รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

รีวิว Z500 SE เน็กเก็ตไบค์ตัวใหม่จาก Kawasaki

รีวิว Z500 SE เน็กเก็ตไบค์ตัวใหม่จาก Kawasaki

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

ครั้งนี้เรามา รีวิว Z500 SE เน็กเก็ตไบค์ไซส์กลางตัวใหม่ล่าสุดจาก Kawasaki ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน Motor Expo ปีที่ผ่านมา ถือว่ารถบิ๊กไบค์คันนี้ถูกจัดอยู่ในกลุ่มบิ๊กไบค์สไตล์เน็กเก็ตขนาดกลาง ที่เข้าถึงได้ง่าย เหมาะที่จะเอามาใช้งานในชีวิตประจำวัน รอบนี้เรามาเข้าร่วมทดสอบภายในงาน Kawasaki circuit Fun Ride 2025 ที่สนามแก่งกะจาน เซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี ก็ถือว่าเป็น First Ride ของผมกับคันนี้เลยนะ แต่ก็คงเป็นฟีลลิ่งสนามเน้นรีดสมรรถนะไปแล้วกันสำหรับการรีวิวในครั้งนี้

เฉียบคม

พูดถึงการดีไซน์ในตระกูล Z ถือว่ายังให้ความดุดันตามสไตล์ค่ายเขียว ตระกูลนี้หน้าแหลมทั้งนั้น ตั้งแต่ Z250 ไปจนถึง Z1000 เช่นเดิม ไฟหน้ามีการปรับให้เป็นแบบสามดวงได้เหลี่ยมได้สันคมเหมาะเจาะ (ไฟคู่หน้าด้านบนเป็นไฟต่ำ ไฟเดี่ยวด้านล่างเป็นไฟสูง) ซึ่งเข้ากับตัวแฟริ่งข้างถังน้ำมันเป็นเส้นสายเดียวกันดูลงตัว ส่วนสีสันที่ทางค่ายใส่ลงไปในคันนี้ก็เสริมให้มิติรถดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้น เอาจริงคือเราดูมันเพรียวบางลงกว่าเดิมเลยละ

ส่วนหน้าจอใหม่อย่างจอสี TFT ขนาด 4.3 นิ้ว ที่ให้มาจากโรงงานถือว่าสวยงามตามท้องเรื่อง ดูดีทั้งกลางวันกลางคืนเลย ถือว่าเป็นทรงที่ดูดีในทุกกาลเวลา ไม่มากไป ไม่น้อยไป และยังคุมโทนสีมาดีตามซีไอคาวาซากิ

ท่านั่งดี คล่องตัว 

 

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

คือต้องบอกก่อนเลยว่ามิติรถคันนี้ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป แฮนด์บาร์ไม่กว้างมาก แม้ว่าการทดสอบครั้งนี้จะไม่ได้ไปซอกแซกบนท้องถนนในเมืองช่วงเวลาเร่งด่วน แต่คิดว่าบอกได้ถึงระยะตำแหน่งปลายแฮนด์ ตำแหน่งผู้ขับขี่ จุดพักเท้า เป็นองศาที่ไม่ต้องก้มหลังหรือชันเข่าขึ้นมา ทำให้การขับขี่ช่วงทดสอบไม่มีการเมื่อยเลย จะมีเพียงแต่ตอนเร่งความเร็วที่ตัวผู้ขับขี่ต้องก้มมุดเพื่อหลบลมลงไปเอง สร้างแอร์โรไดนามิกไม่ให้ต้านลมในความเร็วสูง ซึ่งเป็นเรื่องปกติของรถสไตล์เน็กเก็ต ซึ่งก็ต้องเข้าใจกันในส่วนนี้ แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะเข้าไปทดสอบในเมืองกันอีกทีให้รู้ชัดแจ้งแถลงไข แต่คาดว่าก็คงจะขี่ไม่ยากอย่างแน่นอน

เครื่องยนต์ใหม่ตอบสนองดีขึ้น 

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

สำหรับโมเดลนี้จะมาพร้อมเครื่องยนต์ 2 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ มีความจุเพิ่มมากขึ้น 52 ซีซีเมื่อเทียบกับ Z400 กลายเป็น 451 ซีซี เคลมกำลังแรงม้ามาที่ 52 แรงม้าที่ 10,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 42.6 นิวตันเมตรที่ 7,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด และใช้เชื้อเพลิงถังน้ำมันขนาด 14 ลิตร

