2026 GSX-R1000R ปรับใหม่แรงติดปีก ฉลองครบ 40 ปีจิ๊กเซอร์
เปิดตัว 2026 GSX-R1000R ได้สมการรอคอยกับโมเดลใหม่ค่ายคนระห่ำ Suzuki ในโอกาสฉลองครบรอบ 40 ปีจิ๊กเซอร์หรือ GSX-R ที่เป็นรถตระกูลสปอร์ตของทางค่าย ที่ครั้งนี้ปรับปรุงขนานใหญ่ โดยเฉพาะเรื่องของสมรรถนะและแอโรไดนามิกตามแบบของซูเปอร์ไบค์สมัยใหม่
ดีไซน์โดดเด่นยิ่งขึ้น
สำหรับโมเดลใหม่นี้โดดเด่นด้วยวิงก์เล็ตด้านหน้าที่ออกแบบมาตามหลักแอโรไดนามิก โดยที่ตัวรถโดยเฉพาะด้านหน้ามีความปราดเปรียว กะทัดรัดเพื่อลดแรงต้านอากาศ ตำแหน่งแรมแอร์ขนาดใหญ่ด้านหน้าช่วยเพิ่มแรงอัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ และยังมีท่อไอเสียปลายไทเทเนียมที่ออกแบบใหม่เล็กลงและดูลงตัวมากยิ่งขึ้น
![]() |
![]() |
ที่สำคัญเลยคือจะมาพร้อมลายกราฟิกโลโก้ฉลอง 40 ปีจิ๊กเซอร์พร้อมลวดลายที่ดูสปอร์ตเรซซิ่ง ทั้งนี้จะมีจำหน่ายด้วยกันทั้งหมด 3 เฉดสี ได้แก่ สีน้ำเงิน- ขาว, สีแดง-ขาว และสีเหลือง-น้ำเงิน
เครื่องยนต์
ส่วนหัวใจหลักของโมเดลนี้ยังคงเป็นเครื่อง 4 สูบเรียงขนาด 999.8 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำแบบ DOHC พร้อมระบบวาล์วแปรผัน SR-VVT แต่ในโมเดลนี้ได้รับการปรับปรุงภายในหลายขนานด้วยกัน
ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนรูหัวฉีดจาก 10 เป็น 8 ปรับฝาสูบทั้งฝั่งไอดีและไอเสียเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ประเก็นฝาสูบปรับทรงใหม่เพิ่มความทนทาน หัวลูกสูบปรับทรงใหม่ให้มีกำลังอัดสูงขึ้นจาก 13.2:1 เป็น 13.8:1 เพิ่มขนาดวาล์วให้ใหญ่ขึ้น ลูกสูบอลูมิเนียมฟอร์จก็ปรับใหม่พร้อมเคลือบ DLC ลดแรงเสียดทาน แหวนลูกสูบใช้วัสดุใหม่เพิ่มความทนทาน โซ่ราวลิ้นใหม่กว้างขึ้นช่วยลดแรงเสียดทาน ปรับทรงกรวยไอดีใหม่เพิ่มประสิทธิภาพในรอบสูง ๆ เพลาข้อเหวี่ยงดีไซน์ใหม่รองรับโหลดหนัก ๆ
ทั้งหมดนี้ทำให้ได้เครื่องยนต์ที่ทั้งแรงและทนทาน โดยทางค่ายเคลมแรงม้าสูงสุดมาที่ 195 แรงม้าที่ 13,200 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 110 นิวตันเมตรที่ 11,000 รอบต่อนาที
ช่วงล่างเจแปนล้วน ๆ
ทางค่ายเลือกใช้เฟรมอลูมิเนียมทวินสปาร์ ขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบาให้รถมีความคล่องตัวตอบสนองได้เร็วและแม่นยำ พร้อมซับเฟรมท้ายอลูมิเนียมที่เบาและแข็ง ส่วนสวิงอาร์มอลูมิเนียมจากสนามแข่งแข็งแรงทนทานขณะเดียวกันก็ให้การควบคุมที่ดีโดยเฉพาะในสนามแข่ง
![]() |
![]() |
ระบบกันสะเทือนทางค่ายจัดมาให้เป็น โช้คหน้าหัวกลับพร้อมซับแทงค์ Showa BFF ปรับแต่งได้ทั้งรีบาวด์ คอมเพรสชันและพรีโหลด ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยว Showa BFRC ที่ปรับแต่งได้ทั้งรีบาวด์ คอมเพรสชันและพรีโหลดได้เช่นกัน
ขณะที่ระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 320 มม.พร้อมคาลิเปอร์เบรก Brembo เรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ โดยก้านเบรกหน้ามีการเจาะช่องลมลดโอกาสแรงลมที่จะกระทำต่อก้านเบรกอีกด้วย ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม.
ส่วนล้อจะเป็นล้ออลูมิเนียมแบบ 6 ก้านรัดด้วยยาง Bridgestone Battlax Racing Street RS11 ที่ให้คุณพร้อมซิ่งทั้งในสนามและบนถนน
เทคโนโลยีจัดเต็ม
สำหรับเรือธงของซูซูกิแน่นอนว่าระบบอิเล็กทรอนิกส์และเทคโนโลยีก็จัดเต็มตามแพ็กเกจ Suzuki Intelligent Ride System (S.I.R.S.) ที่ช่วยในการขับขี่ทั้งในเชิงสมรรถนะ ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ไม่ว่าจะเป็นระบบคันเร่งไฟฟ้า โหมดการขับขี่ 3 โหมด หน่วยประมวลผลแรงเฉื่อยแบบ 6 แกน หรือ IMU ระบบแทรคชันคอนโทรลที่รวบเอาระบบควบคุมการลอยตัวของล้อและระบบควบคุมแรงบิดขณะเข้าโค้งไว้ด้วยกัน ระบบควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง ระบบควบคุมเบรก ระบบช่วยควบคุมรถเวลาลงทางลาดชัน ระบบช่วยออกตัว ระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ ระบบอีซี่สตาร์ท และระบบช่วยเลี้ยงรอบเครื่องยนต์ป้องกันรถดับที่รอบต่ำ
นอกจากนี้ทางค่ายยังปรับมาใช้แบตเตอรี่แบบลิเทียมไอออนที่มีน้ำหนักเบาและเล็กลงในขณะที่จ่ายไฟได้ดีขึ้น ทว่าหน้าจอยังเป็น LCD ดิจิทัลธรรมดาอยู่ ซึ่งอาจจะขัดหูขัดตานิดนึง
สุดท้ายนี้เรื่องของการจำหน่ายนั้นยังไม่ชัดเจนในเรื่องของราคาค่าตัว แต่รถนั้นจะเริ่มส่งมอบได้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ปีหน้า อ้างอิงจากเว็บไซต์ Suzuki UK ส่วนบ้านเรานั้นก็คงรอปลายปี 2026 เป็นแน่แท้ งานนี้สาวกคนบ้าคิดว่าไงกันบ้างครับ อัปเกรดใหม่ครั้งนี้ถูกใจมั้ย
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่