รีวิว Multistrada V2S 2025  แรงดี คุมง่าย สนุกได้หลากเส้นทาง

รีวิว Multistrada V2S 2025  แรงดี คุมง่าย สนุกได้หลากเส้นทาง

รีวิว Multistrada V2S 2025ครั้งนี้เราทดสอบ รีวิว Multistrada V2S 2025 โมเดลใหม่สไตล์ทัวริ่งแอดเวนเจอร์จากดูคาติ ตอบสนองการใช้งานที่ครอบคลุมหลากหลายเส้นทาง โดยได้รับพื้นฐานการออกแบบจากรุ่นพี่รหัส V4 และมาพร้อมกับขุมพลังใหม่รหัส V2 890 ซีซี

รีวิว Multistrada V2S 2025

หลาย ๆ คนน่าจะพอทราบกันดีว่าปัจจุบันกระแสความนิยมในการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถทัวริ่งแอดเวนเจอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเดิมทีผู้ขับขี่จะนิยมรถที่มีขนาดใหญ่ซีซีเยอะ ๆ ตอบโจทย์การเดินทางไกล แต่อาจจะไม่คล่องตัวมากพอสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน โมเดลในคลาสกลางจึงเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับนักเดินทางที่ต้องการรถที่สามารถใช้งานได้หลากหลายมากกว่าแค่การเดินทางไกล

ดีไซน์ใหม่ไม่ใช่แค่หล่อ

ใหม่หมดทั้งคันแต่ยังคงไว้ซึงเอกลักษณ์ความเป็น “นกยักษ์” ของมัลติสตราดามาพร้อมไฟหน้า-ไฟท้าย Full LED ดุดัน DNA ความสปอร์ตแบบ Ducati ไฟเลี้ยวหน้าแบบบิลต์อินในแฟริ่งด้านข้าง

รีวิว Multistrada V2S 2025

ไฮไลต์อยู่ที่การออกแบบตามหลักแอโรไดนามิก มีแอร์ดีเฟล็กเตอร์ หรือแผ่นเบี่ยงกระแสลม เปลี่ยนทิศทางลมไม่ให้ปะทะเข้ากับตัวผู้ขับขี่ ชิลด์หน้าใหม่ สามารถปรับระดับได้ด้วยมือ กันลมดีขึ้น แฟริ่งด้านข้างมีช่องแอโรฯ พาอากาศเย็นเข้ามาเป่าขาผู้ขับขี่ ช่วยลดความร้อนจากเครื่องยนต์ได้เมื่อขับขี่

เบาะนั่งใหม่นั่งสบายมากขึ้นทั้งคนขับคนซ้อน รวมทั้งมิติท่านั่งใหม่โดยเบาะนั่งจะสูงขึ้นและเยื้องไปด้านหลังมากขึ้นช่วยลดการงอขา ทำให้นั่งได้สบายมาก ผมทดสอบแล้วทีเดียว 200 กว่ากิโลเมตร ไม่มีเมื่อย

เครื่องใหม่เล็กลง แต่ยังคงแรงดี

เครื่อง 2 สูบวี 890 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ กลับมาใช้ระบบวาล์วแบบคอยล์สปริง (แทนระบบ Desmodromic Valve) และมาพร้อมกับระบบ Intake Variable Timing (IVT) ระบบวาล์วไอดีแปรผัน ช่วยให้รอบต่ำนุ่มนวล แต่ดุดันจัดจ้านทอร์คหนักที่รอบกลาง แรงม้าสูงสุด 115 แรงม้าที่ 10,750 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุดที่ 92 นิวตันเมตรที่ 8,250 รอบต่อนาที แรงบิดมาตั้งแต่รอบต่ำ มากถึง 70% ตั้งแต่รอบ 3,000 มีระบบคลัตช์น้ำมัน แล้วก็มีถังน้ำมันขนาด 19 ลิตร