พอได้ลองทดสอบในสนามแล้ว ซีซีที่ปรับเพิ่มขึ้นมาทำให้รถมีกำลังตอบสนองได้ดีมากขึ้น สัมผัสได้แบบชัด ๆ เลย ช่วงที่เดินคันเร่งทางตรงขึ้นเข้าในสนามแก่งกะจานทำได้เป็นอย่างดี ถ้าเทียบกับถนนใช้งานทั่ว ๆ ไปย่านกำลังต้นกลางมาแบบนี้ หายห่วงเลย จะว่าไปเทคโนโลยีกระบอกสูบแบบไร้ปลอกและเคลือบผิวเครื่องยนต์ด้วยเทคโนโลยีชั้นสูงที่ถอดแบบมาจาก ZX-6R และ ZX-10R เรือธงตัวสปอร์ตก็ไม่แปลกที่จะแรงขึ้น

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

ส่วนเทคโนโลยีสลิปเปอร์คลัตซ์ตัวนี้ทำงานได้ดีช่วงที่รวบเชนเกียร์ลงจากเกียร์ 4 ลงมา 1 ช่วยไม่ได้ท้ายเรื้อยไม่มีอาการออกให้เสียสมดุล เครื่องตัวนี้ถือว่าทำมาได้ดีถูกทาง แต่ถ้าจะขอได้ ก็อยากให้อัพซีซีขึ้นมาให้เต็ม ๆ ตามชื่อรุ่นไปเลย รับรองแจ๋ว!

ช่วงล่างเดิม ใช้งานได้ดี 

 

ในส่วนของช่วงล่างไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนอะไรมาก ยังคงมีโช้คหน้าแบบเทเลสโคปิก ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวพร้อมกระเดื่องซับแรงร่วมกับสวิงอาร์ม ส่วนระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาด 310 มม. และดิสก์หลังเดี่ยวขนาด 220 มม.พร้อมระบบเบรก ABS แบบ 2 ชาแนล

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

หลังจากทดสอบแล้ว ส่วนตัวสัมผัสได้ว่าโช้คหน้าเทเลสโคปิกก็ถือว่าให้ฟีลลิ่งที่ดีเลยโค้งที่เป็นโค้งเอสต่อเนื่อง ในแทร็กแก่งกระจาน สามารถเดินคันเร่งในโค้งได้ดี ตัวโช้คหลังที่มีกระเดื่องช่วยซับแรง ยังไม่ได้เห็นผลมาก จะมีเพียงแค่ช่วงบั๊มพ์ในแทร็กมีอาการนิดหน่อย แต่ขอบอกก่อนรถคันนี้เป็นรถเดิม ๆ ยางเดิม ช่วงล่างเดิม ขี่ในแทร็กได้ขนาดนี้ส่วนตัวคิดว่าในเมืองคงเหลือ ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้าจะเอามาลงขี่กิจกรรมแทร็กก็คิดว่าควรจะเซ็ตติ้งเปลี่ยนยางเสียหน่อยให้มันเหมาะสมกับการใช้งาน

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

ส่วนเรื่องจะเอามาใช้งานในเมืองทั่ว ๆ ไปซึ่งเป็นโจทย์หลักสำหรับเน็กเก็ตไบค์ ก็คิดว่าเพียงพออยู่แล้วกับโช้คเทเลสโคปิก ในส่วนของตัวเบรกหน้าที่เป็นดิสก์เบรกเดี่ยว ช่วงที่เบรกหนัก ๆ ตัว ABS ทำงานได้ไวละเอียด ถ้าเป็นส่วนนี้ก็ไม่มีไรมาก ทว่าถ้าเป็นไปได้เจ็นหลังจากนี้ก็อยากจะให้อัปเกรดช่วงล่างอีกนิดก็จะยอดเยี่ยมเลย

สรุป รีวิว Z500 SE

รีวิว Z500 SE 2025 Kawasaki

สุดท้ายนี้คงต้องพูดถึงความคุ้มค่าเพราะว่าค่าตัว Z500 SE ที่มีการอัพซีซีเพิ่มขึ้น หน้าจอสีใหม่ ให้ฟีลลิ่งที่เบา มีความคล่องตัว พลิกรถง่าย ภาระตัวรถน้อยสามารถที่จะขี่ใช้งานได้ในทุก ๆ วัน ทางคาวาซากิ เปิดราคาอยู่ที่ 219,800 บาท ถือว่าคุ้มค่าอยู่ ใครที่สนใจสามารถเข้าไปชมคันจริงได้ที่โชว์รูมคาวาซากิพร้อมรับข้อเสนอดี ๆ ได้ทุกสาขาทั่วไทย ส่วนครั้งต่อไปถ้ามีโอกาสจะเอามาทดสอบในเมืองให้ได้ชมกันไปเลย

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่