รีวิว Tuareg 660 แบบเต็มทริป ท้าลมหนาวที่ภาคเหนือ

รีวิว Tuareg 660 แบบเต็มทริป ท้าลมหนาวที่ภาคเหนือ

แอดเวนเจอร์ไบค์ไซซ์กลาง สัญชาติอิตาลี Aprilia Tuareg 660 รถที่พร้อมพาคุณไปได้ทุกที่ที่คุณฝันถึง หลังจากที่เราเคยได้ทดสอบ รีวิว Tuareg 660 ไปตั้งแต่ปี 2023 ทว่าครั้งนั้นเป็นการทดสอบในเส้นทางที่ถูกจัดไว้ในรูปแบบ Off-Road และ On-Road เพียงระยะทางสั้น ๆ บริเวณรอบเขาใหญ่ ทำให้มีหลายเรื่องที่ ยังคงติดค้างอยู่ในใจผม แทน ธรรมชาติ

ครั้งนี้เป็นทริปแรกของปีที่ผมจะได้เดินทางท้าลมหนาวไปในเส้นทางที่สวยงามทางตอนเหนือของประเทศไทย และสำหรับผู้นำเส้นทางในครั้งนี้คือโค้ช พี่เล่ คนดีคนเดิมยังคงคอนเซ็ปต์ “ทางดี ๆ มีไม่ไป” เส้นทางครบทั้งทางดินและทางดำ และเป็นครั้งแรกของผมที่ได้มีโอกาสเดินทางพร้อมกับปี๊บหลัง 3 ใบ สะดวก แต่อาจจะไม่สบายเสมอไป

สำหรับทริปนี้ก็ถือว่าได้ข้อมูลที่หน้าสนใจมากมายสำหรับการนำรถ แอดเวนเจอร์ไบค์ไซซ์กลางอย่าง Aprilia Tuareg 660 ออกมาเดินทางในครั้งนี้ มีข้อมูลอะไรที่น่าสนใจ เป็นรถที่น่าใช้หรือไม่ตามมาครับ

ความสะดวกสบาย

เริ่มด้วยสิ่งที่เรานักขับขี่คาดหวังกับความสะดวกสบายเมื่อต้องเดินทางไกลเป็นระยะเวลานาน รวมไปถึงความคล่องตัวในการใช้งานทั้งการขับขี่และการจอดรถ ระยะฐานล้อยาว 1,500 มม. ระยะห่างจากพื้นถึงท้องเครื่อง 240 มม. ความสูงจากพื้นถึงเบาะ 860 มม. ถือว่าเจ้าทัวเร็กคันนี้เป็นไซซ์กลางที่จริงใจ เบาะไม่สูงจนเกินไปทำให้การขึ้นลงรถไม่ใช่ปัญหา ด้วยไซซ์นี้ก็ทำให้คนรูปร่างเล็กก็สามารถขับขี่ได้ แม้ความสูงเบาะจะเป็นปัญหาสำหรับคนรูปร่างเล็ก แต่ก็ถูกชดเชยด้วยน้ำหนักตัวรถที่ 204 กก. เข็นง่าย เรียกได้ว่าเบาสำหรับผมเลยก็ว่าได้ ขนาดติดปี๊บมา 3 ใบ สำหรับผมไม่รู้สึกว่ามันทำให้ลำบากขึ้นแต่อย่างใด

เบาะตอนเดียวนุ่มหนึบเป็นครั้งแรกเลยที่ผมสัมผัสได้จริง ๆ ว่าเดินทางไปกลับกว่า 1,000 กิโล ไม่มีอาการปวดก้นแม้แต่อย่างใด แฮนด์ทรงกว้างปรับตั้งในองศาที่พอดี ท่าขับหลังตรงไม่เมื่อย เรือนไมล์สีแบบ Full Digital TFT ขนาด 5 นิ้ว พร้อมเซ็นเซอร์ปรับความสว่างหน้าจอตามสภาพแสงแวดล้อมอัตโนมัติ บอกข้อมูลแบบครบครันมองเห็นได้ชัดเจน ชิลด์บังลมหน้า กับการเดินทางด้วยความเร็วสูงตัดอากาศได้ดีขี่ไกล ๆ ไม่เหนื่อย

ปี๊บตรงรุ่น 3 ใบ จากโรงงานใส่แล้วหนักขึ้นคิดว่าไม่เกิน 20 กก. (รวมสัมภาระแล้ว) สะดวกมากสำหรับการบรรทุกสัมภาระต่าง ๆ เพราะด้านในมีกระเป๋าให้ด้วยจะหยิบของใช้ก็ง่าย จะเอาของออกเพื่อเข้าที่พักก็สะดวกสุด ๆ ติดแค่ว่าตอนรถติดอาจจะต้องปรับตัวสักหน่อยมุดยากนิดนึง แต่พอเข้าใจระยะก็สบาย แต่ที่อาจจะโหดไปนิดก็อาจจะเป็นตอนขี่ทางดิน หรือที่แคบ ๆ ก็ต้องระวังเพิ่มขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่ได้ยากลำบากขนาดที่ขี่ไม่ได้ (อยู่ที่สกิลของผู้ขับขี่) ผมเก่ง!!! หยอกนะครับ เอาตัวรอดอย่างเดียว แถมแอบกรี๊ดในหมวกดังมากด้วย

แรงดีพอวิ่งกับตัว 1,000

จากพื้นฐานขุมพลังเดียวกับ RS660 และ Tuono 660 บนแพลตฟอร์ม 2 สูบเรียง ระบายความร้อนด้วยน้ำ ความจุ 659 ซีซี. มีกำลังสูงสุด 80 แรงม้า ที่ 9,000 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 70 นิวตันเมตร ที่ 6,500 รอบ/นาที เดินทางทำเวลาพอสมควรความเร็วยืนพื้น 120-140 กม./ชม. Top Speed ที่ทำได้อยู่ที่ 178 กม./ชม.

