รีวิว Yamaha Finn 2024 เกียร์นุ่ม ประหยัดคุ้มจริงไหม?

รีวิว Yamaha Finn 2024 เกียร์นุ่ม ประหยัดคุ้มจริงไหม?

บทความนี้เราก็จะมารีวิว Yamaha Finn 2024 ที่มีการอัปเดตสีสันใหม่ เพิ่มภาพลักษณ์สีสันสวยงามมากขึ้น ขณะเดียวกันก็ยังคงคุณสมบัติของรถครอบครัวสุดคุ้มไว้ครบถ้วน ครั้งนี้เรารีวิวแบบเต็มทริป โดยใช้เส้นทางที่บวกการ “ขึ้นเขา” เพื่อพิสูจน์อัตราเร่งและการกินน้ำมัน ว่า Finn 2024 ประหยัดคุ้มจริงไหม?

ดีไซน์

ยามาฮ่า ฟินน์ เป็นมอเตอร์ไซค์โมเพดยุคใหม่ซึ่งบ้านเราเรียกกันว่า “รถครอบครัว” ให้บอดี้ขนาดกำลังเหมาะ กระชับ ไม่ใหญ่เทอะทะ ดีไซน์รอบคันเน้นประโยชน์ใช้สอยแต่ก็มีความสวยงามไปขณะเดียวกัน

ชุดโคมไฟหน้าหลอดฮาโลเจน เสริมด้วยความเก๋ของไฟหรี่บิลด์อินเข้าชุดกับไฟเลี้ยวอย่างลงตัวในตำแหน่งมุมซ้าย-ขวาของกระจังหน้า ด้านไฟท้ายก็มีเชพของไฟที่กลมกลืนสวยงาม เห็นแล้วแสดงตัวตนของ Finn ได้ชัด ระบบไฟส่องสว่างชุดนี้ใช้งานจริงก็ให้ความสว่างคมชัดเหลือ ๆ สำหรับการใช้งานทั่วไป

ชุดบอดี้สีเทาล้อทองรุ่นใหม่ 2024 ที่เรารีวิว สังเกตว่ามีรายละเอียดเนื้อสีที่เป็นประกายมุกซ่อนไว้อย่างสวยงามด้วย ด้านท้ายมีการเติมกราฟิกสติ๊กเกอร์ 115i Modern City ย้ำเอกลักษณ์รุ่น ขี่ไปไหน ๆ ก็จำได้ทันทีว่านี่แหละฟินน์

มิติ การควบคุม

บนคาแรคเตอร์ของรถครอบครัวที่ใช้งานง่าย คล่องตัว ฟินน์รุ่น UBS มีน้ำหนักตัว(รวมของเหลว) 100 กก.เท่านั้น ถือว่าเบาทีเดียว ส่วนระยะแฮนด์กว้าง 710 มม. รับด้วยเบาะนั่งสโลป 2 ตอน เนื้อนวมเบาะนั่ง นุ่มกำลังดี ท่านั่งขับขี่หลังค่อนข้างตรง ขี่ไกลไม่รู้สึกเมื่อยมากนัก หนังหุ้มเบาะมีพื้นผิวกันลื่นด้วย

จากที่ลองขี่ตลอดทริปอยากบอกว่าความสูงเบาะ 775 มม. ขนาดนี้ถือว่าไม่เตี้ยครับ คนที่รูปร่างเล็กอาจจะรู้สึกว่านั่งบนฟินน์แล้วสูงประมาณหนึ่ง แต่ความสูงแบบนี้ก็ได้เรื่องความคล่องแคล่วปราดเปรียวมาทดแทน ช่วงแฮนด์ที่ให้มาตอบโจทย์การใช้งานในเมืองที่การจราจรหนาแน่นได้ดี สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าคือ ฟินน์เป็นรถครอบครัวที่ขี่ออกทริปแล้วสัมผัสได้ถึงความนิ่งความเสถียรเกินคาด ขี่คนเดียวไม่มีอาการหน้าเบาให้เหวอเลย

ขุมพลัง

ขุมพลังของฟินน์ได้รับการพัฒนามาต่อเนื่อง เวอร์ชันนี้ถือว่าถึงจุด “พอดี-ดีพอ” ของเครื่องยนต์เสื้อลม ปริมาตร 114 ซีซี. จากสูตรลูกสูบ 50.0 มม. ช่วงชัก 57.9 มม. กำลังอัด 9.3 : 1 ระบายความร้อนด้วยอากาศและจ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด

คาแรคเตอร์ด้านย่านกำลังชัดเจนมาก แรงบิดและอัตราเร่งไม่ธรรมดา เนื่องจากมีช่วงที่เราอัดขึ้นเขาได้ต่อเนื่องโดยไม่มีอาการแรงตก แถมยังมีความโดดเด่นของ 4 เกียร์วน ไม่ว่าจะเชนจ์อัพ-ดาวน์ก็นุ่มนวลดีมาก ด้วยสเปกสเตอร์หน้า 14 หลัง 40 ความจริงเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไป เดิม ๆ ขี่คนเดียวขึ้นเขาก็เอาตัวรอดได้

แต่ถ้าใครขี่ใช้งานต่างจังหวัดขึ้นดอยพร้อมน้ำหนักบรรทุกบ่อย ๆ ก็ลองหาสเตอร์ 44 ฟันมาใช้ ซึ่งยามาฮ่าเค้ามีตรงรุ่นให้เบิก แน่นอนว่าหากมีการเปลี่ยนสเตอร์ ถ้าเพิ่มฟันที่ด้านหลังก็ต้องหาโซ่ที่ยาวพอมารองรับด้วย..จบเรื่อง!

