รีวิว Zontes 368K 2025 กับ 7 ประเด็นสำคัญต้องรู้!

• Facebook
• Twitter
• Line

รีวิว Zontes 368K 2025 กับ 7 ประเด็นสำคัญต้องรู้

     
ซอนเทสรหัส K เปิดตัวออกมาครึกโครมแรงจัดอีกแล้ว!! จัดว่าเป็นโมเดลใหม่ดีไซน์หรูหรา แถมยังให้ออปชั่นมาไม่ยั้ง ..แต่..ทรงสวยแบบนี้ ฟีลลิ่งการขับขี่จริงจะเป็นอย่างไร ติดตามได้จาก ทดสอบ รีวิว  Zontes 368K 2025 สรุปมาให้เข้าใจกันง่าย ๆ 7 ประเด็น ตามนี้!

1.ดีไซน์ Ultra-Luxury Style

ภาพลักษณ์ 368K ขยับความหรูหรา หน้าตาดูพรีเมียมขึ้นไปอีกขั้น เป็นรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่คมเข้ม บอดี้พาร์ทออกแบบเส้นสายต่าง ๆ ออกมาได้สมูท ลดเหลี่ยมต่าง ๆ ลงแล้วเสริมความโค้งมนมากขึ้นตั้งแต่หน้ายันท้าย แอบคิดว่ามุมมองด้านหน้าคลับคล้ายมังกรในแอนิเมชั่นเรื่องดัง อย่างคันนี้เป็นรุ่นสีดำ Extra Black ยิ่งดูเหมือนเจ้าเขี้ยวกุดยังไงยังงั้น แถมงานประกอบและวัสดุชิ้นงานดูดี มีความปราณีต สมกับคำว่า Ultra-Luxury Style

หน้าตาเท่ หลัก ๆ เป็นเพราะระบบไฟหน้าโปรเจกเตอร์แบบ 6 ดวง ซึ่งวัยรุ่นบ้านเราเรียกไฟลูกแก้ว  ฝั่งละ 3 ดวง แยกเป็น 2 ฝั่ง (เป็นไฟต่ำข้างละ 2 ดวง ไฟสูง 1 ดวง) ออกแบบมุมมองของโคมไฟได้ดุดันเป็นเอกลักษณ์ โดยมีไฟ Daytime Running Light พร้อมลูกเล่น Flowing Effect มีไฟวิ่งรันตอนที่เราเปิดสวิตช์ออนรถ เสริมความคมภาพลักษณ์ได้เป๊ะ ส่วนไฟเลี้ยวหน้าแยกไปฝังแบบบิลด์อินอยู่ 2 ฝังของแฟริ่ง

ไฟท้ายดีไซน์ขนาดใหญ่และสวยมาก ชุดนี้มีการบิลด์อินไฟเลี้ยวเข้าไปได้ลงตัว ทดลองใช้งานพบว่าให้ความสว่างของชุดไฟที่เพื่อนร่วมทางเห็นได้ชัดแน่นอน และในตอนที่เรา Switch On ก็จะมีลูกเล่นไฟ Flowing Effect วิ่งโชว์เช่นกัน…บอกเลยว่าล้ำ!

ทริปนี้เราตั้งใจสังเกตอาการที่เป็นผลของงานดีไซน์ของบอดี้ โดยเฉพาะคำถามว่าขี่ทางไกล ใช้ความเร็วสูงวิ่งไฮเวย์แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง ได้คำตอบชัดเจนว่าแอโร่ไดนามิคของ 368K ดีมากครับ การปะทะลมแทบไม่รู้สึกว่าตื้อต้านลม ตัวรถ “กินลม” ได้ดี  ไม่มีอาการส่าย และแน่นอน ไม่มีเรื่องหน้าไวให้รู้สึกเลย เมื่อลองปรับเป็นชิลด์สูง (ปรับแบบไฟฟ้า 2 ระดับ) ก็รู้สึกถึงลมต้านเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเท่านั้นเอง

