2026-Honda-CB1000F

2026 Honda CB1000F ทายาทจากโมเดลระดับตำนาน พร้อมขายจริงแล้ว

2026 Honda CB1000F ทายาทจากโมเดลระดับตำนาน พร้อมขายจริงแล้ว

2026 Honda CB1000F

ไม่ได้เป็นเพียงแค่รถต้นแบบหรือรถโปรโตไทป์อีกต่อไปแล้ว สำหรับ 2026 Honda CB1000F ซึ่งตอนนี้เปิดตัวเป็นรถโปรดักชันพร้อมขายจริงแล้ว

สำหรับโมเดลนี้คือโมเดลที่สานต่อตำนานรถในตระกูล CB ที่มีมานานกว่า 65 ปี นับตั้งแต่เจ้า CB92 Benly เปิดตัวในปี 1959 ซึ่งเป็นปีเดียวกับที่ฮอนด้าเริ่มแข่ง TT โดยเจ้าโมเดลนี้เป็นซูเปอร์สปอร์ตไบค์ที่มีเส้นสายแบบคลีน ๆ พร้อมท่านั่งแบบสปอร์ต เครื่องยนต์ที่ดุดันและสุ้มเสียงเร้าใจ

ดีไซน์

2026 Honda CB1000F

2026 Honda CB1000F

สำหรับเรื่องของการออกแบบ CB1000F ได้แรงบันดาลใจมาจาก CB750F ในช่วงปลายทศวรรษ 1970 ที่เป็นตำนานด้วยฝีมือ Freddie Spencer ใช้ลงแข่งใน American AMA Championship ด้านหน้าเด่นด้วยไฟหน้า LED ทรงกลมและแตรคู่ที่เป็นเอกลักษณ์มายาวนาน ยังมีเส้นสายที่เน้นการเชื่อมต่อเป็นหนึ่งเดียวจากถังน้ำมันไปจรดท้ายรถ เพิ่มกลิ่นอายความคลาสสิกความเก๋าด้วยท่อไอเสียสีโครเมียมทรงเมกาโฟนและการเปลือยโชว์เครื่องยนต์สี่สูบที่สาวกชื่นชอบให้ได้เห็นกันชัดเจน

2026 Honda CB1000F

มีการเพิ่มความโมเดิร์นใส่เข้าไป ทั้งหน้าจอสี TFT แต่เป็นทรงเหลี่ยมที่อาจจะขัดใจนักบิดรุ่นเก๋า และสวิตช์ควบคุมแบบใหม่พร้อมแบ็กไลต์เข้าไปให้ใช้งานได้ง่ายตอบโจทย์คนรุ่นใหม่มากขึ้น

เครื่องยนต์

สำหรับเครื่องยนต์หรือขุมพลังจะใช้เครื่อง 4 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำ ขนาด 1,000 ซีซีจากเจ้า CBR1000RR Fireblade จากปี 2017 เคลมกำลังแรงม้าสูงสุดมาที่ 124 แรงม้าที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดมาที่ 103 นิวตันเมตรที่ 8,000 รอบต่อนาที แตกต่างไปจากเจ้า CB1000 Hornet ด้วยการปรับจูนให้เข้ากับสไตล์ของตัวรถที่แตกต่างกัน

ซึ่งทางฮอนด้าปรับหลายจุด ไม่ว่าจะเพลาข้อเหวี่ยงเพื่อปรับเปลี่ยนจังหวะการทำงานของวาล์วไอดีและไอเสีย การปรับปรุงฝั่งไอดีใหม่ให้รอบต่ำถึงกลางตอบสนองดีขึ้น ปรับแอร์บ็อกซ์ให้เหมาะกับทรงของถังน้ำมันขนาด 16 ลิตรและออกแบบให้ป้อนอากาศได้เต็มสมรรถนะ ทั้งหมดนี้เพื่อให้มีคาแรกเตอร์ที่ดุดันและสุ้มเสียงเร้าใจ มีกำลังดีทุกช่วงรอบ

