2026 Brutale Serie Oro เน็กเก็ดรุ่นพิเศษที่ทั้งสวยทั้งแรงกับออปชันระดับท็อป
สำหรับ MV Agusta ก็ยังคงรักษามาตรฐานของตัวเองไว้ได้อย่างดี ล่าสุดก็เปิดตัว 2026 Brutale Serie Oro โมเดลพิเศษที่จะมายกระดับมาตรฐานของเน็กเก็ดพิกัดกลางให้สูงขึ้นไปอีกระดับ พร้อมกันนี้ยังคงไว้ซึ่งจิตวิญญาณความงามในเชิงวิศวกรรมและศิลปะบนสองล้อสไตล์อิตาเลียนได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย
ดีไซน์เป็นแบบไหน
ทางค่ายออกแบบมาให้เป็นเน็กเก็ดที่ไม่เพียงแต่ขับขี่ด้วยท่านั่งที่สบาย แต่ยังคงได้ความสปอร์ตพรีเมียมหรูหราที่แฝงอยู่ในโมเดลพิเศษจำนวนจำกัด 300 คันเท่านั้น โดยมีการยกแฮนด์ให้สูงขึ้นแต่เยื้องไปด้านหน้า และยังกว้างขึ้นเพื่อให้ควบคุมได้ง่ายขึ้น
ในส่วนเบาะนั่งหุ้มหนังอัลคันทาร่าปรับทรงโฟมมาใหม่ให้นั่งสบายขึ้นด้วยทั้งคนนั่งคนซ้อน ปรับตำแหน่งพักเท้าให้นั่งได้สบายมากขึ้น นอกจากนี้ยังปรับให้ผิวสัมผัสถังน้ำมันนุ่มขึ้นเพื่อซัพพอร์ตด้านข้างของขาทำให้ควบคุมได้ดีขึ้นด้วย
และยังมีพรีเมียมดีเทลบริเวณบังโคลนหน้าหลัง ครอบเครื่อง และการ์ดโซ่บนล่าง ซึ่งทั้งหมดทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ แต่แฟริ่งยังเป็นเทอร์โมพลาสติก สวิงอาร์มเดี่ยวอัลลูมิเนียมอัลลอยที่ทำสีพิเศษโดดเด่นไม่เหมือนใคร
2026 Brutale Serie Oro ใช้เครื่องยนต์อะไร
สำหรับโมเดลใหม่นี้จะใช้เครื่องยนต์บล็อกใหม่เป็นเครื่อง 950 EVO Engine ซึ่งจะเป็นเครื่อง 3 สูบเรียง 931 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมเพลาข้อเหวี่ยงแบบหมุนทวน เทคโนโลยีจากสนามแข่ง มีการออกแบบทางเดินของเหลวสำหรับระบบระบายความร้อนใหม่ และปรับภายในอีกหลายจุดเพิ่มความทนทานและความเสถียรในการเผาไหม้ รวมไปถึงให้มั่นใจว่าจะได้แรงบิดดีตั้งแต่รอบต่ำ โดยที่รอบสูงก็ยังมีสมรรถนะที่ดีด้วย
ยังมีแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ใหม่ช่วยผ่อนแรงมือคลัตช์ได้มากรวมถึงทำงานได้ดีกว่าเดิม
| เครื่องยนต์ | 3 สูบเรียง 931 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำ |
| กำลัง | 148 แรงม้าที่ 11,200 รอบต่อนาที |
| แรงบิด | 107 นิวตันเมตรที่ 8,400 รอบต่อนาที |
| ความจุถัง | 16.5 ลิตร |
| ท็อปสปีด (เคลม) | 260 กม./ชม. |
| อัตราเร่ง 0 – 100 กม./ชม. | 2.7 วินาที |
ช่วงล่างและมิติตัวรถเป็นอย่างไร
ทางค่ายออกแบบเฟรมถักจากเหล็กกล้าขึ้นมาใหม่แมตช์กับสวิงอาร์มที่ยาวขึ้นเพื่อให้มีความลงตัวระหว่างความคล่องตัวและความเสถียร
ในส่วนของระบบกันสะเทือนก็โดดเด่นพรีเมียมด้วยโช้คหน้า Ohlins เต็มระบบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ขณะที่ระบบเบรกเป็น Brembo ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