รีวิว Multistrada V2S 2025

ด้วยประสบการณ์ที่เคยผ่าน Multistrada V4 มา สำหรับเครื่องยน์ในรหัส V2 บล็อคนี้เป็นเครื่องยนต์ที่ควบคุมได้ง่ายกว่า ด้วยพละกำลัง 890 ซีซี แรงม้าแรงบิดที่ต่างกัน แต่คาแรคเตอร์ไม่ต่างกันมากนัก ยังคงมีความก้าวร้าว ดุดัน แรงบิดมาไว ทำให้ได้ในเรื่องของความคล่องตัวในการเร่งแซงจังหวะสำคัญได้ดี ส่วนความเร็วปลายมีให้ใช้เหลือ ๆ

สำหรับทริปนี้นั่งชิลล์ ๆ วิ่งไปแตะ 181 กม./ชม. ยังเหลือให้ใช้อีกเยอะ เดินทางไกลกับรุ่นใหญ่ได้สบาย ๆ แนะนำให้ใช้ความเร็วที่เหมาะสม อย่าซิ่งมากอันตราย

รีวิว Multistrada V2S 2025

ว่าง่าย ๆ คือไม่โหดจนเกินการควบคุม วิ่งลุยกับกลุ่มรถใหญ่ได้ ใช้งานในเมืองได้ ความร้อนลดน้อยลง เซอร์วิสง่ายขึ้นและถูกลง ไม่ต้องพะวงสายพานไทม์มิ่ง

เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่

ควบคุมพละกำลังด้วยคันเร่งไฟฟ้าความละเอียดสูง พาวเวอร์โหมด 4 โหมด High, Medium, Low และ Off Road ทำงานร่วมกับ 5 โหมดการขับขี่ Sport, Touring, Urban, Enduro และ Wet โดยในแต่ละโหมดจะมีการทำงานร่วมกับเทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ Traction Control 8 ระดับ (DTC), Vehicle Hold Control 3 ระดับ (DWC), (ABS) 3 ระดับ เปิดปิดได้ที่ล้อหลัง (มาพร้อม Cornering ABS), Engine Brake Control 3 ระดับ (EBC), Quick Shifter 2.0 (DQS)

ซึ่งระบบ Ducati Quick Shifter 2.0 หรือควิกชิฟเตอร์แบบใหม่ของทางค่าย ไม่ได้อาศัยแต่เซ็นเซอร์ผลักหรือดึงที่ก้านเกียร์อีกต่อไป แต่อาศัยเซ็นเซอร์ที่เกียร์แทน ช่วยให้เปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้น ลดอาการกระตุก ทดสอบแล้วเนียนจริงถ้าเปลี่ยนในรอบเครื่องยนต์ที่เหมาะสม

ยังมี Ducati Cruise Control ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ควบคุมผ่านปุ่ม ที่ประกับด้านซ้ายมือด้านบน ที่เหมาะกับรถทัวริ่งแอดเวนเจอร์ซึ่งตอบโจทย์การเดินทางไกลได้ดีมาก ๆ

โครงสร้างน้ำหนักเบา

รีวิว Multistrada V2S 2025ใช้เฟรมแบบโมโนค็อก โดยใช้อลูมิเนียมทำเฟรมแบบหล่อขึ้นรูปและใช้เครื่องเป็นส่วนนึงในการรับภาระโหลดน้ำหนัก มาพร้อมซับเฟรมแบบเหล็กถัก และมีสวิงอาร์มคู่ทำจากอลูมิเนียม ทำให้น้ำหนักเบาลงกว่าเดิม 18 กิโลกรัมเมื่อเทียบกับตัวปี 24 ซึ่งตัวธรรมดาหนัก 199 กิโลกรัม รหัส S จะหนัก 202 กิโลกรัมแบบไม่รวมน้ำมัน

รีวิว Multistrada V2S 2025เป็นจุดที่น่าประทับใจมากน้ำหนักที่หายไปทำให้การควบคุมในทุก ๆ มิติตั้งแต่เข็นจนขี่ไปถึงการจอด ทำได้อย่างมั่นใจเหมาะกับนักบิดชาวเอเชียมากขึ้น บวกกับความสูงเบาะที่ไม่มากจนเกินไปทำให้คนที่มีรูปร่างเล็กสามารถใช้รถคันนี้ได้สบาย ๆ