2.ขุมพลัง

อีกหนึ่งจุดที่ซอนเทส จัดมาแบบไม่ยั้ง คือขุมพลังนี่เอง เครื่องยนต์บล็อคนี้ใช้คำว่า High Compression Engine ใช้วัสดุและวัตถุดิบคุณภาพสูง เนื่องจากโรงงานซอนเทส มีศักยภาพผลิตเองตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ จึงควบคุมคุณภาพได้ทั้งระบบ อย่างตัวชิ้นส่วนเครื่องยนต์มีการใส่ใจตั้งแต่การขึ้นโมลที่มีการอุ่นโมล มีเทคนิคลดฟองอากาศขณะที่หล่อขึ้นรูปบล็อคเครื่อง ใส่ใจการผลิตทุกขั้นตอนเพื่อให้ได้เครื่องยนต์ที่แข็งแกร่งทนทาน รายละเอียดเครื่องยนต์ เป็นแบบสูบเดี่ยว(ลูกสูบฟอร์จ) SOHC  4 วาล์ว ปริมาตร 368 ซีซี.จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีด Bosch Efi พร้อมระบบระบายความร้อนด้วยน้ำ  ให้กำลังสูงสุด 38.22 แรงม้า ที่ 7550 รอบ/นาที

จากที่ลองพบว่าคาแรคเตอร์ของเครื่อง 368K เน้นแรงบิดรอบต้นที่จัดจ้าน อาการแบบนี้น่าจะโดนใจสายซิ่งไฟแน่ ๆ เพราะการตอบสนองคันเร่งติดมือดีมากและไม่รอรอบเลย เร่ง 0-100 ได้ไม่เกิน 10 วินาทีเท่านั้น ความเร็วท็อปสปีดที่ผมทำได้ทริปนี้ อยู่ที่ 158 กม./ชม (ในสภาวะขี่สวนทางแรงลม)  ความเร็วปลายที่ได้ความจริงก็เหลือ ๆ แล้วสำหรับสายออกทริป จะเร่งทำเวลาหรือเร่งแซงรถใหญ่ก็ได้อย่างใจ

สำหรับอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง หน้าจอของรถคำนวณให้ 3.7 ลิตร/100 กม. และมีถังน้ำมันความจุ 17 ลิตร มารองรับการใช้งาน  ไม่ต้องห่วงว่าจะต้องเติมน้ำมันบ่อย

แน่นอนเครื่องยนต์ให้แรงบิดหนัก ๆ แบบนี้ ซอนเทสเค้ามีระบบ TCS แทรคชั่นคอนโทรลเข้ามาช่วยเพิ่มความปลอดภัย และจากเราลองเช็คการทำงานด้วยการวิ่งผ่านเส้นทางที่มีกรวด พบว่า TCS ตัดรอบเครื่องได้แม่นยำฉับไวดีเช่นกันครับ อีกทั้งยังมีโหมดขับขี่ E และ S สลับใช้งานง่าย เห็นผลชัดในโหมด S ที่ตัวรถตอบสนองคันเร่งได้จัดจ้านขึ้น
3.มิติ การควบคุม

หลายคนอาจสงสัยว่า ซอนเทส 368K รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ดูใหญ่ แล้วการขับขี่จะเทอะทะไม่คล่องตัวหรือเปล่า จากที่ลองทริปนี้ พบว่าการตั้งใจพัฒนาตั้งแต่ระบบเฟรม ส่งผลต่อมิติและการควบคุมที่อยากใช้คำว่า “เข้าถึงง่าย” ระยะฐานล้อ 1,570 มม. อาจจะดูยาว แต่ความจริงเป็นมิติที่ส่งผลต่อความเสถียรและความคล่องตัวที่น่าทึ่ง ไม่ว่าจะเลี้ยวกลับรถ หรือขี่ใช้งานเมืองแล้วต้องมุดไปตามการจราจรก็ไม่ใช่ปัญหา

ท่านั่งเป็นอีกจุดที่จัดว่าดีมาก เนื่องจากมีสเปซให้ขยับตัวเยอะ ตัวเบาะแบบโซฟา 2 ตอน มีตำแหน่งพนักพิงเล็กพร้อมระยะให้ผู้ขับขี่ ขยับตัวจัดท่าที่สบายสุดได้ง่าย ๆ ความสูงเบาะที่ 770 มม. รับด้วยแฮนด์บาร์อลูมิเนียมอัลลอยกว้าง 795 มม. เซ็ทมาให้มีระดับพอเหมาะ ยื่นแขนไปคุมรถได้ค่อนข้างสบาย ใครรู้สึกว่าไม่พอดีก็สามารถปรับได้ 2 ระยะอีกด้วย

