราคาค่าตัว 519,000 บาท
สนใจสอบถามโปรโมชั่นเพิ่มเติมได้ที่ ยามาฮ่า ไรเดอร์ส คลับ ทั่วประเทศ