ระบบกันสะเทือน

ระบบกันสะเทือนปรับแต่งได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังจากทาง Marzocchi ด้านหน้าเป็นโช้คหัวกลับขนาด 45 มม. ด้านหลังมีโช้คเดี่ยวใหม่พร้อมซับแทงค์ สำหรับตัวรหัส S จะมาพร้อมระบบ Ducati Skyhook Suspension หรือโช้คปรับไฟฟ้า ซึ่งระบบนี้จะเป็นแบบกึ่งอัตโนมัติสามารถปรับเลือกมินิมัมพรีโหลด ช่วยให้ตัวรถเตี้ยลงเล็กน้อย 8 มม. และสามารถเลือกโหมดให้เข้ากับการขับขี่ได้ 4 โหมด Dynamic, Comfort, Low grip, Off-road และยังสามารถปรับค่า พรีโหลด ได้อย่างละเอียดในแต่ละโหมดตามแต่รูปแบบการใช้งาน เฉพาะคนขี่ คนขี่บวกคนซ้อน หรือเพิ่มสัมภาระเข้าไปก็ทำได้ Rider, Rider + Passenger, Rider + Baggage, Rider + Passenger + Baggage และ Auto-Leveling ปรับพรีโหลดเองแบบอัตโนมัติ

รีวิว Multistrada V2S 2025

จากการได้ลองทดสอบเป็นช่วงล่างที่ให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมมาก ๆ บนทางดำ ความเร็วสูง ๆ นิ่งมาก เข้าโค้งได้หนึบแน่น ทดสอบโหลดของ Ducati Skyhook แตกต่างกันชัดเจน โดยถ้าอยากสนุกกับความเร็วสูง ๆ เข้าโค้งสนุกโหมด Dynamic หนึบมากให้อารมแบบรถสปอร์ต ส่วนถ้าชิลล์ ๆ ในโหมด Comfort เจอหลุมบ่อถนนพังรูดผ่านสบาย ๆ และที่สำคัญยังมีโหมด Off-Road มาให้ออกนอกเส้นทางอีกด้วย ส่วนถ้าฝนกตกก็ไปเลย Low grip ปลอดภัยแน่นอน สะดวกมากสำหรับเทคโนโลยีโช้คปรับไฟฟ้าแบบนี้

วงล้อเป็นล้อแม็กอลูมิเนียมมีขนาด 19 นิ้วและ 17 นิ้วตามลำดับ รัดด้วยยาง Pirelli Scorpion Trail II ขนาด 120/70 – ZR19” และ 170/-60 – ZR17” เน้นไปที่ทางดำเป็นหลัก ลุยได้นิดหน่อยเท่านั้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นยางที่หนึบ ตัวล้อเองก็เบาแต่แข็งแรงหลุมบ่อมาชนได้หมด

ระบบเบรกดีเยี่ยม

ระบบเบรกจะเป็น Brembo ทั้งระบบ ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ 320 มม. กับคาลิเปอร์เบรก Brembo M4 เรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 265 มม. กับคาลิเปอร์เบรก Brembo ไล่น้ำหนักเบรกมาได้ยอดเยี่ยมด้านหน้าดิสก์คู่ช่วยให้การลดความเร็วทำได้อย่างละเอียด ทำงานกับระบบ ABS และ Cornering ABS เบรกตรงไหนก็มั่นใจทั้งทางตรงและในโค้ง

ระบบไฟแบบ Full LED รอบคัน และมาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบ Coming Home ดับเครื่องบิดกุญแจแล้วไฟหน้าจะติดค้างไว้อีก 30 นาที เพิ่มความปลอดภัยให้มากขึ้นด้วยระบบ Ducati Brake Light EVO ระบบไฟเตือนเมื่อเบรกกะทันหัน ติดทั้งไฟเลี้ยวและไฟท้าย กระพริบขณะเบรกฉุกเฉิน

