2026 Kawasaki Z900RS ถึงจะดูเก่า แต่พี่เขาก็อัปเกรดเทคเพิ่ม
ล่าสุดค่ายเขียวเอาใจนักบิดสายคลาสิกเปิดตัว 2026 Kawasaki Z900RS เรโทรสปอร์ตไฟกลมไซส์ใหญ่ออกมา แม้หน้าตาภายนอกจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงชัดเจน แต่จริง ๆ แล้วทางค่ายเขาก็อัปเกรดเทคโนโลยีให้สามารถสู้กับคู่แข่งได้มากขึ้นแล้วนะเออ
ดีไซน์
ยังคงจิตวิญญาณความคลาสสิกเอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม ด้วยรูปลักษณ์ที่สวยงามไร้ซึ่งกาลเวลา แม้ว่าจะหลัก ๆ แล้วโฉมจะยังคงเดิม แต่แอบมีส่วนที่เปลี่ยนแปลงไปซึ่งก็คือปลายท่อใหม่ที่ยาวขึ้น แต่ยังคงเป็นทรงเมกาโฟนเช่นเดิม
เครื่องยนต์
ขุมพลังเครื่องยนต์ยังคงเป็นเครื่อง 4 สูบเรียง 948 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ แบบ DOHC 4 วาล์วต่อสูบ เคลมกำลังแรงม้าสูงสุดมาที่ 116 แรงม้าที่ 9,300 รอบต่อนาที มีแรงบิดสูงสุด 98 นิวตันเมตรที่ 7,700 รอบต่อนาที่ แม้จะเครื่องเดิมแต่ตอนนี้อัปเกรดเทคโนโลยีไปใช้ระบบควบคุมวาล์วปีกผีเสื้อด้วยไฟฟ้าแล้ว
ช่วงล่าง
ทางค่ายเขียวเลือกใช้เฟรมถักเหล็กกล้าน้ำหนักเบากับโมเดลนี้ ในด้านของระบบกันสะเทือนด้านหน้ามีโช้คแบบหัวกลับขนาด 41 มม. ปรับแต่งได้ทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชัน ขณะที่ด้านหลังเป็นโช้คเดี่ยวปรับแต่งได้ทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชันเช่นกัน
ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 300 มม.กับคาลิเปอร์เบรกเรเดียลเมาท์แบบ 4 ลูกสูบ ส่วนด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 250 มม.กับคาลิเปอร์เบรกแบบลูกสูบเดียว ปิดท้ายด้วยล้อแม็กซี่เล็กให้ฟีลลิ่งคล้ายล้อซี่ลวดช่วยเพิ่มลุคคลาสสิก โดยจะรัดมาด้วยยางขนาด 120/70 – ZR17” และ 180/55 – ZR17” หน้าหลังตามลำดับ
ระบบอิเล็กทรอนิกส์และฟีเจอร์
ตรงด้านนี้แหละที่เป็นไฮไลท์ของโมเดลนี้เลย ทางค่ายจัดเต็มมาก ๆ ด้วยการอัปเกรดเทคโนโลยีมาให้ทันสมัยมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นระบบวาล์วไฟฟ้าที่บอกไปแล้ว ยังมีระบบควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง ระบบ IMU จาก Bosch ระบบช่วยจัดการตัวรถขณะเข้าโค้ง ระบบ Cornering ABS ระบบครูซคอนโทรล และการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ซึ่งเข้ามาเพิ่มเติมจากเดิมที่มีระบบแทรคชันคอนโทรล และ ABS แบบธรรมดา
การจำหน่าย
สำหรับเจ้า 2026 Kawasaki Z900RS มี 3 รุ่นย่อยด้วยกัน ได้แก่
1.Standard ซึ่งก็จะมีออปชันตามทั้งหมดที่กล่าวถึง ยังไม่ทราบราคาจำหน่าย
2.Black Ball Edition ซึ่งจะมาในเฉดสีดำเมทัลลิก Metallic Spark Black ซึ่งพาร์ตต่าง ๆ ตามตัวรถจะถูกทำเป็นสีดำแทบจะทั้งหมดเลย มีค่าตัวเริ่มต้นที่ 1,529,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 321,000 บาท ซึ่งคาดว่าจำหน่ายในไทยก็น่าจะอยู่ที่ราว ๆ สามปลายถึงสี่แสนต้น
3.SE ก็จะมีการอัปเกรดออปชันเข้าไป ซึ่งก็จะมีคาลิเปอร์เบรก Brembo M4.32 ร่วมกับปั๊มบนแบบเรเดียลและสายถัก ยังมีโช้คหลัง Ohlins S46 พร้อมรีโมทปรับ และช่องชาร์จไฟแบบ USB-C โดยสังเกตได้จากลายกราฟิกสีส้ม Fireball และโช้คสีทอง มีค่าตัวเริ่มต้นที่ 1,837,000 เยน หรือคิดเป็นเงินไทยก็ราว ๆ 385,000 บาท ซึ่งราคาไทยก็น่าจะกระโดดไปที่สี่แสนกลาง ๆ
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่