สำหรับคนร่างเล็กอาจจะคิดว่าเอาขาลงเวลาเข้าจอดลำบาก ลองขี่จริงจะเข้าใจในการออกแบบเลยครับ เพราะซอนเทสทำตำแหน่งเว้าไว้ที่ด้านข้างรถทั้งสองฝั่งเอาไว้ให้เราลงขาวางเท้ากับถนนได้สะดวกขึ้นมาก ๆ

ส่วนฟลอร์บอร์ดที่วางเท้าคนขี่ มีลักษณะกว้างและยาว ตรงสุดขามีการทำเอียงองศารองรับการยืดเท้าไปวาง เป็นระยะที่ Cover ผู้ขับขี่รูปร่างใหญ่ได้ด้วย ส่วนคนรูปร่างเล็กหากมีทักษะในการขี่รถคลาสนี้ ก็ไม่ใช่ปัญหา

สุดท้ายคือน้ำหนักรวมของเหลวน้ำมันเต็มถัง ที่ 198 กก. ที่อาจจะดูตัวเลขว่าหนักไปมั้ย แต่ความจริงน้ำหนักขนาดนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวรถบาลานซ์ดี ส่งผลโดยตรงถึงการแล่นไปบนไฮเวย์ด้วยเร็วแต่รถยังทรงตัวได้อย่างเสถียรดีเยี่ยมครับ คอนเฟิร์มว่าไม่มีอาการหน้าส่าย ไม่มีหน้าเบา และไม่ร่อน!!
4. ช่วงล่าง

ด้วยช่วงล่างที่ให้มาแบบ “ไม่ธรรมดา” โดยใช้ชุดแผงคอ 2 ชั้น จับโช้คหน้าแบบอัพไซด์ดาวน์ ขนาดแกน 49 มม. ทำให้ 368K แบกความคุ้มค่าเกินหน้าบิ๊กสกู๊ตเตอร์เพื่อนร่วมคลาสมาแบบเห็น ๆ ขณะที่โช้คหลังคู่หน้าตาอาจจะธรรมดา ๆ แต่ก็เป็นส่วนผสมการทำงานช่วงล่างที่แมตช์ลงตัวกับโช้คหน้า

จากการทดสอบ ฟีลลิ่งช่วงล่างในแบบ “แฟคตอรี่เซ็ทติ้ง” ค่าเดิมโรงงาน รู้สึกชัดว่าการทำงานออกไปในแนวนุ่มนวล แต่ก็จัดการอาการสะท้อนจากช่วงที่วิ่งผ่านผิวถนนพังๆและเลี้ยวโค้งไฮสปีดได้ดีทีเดียว ผมสังเกตว่าในความเร็วสูง ช่วงล่างชุดนี้ยังให้ฟีลลิ่งการเลี้ยวที่คม เกาะโค้ง  แทบไม่รู้สึกถึงอาการโยน

ในส่วนของโช้คหน้า USD ใครถ้าขี่แล้วรู้สึกว่าไม่พอก็ยังสามารถปรับคอมเพรสชั่นกับรีบาวด์ได้อีกต่างหาก (ใกล้ๆหน้าปัด มีแผ่นปิดหัวโช้คด้านบนที่แกะออกมาได้)

ส่วนโช้คหลังคู่เท่าที่ลองไม่มีอาการกระด้าง และมีการยุบ-คืนตัวที่เป็นธรรมชาติ  และสามารถปรับพรีโหลดได้ 5 ระดับ
5. ยาง และ เบรก

ทางด้านระบบเบรก ยังคงเป็นคาลิเปอร์เรเดียลเมาท์ J.Jaun ทำงานร่วมกับปั๊มบนซึ่งมีการเซ็ทติ้งไล่น้ำหนักของมือเบรกมาดีมาก กำได้นุ่มนวลและเด้งสู้มือพอเหมาะ การหยุดความเร็วอยากใช้คำว่าวางใจได้ ขณะที่ ABS 2 ชาแนล เป็นมาตรฐานซอนเทสที่ยังคงเบรกได้เฉียบคม ตัดอาการล้อได้ในจังหวะที่ปลอดภัย ไม่รู้สึกว่าลึกเกินไปหรือทำงานหน่วงเกินไป