เดินทางร่วมกับรถไซซ์ 1,000 ซีซี ได้สบาย ๆ ไม่มีความรู้สึกว่าต้องเค้นความเร็วแต่อย่างใด เป็นบล็อคเครื่องยนต์ที่ตอบสนองการใช้งานได้ครอบคลุม ใช้วิ่งเดินทางไกลได้ ลงทางดินก็สนุก ด้วยแรงบิดที่มีให้ใช้ในรอบต่ำ มีโอกาสออกนอกเส้นทางในช่วงตัดจากเชียงคานออกไปทางภูเรือเนินชัน ๆ ดันยาว ๆ บนยอดเขาบอกเลยว่าดันผ่านได้สบาย ๆ

โหมดการขับขี่ 4 โหมด คือ URBAN, EXPLORE, OFF-ROAD, INDIVIDUAL และที่น่าประทับใจอีกหนึ่งจุดคือ “คันเร่งไฟฟ้า” ซึ่งตอบสนองได้เหมาะสมกับโหมดการใช้งานนั้น ๆ ได้อย่างสมูท นอกจากนั้นยังมีชุดระบบอิเล็กทรอนิกส์ APRC ย่อมาจาก “Aprilia Performance Ride Control” เป็นระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ปรับปรุงมาเพื่อโมเดลนี้โดยเฉพาะ ประกอบด้วย ระบบ ATC : Aprilia Traction Control 4 ระดับ สามารถปิดได้ ระบบควบคุม AEB : Aprilia Engine Brake 3 ระดับ ระบบ ABS : Anti-Lock Braking System เปิด-ปิดได้เฉพาะล้อหน้า ระบบ AEM : Aprilia Engine Map 3 ระดับ และระบบ ACC : Aprilia Cruise Control สามารถล็อกความเร็วได้ที่เกียร์ 3 ถึง 6 เป็นต้นไป

ชุดช่วงล่างสมราคา

ระบบกันสะเทือนจาก KYB ด้านหน้าเป็นโช้คหัวกลับขนาด 43 ม.ม. ระยะยุบ 240 มม. ด้านหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวทำงานร่วมกับสวิงอาร์มและกระเดื่องซับแรง ระยะยุบ 106.5 มม. สามารถปรับแต่งได้เต็มระบบทั้งด้านหน้าและหลังพรีโหลด คอมเพรสชันและรีบาวด์

ระบบเบรก Brembo ด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 300 มม. ทำงานร่วมกับคาลิเปอร์เบรกแบบแอ็กเซียลเมาท์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 260 มม. คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว เสริมระบบ ABS แบบ 2 แชนเนล จาก Continental เป็นระบบเบรกที่เชื่อถือได้อยู่แล้วเรื่องของประสิทธิภาพการใช้งาน ABS มีการตัดการทำงานที่ละเอียด มั่นใจเอาอยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน ล้อหน้าซี่ลวดแบบจุ๊บเลสรัดด้วยยางแบบกึ่งลุย Pirelli Scorpion Rally STR ขนาด 90/90 – 21 นิ้วและล้อหลัง 150/70 -18 นิ้ว

เป็นชุดช่วงล่างที่ตอบสนองการใช้งานได้ครอบคลุม สมรรถนะที่ให้มาเหลือใช้ ระบบโช้คที่ขี่บนทางดำแล้วมีความนิ่ง แต่ก็สามารถใช้งานหนักในแบบทางดินได้แบบโช้คเอนดูโร่ ลุยได้สุดไม่ว่าจะโดดจะดันอย่างไร ระบบเบรคที่รับรองเรื่องความปลอดภัยได้อย่างมั่นใจ ตัวยางก็ได้มาตรฐานเดินทางไกลความเร็วสูง ๆ ไม่มีส่ายไม่มีร่อน ช่วยให้เข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ

พิสูจน์แล้วว่าผ่าน

สำหรับทริปครั้งนี้ถือเป็นบทพิสูจน์สมรรถนะได้เป็นอย่างดี เส้นทางที่เลือกมาได้ลองขับขี่เดินทางทดสอบ ทำให้ได้สัมผัสและเข้าใจถึงการออกแบบที่ทางค่ายได้พัฒนาเจ้าทัวเร็กคันนี้มาให้เข้ากับการใช้งานจริง ตัวรถเป็นภาระต่อผู้ขับขี่น้อย ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักตัว ความสูง และพละกำลังเครื่องยนต์ที่สามารถตอบสนองการใช้งาน เดินทางร่วมกับรถที่มีพละกำลังมากกว่าได้สบาย ไม่เป็นภาระต่อผู้ขับขี่ จะทางดำเดินทางยาว ๆ หรือจะทางฝุ่นที่เป็นข้อได้เปรียบทั้งช่วงล่างและน้ำหนักตัว ออปชั่นที่ให้มาก็ช่วยจัดการปัญหาวุ่นวายใจ ทำให้สามารถโฟกัสกับเส้นทางและธรรมชาติที่ได้มากยิ่งขึ้น บอกตรงนี้เลยว่าคุ้มค่าแน่นอน สำหรับ Aprilia Tuareg 660 ราคา 749,000 บาท หากคุณกำลังมองความท้าทายในการเดินทางที่ไกลกว่า ลึกกว่านี่คืออีกหนึ่งทางเลือกที่คุ้มค่าแน่นอน

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่