ทั้งยังมีการปรับอัตราทดเกียร์เสียใหม่ โดยเกียร์ 1 และ 2 ใช้อัตราทดต่ำลงเพื่อให้เร่งแซงได้ดี ขณะที่เกียร์อื่นใช้อัตราทดสูงขึ้น เพื่อให้ขับขี่ได้อย่างผ่อนคลาย ให้รอบเครื่องยนต์ต่ำ ทำให้ประหยัดน้ำมัน โดยเคลมมาว่า 1 ถังวิ่งได้กว่า 280 กม. และแน่นอนว่ามีแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์มาช่วยผ่อนแรงที่มือคลัตช์และเสริมความปลอดภัยเวลาเชนเกียร์ลงเพื่อลดความเร็วก่อนเข้าโค้ง

ช่วงล่าง

ตัวรถใช้เฟรมแบบไดมอนเฟรมพร้อมซับเฟรมขนาดยาวสำหรับเพิ่มความสบายให้กับผู้ขับขี่และคนซ้อน ส่วนระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นโช้คหัวกลับ Showa SFF-BP ขนาด 41 มม. ปรับแต่งได้เต็มระบบ ด้านหลังจะเป็นโช้คหลังเดี่ยว Showa พร้อมกระเดื่องที่ปรับมาใหม่รองรับโมเดลนี้โดยเฉพาะ ซึ่งด้านหลังก็จะสามารถปรับพรีโหลดและรีบาวด์ได้ โดยจะมีสวิงอาร์มแบบไม่สมมาตรกันซ้ายขวาที่ออกแบบมาให้สามารถวางท่อไอเสียแนบตัวรถได้มากขึ้น เพื่อให้แบนรถเข้าโค้งขวาได้มากขึ้น

ระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 310 มม.กับคาลิเปอร์เบรก Nissin เรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ ด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 240 มม. กับคาลิเปอร์เบรก Nissin ลูกสูบเดี่ยว ปิดท้ายด้วยล้ออลูมิเนียม 5 ก้านแบบตัว Y พร้อมด้วยยางขนาด 120/70 – ZR17” และ 180/55 – ZR17” หน้าหลังตามลำดับ

ระบบอิเล็กทรอนิกส์

2026 Honda CB1000F

ตัวรถคันนี้จะสั่งงานด้วยระบบคันเร่งไฟฟ้า มีโหมดการขับขี่รวม 5 โหมดได้แก่ Standard, Rain, Sport และ User อีก 2 โหมด มีระบบ IMU ระบบเบรก Cornering ABS ระบบ HSTC หรือแทรคชันคอนโทรล ระบบควบคุมการลอยตัวของล้อหน้าและล้อหลัง และระบบไฟเตือนเมื่อเบรกกะทันหัน

นอกจากนี้ยังมีระบบเพื่อความสะดวกสบายอย่าง ระบบสมาร์ทคีย์ หน้าจอสี TFT ขนาด 5 นิ้วพร้อมระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน Honda Roadsync และช่องจ่ายไฟ USB-C

การจำหน่าย

2026 Honda CB1000F SE

เรื่องของการวางจำหน่ายตอนนี้คือเปิดตัวพร้อมราคาจำหน่ายในญี่ปุ่นแล้ว โดยจะมีรุ่น CB1000F ในราคาคิดเป็นเงินไทยราว ๆ 300,000 บาท แต่คาดเข้าไทยในราคา 4 แสนต้น ๆ และ CB1000F SE ที่มาพร้อมโม่งหน้าการ์ดหม้อน้ำ อุ่นมือ ควิกชิฟเตอร์และเบาะปักเย็บสีพิเศษเพิ่มเข้ามา ในราคาที่คิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 340,000 บาท ซึ่งมาไทยก็น่าจะ 4 แสนปลาย ๆ ไม่เกิน 490,000 บาท จากการคาดการณ์

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่