ในประเด็นนี้ยังมีเรื่องยางติดรถ ซึ่งรุ่นนี้ใช้ยางคอนติเนนตัล หน้า 120/70-15 หลัง 140/70-14 กับโจทย์เส้นทางการทดสอบของเราที่ต้องวิ่งผ่านถนนหลากหลาย อาการของยางถือว่าเกาะถนนได้ดีทั้งทางแห้งและมีโอกาสวิ่งทางเปียกช่วงสั้นๆก็ไม่พบอาการลื่น สำหรับผู้ทดสอบเองอยากบอกว่านี่เป็นยางติดรถอีกรุ่นที่คุณไม่ต้องคอยไปถามเปลี่ยนกับพี่ในกลุ่มครับ เพราะเดิมก็ใช้ดีมากๆแล้ว

6.ฟังก์ชั่น…เต็มร่าง!!อย่างที่ทราบกันว่า ซอนเทส เป็นแบรนด์ที่ไม่หวงออปชั่น เรียกว่ามีเท่าไหร่ก็ใส่ให้หมด

-แฮนด์บาร์แบบอลูมิเนียม พร้อมการ์ดแฮนด์และสามารถติดตั้งที่ยึดโทรศัพท์มือถือได้โดยไม่ต้องดัดแปลง โดยมีจุดงัดแผ่นพลาสติกเพื่อเปิดใช้การติดตั้งได้ไม่ยาก

-ระบบกุญแจ สมาร์ทคีย์แบบ 3.0 มาตรฐาน IP67 มีสายนาฬิกามาไว้ใช้รัดข้อมือเพิ่มความสะดวกและกันลืมได้ ระยะการทำงาน 1.5 เมตร ปิดระบบอัตโนมัติ เมื่อเดินออกห่างเกินระยะ และหากเราหักแฮนด์ไว้ซ้ายสุด ตัวรถก็จะล็อคคอให้อัตโนมัติเช่นกัน

-หน้าจอ TFT 6.7 นิ้ว เปลี่ยนอินเตอร์เฟสได้ 4 แบบ และเชื่อมแอปฯ ใหม่ Zontes Smart App ที่ใช้งานได้ง่ายขึ้น มิเรอร์จอโทรศัพท์ของเราเพื่อไปใช้แผนที่นำทาง สามารถเปิด-ปิดการใช้งานตัวรถโดยไม่ต้องใช้กุญแจ (เช่นใครทำกุญแจหายก็ใช้ระบบนี้ติดเครื่องรถพาไปศูนย์ได้)

-กล้องหน้า-หลัง ทรงลูกกระสุน โดยสามารถดึงไฟล์ออกมาได้ผ่านแอป ตัวกล้องนี้แถมมากับรถ และเป็นกล้องสเปค Full HD 1080 ที่ใช้เซนเซอร์ของ Sony เลย รูรับแสงกว้าง มุมภาพก็กว้าง ใช้งานกลางคืนยังเวิร์คครับ

-มีฟังก์ชั่นแจ้งเตือนแรงดันลมยางได้แบบเรียลไทม์พร้อมการแจ้งเตือนบนหน้าจอได้ หรือจะดูผ่านแอพในมือถือก็ได้

– มีช่อง USB Type A/C ฟาสท์ชาร์จ 3 จุด คือ 1 จุดด้านบนฝั่งขวา และในช่องเก็บของที่ฝั่งซ้ายอีก 2 ส่วนความของของช่องใส่ของ สามารถใส่ขวดน้ำขนาด 1.25 ลิตรได้

-ที่มือเบรกหลัง(แฮนด์ฝั่งซ้าย) มีกลไกพาร์คกิ้งเบรก ใช้งานง่าย และเพิ่มความสะดวกเวลาจอดชั่วคราวในทางลาดเอียง หรือใช้ตอนจอดเติมน้ำมันก็เหมาะ

-ชิลด์หน้าใบใหญ่ ตัดลมได้ดีมากๆ และสามารถปรับได้ 2 ระดับด้วยการกดปุ่มที่แฮนด์ฝั่งซ้าย

-กระจกมองข้าง ให้มุมมองชัดเจน ปรับง่าย ไม่สั่นตอนขับขี่ และใช้วัสดุแมกนีเซียมอัลลอยแข็งแรง น้ำหนักเบา

-ช่องใส่ของใต้เบาะ ขนาด XXL ใส่หมวกได้ 2 ใบ พร้อมไฟส่องและซีทสตอปเปอร์ และมีพรมกันรอยใส่มาให้พร้อม เปิดด้วยการกดปุ่ม Seat ที่ปะกับแฮนด์ฝั่งขวา