| เฟรม | เทรลลิสเฟรมหรือเฟรมถักจากเหล็กกล้า |
| ขนาดกว้าง x ยาว x สูง | 860 X 2,090 X ไม่ระบุ มม. |
| ระยะฐานล้อ | 1,433 มม. |
| ระยะจากตัวรถถึงพื้น | 150 มม. |
| ความสูงเบาะ | 850 มม. |
| น้ำหนักพร้อมขี่ | 195 กก. (ไม่รวมน้ำมัน) |
| ระบบเบรก | – ดิสก์หน้าคู่ 320 มม. คาลิเปอร์เบรก Brembo Hypur โมโนบล็อก 4 พ็อต – ดิสก์หลังเดี่ยว 220 มม. คาลิเปอร์เบรก Brembo 2 พ็อต |
| ระบบกันสะเทือน | – ด้านหน้าโช้ค Ohlins NIX 30 ปรับแต่งได้เต็มระบบพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชัน – ด้านหลังโช้คเดี่ยวพร้อมซับแทงค์ Ohlins TTX 36 ปรับแต่งได้ทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชัน |
| ล้อ | ล้ออลูมิเนียม ไม่ใช้ยางใน |
| ขนาดล้อและยาง | ยาง Pirelli Diablo Rosso IV หน้า 120/70 – ZR17” M/C (58W) หลัง 190/55 – ZR17” M/C (73W) |
เทคโนโลยีและฟีเจอร์เด่น
เทคโนโลยี
– ระบบคันเร่งไฟฟ้า
– โหมดการขับขี่ 5 โหมด Rain, Urban, Sport, Race และคัสตอมได้เอง
– ระบบแทรคชันคอนโทรล
– ระบบควบคุมการลอยตัวข้องล้อด้านหน้า
– ระบบเบรก Cornering ABS พร้อมระบบป้องกันล้อหลังลอยตัว
– ระบบควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง
– ระบบครูซคอนโทรล
– ระบบช่วยออกตัว
ฟีเจอร์เด่น
– หน้าจอสี TFT 5 นิ้ว
– แบตเตอรี่ลิเทียม
– กันสะบัด 8 ระดับ
– ระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน MV Ride APP
– ระบบ GPS Senor
– ระบบไฟหน้าแบบ Matrix LED
2026 Brutale Serie Oro คันนี้เหมาะกับใคร
สำหรับเจ้า Brutale Serie Oro คันนี้เหมาะกับการใช้งานในเมือง แต่ก็สามารถขี่สนามในวันแทร็กเดย์ได้ โดยจะเหมาะกับนักบิดสายถนนที่มีประสบการณ์มากหน่อยด้วยความแรงของมัน มันอาจจะไม่ได้ขี่ในสนามได้ดีเท่ารถสปอร์ตแต่ก็ขี่ได้สนุกแน่นอน นอกจากนี้ด้วยการที่มันเป็นตัวพิเศษมีราคาที่ค่อนข้างสูง จึงเหมาะกับคนที่เงินถุงเงินถัง ซึ่งอาจจะซื้อมาประดับหรือสะสมเป็นคอลเล็กชันประดับบารมีส่วนตัวก็เป็นได้
Brutale Serie Oro ราคาเท่าไหร่ ขายเมื่อไหร่
สำหรับ Brutale Serie Oro ราคายังไม่ได้มีการระบุ โดยคาดว่าจะส่งมอบได้ในไตรมาสที่ 2 ของปี 26 ส่วนบ้านเรานั้นตัวแทนจำหน่ายไม่มีการเคลื่อนไหวมาพักแล้ว ใครอยากจับจองเป็นเจ้าของอาจจะต้องหาทางนำเข้ามาเอง
คู่แข่งที่ใกล้เคียง
| ฝั่งตะวันออก | ฝั่งตะวันตก |
| – Honda CB750 Hornet | – Aprilia Tuono 660 Factory |
| – Kawasaki Z900 SE | – BMW F900R |
| – Suzuki GSX-8S | – Ducati Monster |
| – Yamaha MT-09 SP | – KTM 990 Duke |
| – Triumph Street Triple 765 RS |
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่