อัตราสิ้นเปลือง

ความเร็วเดินทางทริปนี้อยู่ที่ 80-90 เค้นท็อปสปีดในทางราบระดับ 113 กม./ชม. และขึ้นเขาอยู่ร่วม 40 กม. โดยเราตั้งใจวัดตัวเลขอัตราสิ้นเปลืองจากการเติม E20 เต็มถัง (ยามาฮ่าระบุชัดเจนว่า Finn 2024 สามารถเติมน้ำมัน E20 ได้) ด้วยถังเชื้อเพลิงจุ 4 ลิตร วิ่งรวดเดียว 202.8 กม. ได้อัตราสิ้นเปลืองจากการใช้จริงที่ 55.86 กม./ลิตร บอกได้ว่าประหยัดเอาเรื่อง!

ระบบเบรก UBS

จุดที่อยากรีวิวเน้น ๆ คือระบบเบรก โดยยามาฮ่าฟินน์มีรุ่น UBS (ตัวท็อป) ซึ่งได้ดิสก์เบรกหน้า-หลังดรัม พร้อมกลไก Unified Brake System ทำงานเมื่อเหยียบแป้นเบรกหลังจะเป็นการดึงสายเบรกที่เชื่อมสายเบรกแยกมาควบคุมปั๊มเบรกด้านบน ทำให้เกิดการเบรกหน้า-หลังในลักษณะกระจายแรงเบรก ระบบนี้ช่วยได้มากครับกับการหยุดความเร็วโดยปลอดภัยมากขึ้น ใครที่ติดนิสัยเหยียบเบรกหลังทุกสถานการณ์

ล้อ-ช่วงล่าง

โช้คหน้าคู่แบบเทเลสโคปิกปกติกับโช้คหลังคู่ ฟีลลิ่งช่วงล่างของการขี่คนเดียวหากเจอถนนลอนคลื่นยาว ๆ อาจมีอาการกระเด้งนิดหน่อย หากมีน้ำหนักบรรทุกน่าจะหนึบพอดี

ส่วนวงล้อ 17 นิ้ว เป็นล้อแม็กสีทองเข้ากับชุดสี รัดยางหน้า 70/90-17 ยางหลัง 80/90-17 จากการทดสอบยางเดิมติดรถใช้งานทั่ว ๆ ไปสบายมากครับ แต่ถ้าคนที่เน้นใช้งานหนัก ขี่เที่ยวทางโค้งบ่อย ๆ ก็อาจจะต้องอัปเกรดให้ตรงโจทย์ อย่างไรก็ตามล้อแม็กของฟินน์ใส่ยางแบบมียางในมาให้ ใครอยากเอาไปใส่ยาง Tube Less ล้อก็รองรับอยู่แล้ว (ใครใช้งานประจำวันหรือขี่เยอะ แนะนำให้ใส่ยางจุ๊บเลสไปเลยครับ)

ฟังก์ชั่น

ทุกครั้งที่ได้ลอง ยอมรับว่าชอบฟังก์ชั่นของยามาฮ่าฟินน์จริง ๆ รถคันนี้มีช่องใส่ของที่ฝั่งซ้ายคอนโซล ซึ่งวางโทรศัพท์หรือขวดน้ำ 600 ซีซี.ได้ ส่วนช่องเก็บของใต้เบาะ 9.7 ลิตร ใส่สัมภาระ กระเป๋าคาดเอว ชุดกันฝน รวมทั้งกับข้าวได้สบาย

ชุดกุญแจมัลติฟังก์ชั่น ใช้ง่ายในจุดเดียว เปิดเบาะ ล็อครถ มีปุ่มปิดช่องกุญแจเพื่อกันขโมยได้

หน้าปัดอนาล็อกจอแบบเข็ม แบ่งเป็นส่วนต่าง ๆ ให้อ่านสัญญาณง่าย ไม่ซับซ้อน เข็มวัดความเร็วมาพร้อมเข็มแสดงปริมาณเชื้อเพลิง

บทสรุป

การทดสอบเต็มทริปครั้งนี้ ยังได้ข้อมูลดี ๆ ที่ตอกย้ำว่า Yamaha Finn เป็นหนึ่งในตัวเลือกรถครอบครัวที่คุ้มค่าครบเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นสมรรถนะความแรงรองรับการใช้งานได้หลากหลาย ฟังก์ชั่นอำนวยสะดวกสบาย อัตราการกินน้ำมันที่ประหยัดมาก ๆ แถมยังได้รับการรับประกัน 5 ปี ไม่จำกัดระยะทางจากยามาฮ่า

สำหรับ Yamaha Finn รุ่น UBS ราคาแนะนำ 48,700 บาท มี 3 สี (ล้อสีทอง)ให้เลือก ได้แก่ เทา, เขียว, ดำ และยังมีรุ่นย่อยอีก 2 รุ่น เช็คสเปกเพิ่มเติมคลิกตรงนี้

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่