-ปุ่มสั่งงานบนปะกับแฮนด์ซ้าย-ขวา เป็นลักษณะปุ่มนูน เห็นเด่นชัด ใช้ง่าย และมีไฟแบ็คไลต์มาให้ด้วย หากใช้ในที่มือคือกลางคืนก็เวิร์ค ใช้แล้วไม่รู้สึกหงุดหงิดเหมือนรถบางรุ่น

-แรคท้ายแมกนีเซียมอัลลอย แข็งแรง แต่น้ำหนักเบา มีจุดพร้อมยึดฐานติดกล่องท้อปบ๊อกซ์

-เบาะนั่งแบบ Sofa ใช้เทคนิคการหุ้มเบาะแบบสุญญากาศ ผิวเทกเจอร์ช่วยให้นั่งแล้วยึดเกาะดี ไม่ลื่น แถมให้ความเด้งและนุ่มของนวมที่เหมาะมากๆกับการนั่งขี่นาน ๆ

-มีปุ่มเปิดฝาถังน้ำมันที่ปะกับแฮนด์ฝั่งขวา ฝาถังน้ำมันมีสายคล้องช่วยป้องการฝาหล่น

-ขาตั้งคู่ออกแบบจุดติดตั้งได้ดี ยกขึ้นได้ง่ายๆ ไม่กินแรง ส่วนขาตั้งข้างเป็นระบบไซด์สแตนด์สวิทช์ตัดการจุดระเบิดทันทีที่เตะขาตั้งลง

-มีอแดปเตอร์ชาร์จไฟ สำหรับเลี้ยงระบบในกรณีที่เป็นสายจอดหรือไม่ได้ใช้รถนาน ๆ โดยมีช่องต่อชาร์จอยู่ที่ช่องใส่ของฝั่งขวา

7.บทสรุป และข้อสังเกต
ในมุมมองของนักรีวิว ความจริงก็มีข้อสังเกตส่วนตัวเล็ก ๆ น้อย ๆ ต่อรุ่น 368K ซึ่งเป็นผลสะท้อนที่เกิดจากการลองใช้งานจริง ได้แก่

-ชิลด์หน้าใหญ่แต่มาแบบปิด ไม่มีการเจาะช่องลมไว้ให้แบบรุ่น 350E ซึ่งความจริงเหมาะกับสภาพเมืองร้อนแบบบ้านเรา ดังนั้นจุดนี้หากผู้ทดสอบเป็นเจ้าของ 368Kเอง สิ่งแรกที่แต่งก็คือหาชิลด์แต่งแบบเจาะมาใส่แน่ ๆ
-พักเท้าคนซ้อนแบบกดออก เวลาเก็บกลับต้องกดเบา ๆ ไม่งั้นจะเด้งออกมาให้ ต้องกะน้ำหนักดี ๆ
-รถรุ่นนี้สามารถเติมน้ำมันโซฮอลล์ 95 เท่านั้น
-เดือยขาตั้งข้าง สั้นไปนิด จอดรถแล้วต้องก้มมองจึงจะเตะออกมาใช้ได้ถนัด หากทำให้เดือยยาวกว่านี้จะเหมาะกว่า
-ฝาปิดช่องใส่ของทั้ง 2 ฝั่ง มีปุ่มกดเปิดอยู่ด้านบน แทนที่จะอยู่ด้านหน้าที่หันหาคนขี่ตรง ๆ ดังนั้นเวลาจะใช้งานต้องสอดมือผ่านใต้แฮนด์ไปกดเปิด ถ้าปุ่มกดบานช่องใส่ของอยู่ต่ำกว่านั้นจะเวิร์คกว่า

อย่างไรก็ตาม Zontes 368K มาพร้อมให้การรับประกันเครื่องยนต์นานถึง 5 ปี หรือ 50,000 กม. แถมยังมีภาพลักษณ์บิ๊กสกู๊ตเตอร์ยุคใหม่ที่ออกแบบได้หรูหรา ใส่ใจการผลิตทุกขั้นตอนทุกรายละเอียด เครื่องยนต์สมรรถนะดี มีฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานล้น ๆ และให้ตัวตนของรถที่เข้าถึงง่าย ราคาจำหน่ายที่เปิดมา 173,000 บาท ช่วงโปรโมชันเปิดตัวลดเหลือเพียง 169,000 บาท ถือว่าไม่แพงเลยครับ น่าจัดไว้ขี่สักคัน!!

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่