2026 Bonneville T100 และ T120 อัปเกรดเทคพร้อมสีใหม่ แบบฉบับ Triumph
นับตั้งแต่เปิดตัวมาครั้งแรกในปี 1959 ก็ได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงมาโดยตลอด และในครั้งนี้ก็ได้รับการอัปเกรดและปรับสีสันใหม่อีกครั้งแล้วสำหรับเจ้า 2026 Bonneville T100 และ T120 คลาสสิกไบค์ยอดนิยมที่มีพื้นฐานร่วมกันจาก Triumph
ดีไซน์
ยังคงคลาสสิกสวยงามเหนือกาลเวลา เด่นด้วยเอกลักษณ์ประจำตระกูลบอนเนวิลล์อย่างถังน้ำมันโลหะได้ทรงกันรอยถังยางและแบดจ์โลโก้บนถังน้ำมัน ตลอดไปจนถึงองค์ประกอบความคลาสสิกอย่างอื่นก็มาอย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็นไฟหน้า ไฟเลี้ยว กระจกมองหลัง เรือนไมล์ ไปจนถึงฝาถังน้ำมัน และชิ้นส่วนทำผิวแบบเงาสไตล์โครเมียม
ยังมีส่วนของไฟหน้านั้นมีการปรับเปลี่ยนไฟ LED เสียใหม่พร้อมกับไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ตามแบบฉบับของทางค่าย ขณะที่เรือนไมล์นั้นเป็นทรงกลมคู่แบบอนาล็อกผสมกับ LCD สกรีนที่แสดงผลข้อมูลรายละเอียดต่าง ๆ ได้มากขึ้น
และสำหรับเจ้า T120 Black ก็จะมีสไตล์ดำดุดันตามชื่อ โดยจะมีทำสีดำทั้งในส่วนของเครื่องยนต์ ท่อไอเสียและดีเทลต่าง ๆ รวมไปถึงเบาะสีน้ำตาล
เครื่องยนต์
สำหรับ T100 จะเป็นเครื่องสองสูบเรียง 900 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ 4 วาล์วต่อสูบ พร้อมระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ ผ่าน Euro5+ แล้ว เคลมแรงม้าสูงสุดมาที่ 65 แรงม้า 7,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 80 นิวตันเมตรที่ 3,750 รอบต่อนาที
ส่วน T120 และ T120 Black จะอัปเป็นเครื่องขนาด 1200 ซีซี ที่เคลมกำลังแรงม้าสูงสุดมาที่ 80 แรงม้าที่ 6,550 รอบต่อนาทีและมีแรงบิดสูงสุด 105 นิวตันเมตรที่ 3,500 รอบต่อนาที
ช่วงล่าง
แม้จะมีขนาดเครื่องยนต์ต่างกันแต่มีพื้นฐานร่วมกันในส่วนของช่วงล่าง โดยจะใช้เฟรมแบบเปลคู่ มีสวิงอาร์มคู่ทำจากอลูมิเนียม ขณะที่ระบบกันสะเทือนก็เหมือนกัน โดยจะมีโช้คหน้าเทเลสโคปิก KYB ขนาด 41 มม. และมีโช้คหลังคู่ KYB ที่สามารถปรับพรีโหลดได้
แต่ในส่วนของระบบเบรกนั้น T100 จะได้ดิสก์เบรกคู่กับคาลิเปอร์เบรก Nissin 2 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังดิสก์เดี่ยวกับคาลิเปอร์เบรก Nissin 2 ลูกสูบ ทว่าทางด้าน T120 มีขุมพลังแรงกว่าทางค่ายจึงอัปเกรดให้ด้านหน้ามีคาลิเปอร์เบรก Brembo แทน ส่วนอื่น ๆ เหมือนกัน ปิดท้ายด้วยล้อซี่ลวดอลูมิเนียมรัดด้วยยางขนาด 100/90 – R18” และ 150/70 – R17” หน้าหลังตามลำดับทั้งสามรุ่น
ระบบอิเล็กทรอนิกส์
ทั้งสองโมเดลจะได้รับการอัปเกรดเทคโนโลยีในส่วนของระบบอิเล็กทรอนิกส์ในลักษณะเดียวกัน โดยหลัก ๆ ก็จะเป็นระบบ IMU 6 แกน เพิ่มเข้ามา ทำให้มีระบบเบรก ABS ที่ดีขึ้นคือ Optimised Cornering ABS และแทรคชันคอนโทรล
นอกจากนี้ T100 ตอนนี้เป็นระบบคันเร่งไฟฟ้าแล้ว มีโหมดการขับขี่ 2 โหมด Road และ Rain
ส่วน T120 และ T120 Black ก็จะเพิ่มระบบครูซคอนโทรลเข้าไปด้วย ส่วนเจ้าตัวทีร้อยก็สามารถซื้อเพิ่มเติมได้
และสุดท้ายก็คือมีช่อง USB-C ใต้เรือนไมล์ให้ใช้งานได้สะดวก
การจำหน่าย
ทั้งสามโมเดลก็จะมีสีสันให้เลือกรุ่นละ 3 สี เว้น T120 Black จะมี 2 เฉดสีให้เลือก ส่วนราคาจำหน่ายในไทยคาดว่าจะแพงกว่าเดิมเล็กน้อยในทุกโมเดล แฟน ๆ ชาวไทยที่ชื่นชอบ เก็บเงินรอกันได้เลย เข้าไทยแน่นอน
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่