หน้าจอสี TFT 5 นิ้ว ปรับการแสดงผลได้ 3 โหมด Road, Road Pro และ Rally ขนาดเล็กลงมาจากรุ่นพี่ V4 แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานและการแสดงผลยังเหมือนกันอยู่ สวย ชัด ฉลาด ใช้งานง่าย บอกข้อมูลครบ และสามารถเชื่อมต่อโทรศัพมือถือได้ เล่นเพลง ทั้งยังใช้งานระบบนำทาง Navigation Turn by turn ได้ ซึ่งควบคุมได้ง่ายด้วยประกับสวิตช์ใหม่ด้านซ้ายใช้งานง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีช่องจ่ายไฟแบบ USB-A เป็นช่องชาร์จที่สามารถเก็บสายไว้ด้านในได้

การขับขี่
รีวิว Multistrada V2S 2025

ท่านั่ง รู้สึกสบายขึ้นด้วยขนาดตัวรถที่เล็กลง นั่งหลังตรงก้นถอยด้านหลังเล็กน้อยไม่ก้มจับแฮนด์จนเกินไป ผู้ทดสอบ 180 ซม. วางไว้ได้เกือบเต็ม ทดลองให้น้องทีมงาน 170 ซม. สามารถวางได้ปลายเท้า ความสูงตามสไตล์รถทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ แต่ชดเชยด้วยน้ำหนักที่เบา ช่วยได้เยอะ

รีวิว Multistrada V2S 2025

ท่ายืน ลองลงทางดินดูยืนแล้วถือว่าสามารถกริพหรือหนีบรถได้มั่นใจก้มตัวจับแฮนด์เยอะหน่อย ถ้าจะเอามาลุยสำหรับความสูงของนักทดสอบอาจจะต้องปรับความสูงแฮนด์สักนิด ตำแหน่งเข่าพอดีกับถังหนีบได้กระชับ พักเท้าสามารถถอดยางออกได้เพื่อใช้งานกับบูทแบบออฟโรด

สรุป

รีวิว Multistrada V2S 2025ปัจุบันนักขับขี่ก็เริ่มกลับมานิยมที่รถทัวร์ริ่งแอดเวนเจอร์ไซส์กลางมากขึ้น ด้วยการพัฒนาตัวรถให้มีขนาดเล็กและเบาลง แต่ยังคงไว้ซึ่งสมรรถนะการขับขี่ทั้งพละกำลัง และเทคโนโลยีตอบสนองการใช้งานได้ครอบคลุม คือวิ่งทางไกลได้ ใช้ในชีวิตประจำก็ดี สำหรับนักทดสอบเองก็รู้สึกว่าคลาสกลางดูตอบโจทย์กว่า สามารถเดินทางร่วมกับรถรุ่นใหญ่ ๆ ได้สบาย ๆ ที่สำคัญคล่องตัวกว่า ไม่เป็นภาระต่อผู้ขับขี่ รวมถึงฟังชั่นที่ทำให้คุณออกไปลุยนอกเส้นทางได้มากขึ้น

รีวิว Multistrada V2S 2025

ดังนั้นเจ้า Ducati Multistrada V2S 2025 คือรถที่เหมาะมากกับผู้ขับขี่ทุกประเภท เป็นได้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น หรือ อาจจะเป็นตัวจบของคนที่ ขับรถใหญ่มาแล้วต้องการลดภาระ เพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน จุดเด่นคือสามารถตอบสนองการขับขี่บนทางดำได้ดีเยี่ยม แต่ก็สามารถออกไปลุยนอกเส้นทางได้ทุกเมื่อในทางออฟโรดก็ทำได้ดีประมาณนึงเลยทั้ง ออปชั่นและโหมดการขับขี่ก็มีมาให้พร้อมไม่มีกั๊ก เอาเป็นว่าคุ้มค่าแน่นอน โดย Multistrada V2 ราคาเริ่มต้นที่ 649,000 บาท และในส่วน S Version ที่ทางเราได้ทดสอบราคาเริ่มที่ 729,000 บาท แต่ถ้าเป็นสีเขียวสตอร์มกรีนก็จะอยู่ที่ 739,000 บาท

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่