2026 Ninja ZX-10R จาก Kawasaki ปรับโฉมใหม่ ใส่ปิก เน้นแอโรฯ
เปิดตัวแล้วกับ 2026 Ninja ZX-10R จาก Kawasaki ปรับโฉมใหม่ ใส่ปิก เน้นแอโรไดนามิก พร้อมกันนี้ยังปรับดีเทลอีกหลายจุดเพื่อให้สอดคล้องกับตัวรถที่ปรับรับกับแอโรไดนามิกได้อย่างเต็มที่
ดีไซน์
หลัก ๆ แล้วโมเดลใหม่นี้เน้นไปที่เรื่องแอโรไดนามิกเป็นหลัก ด้านหน้าตัวรถที่จะเห็นได้ชัดเลยว่ามีมีปีกหรือวิงก์เล็ตเพิ่มเข้ามาช่วยเพิ่มแรงกดที่ด้านหน้าเมื่อขับขี่ที่ความเร็วสูงมากกว่าเดิมถึง 25%
ยังมีการปรับให้แฟริ่งด้านหน้ามีไฟหน้าโปรเจ็กเตอร์ที่กะทัดรัดมากขึ้น รวมถึงปรับตำแหน่งแรมแอร์เสียใหม่ให้ตรงตามหลักแอโรฯ มากขึ้นนั่นเอง
เครื่องยนต์
ขุมพลังเป็นเครื่อง 4 สูบเรียงระบายความร้อนด้วยน้ำขนาด 998 ซีซี แบบ DOHC 4 วาล์วต่อสูบ เคลมตัวเลขกำลังแรงม้าสูงสุดมาที่ แรงม้าที่ รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดมาที่ นิวตันเมตรรอบต่อนาที โดยเป็นตัวเลขที่ผ่านมาตรฐาน Euro5+ แล้ว
ช่วงล่าง
สำหรับในจุดนี้มีการปรับแต่งมิติตัวแชสซีต่าง ๆ เล็กน้อยเพื่อให้สอดคล้องกับการที่ตัวรถมีปีกเข้ามาเพื่อเพิ่มการยึดเกาะที่ล้อหลังให้มากยิ่งขึ้น ขณะที่ระบบกันสะเทือนยังเป็นของ Showa ทั้งด้านหน้าและด้านหลังที่ปรับจูนมาแบบเน้นขับขี่ในสนามเป็นหลักเช่นเดิม ซึ่งด้านหน้าจะเป็นโช้คหัวกลับ Showa BFF ปรับแต่งได้ทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชัน ส่วนด้านหลังจะเป็น Showa BFRC lite ซึ่งปรับแต่งได้ทั้งพรีโหลด รีบาวด์และคอมเพรสชันเช่นกัน
ส่วนระบบเบรกด้านหน้าเป็นดิสก์เบรกคู่ขนาด 330 มม.กับคาลิเปอร์เบรก Brembo M50 เรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบคู่กับปั๊มบนแบบรเดียลเช่นกัน ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด มม.กับคาลิเปอร์เบรก ส่วนล้อยังเป็นล้ออลูมิเนียมรัดด้วยยางขนาด หน้าหลังตามลำดับ
เทคโนโลยีและฟีเจอร์
และสำหรับเรื่องเทคโนโลยีแน่นอนว่าจัดหนักสมเป็นซูเปอร์ไบค์ดีกรีแชมป์โลก 7 สมัย หลัก ๆ เลยก็จะเป็นระบบ IMU แบบ 6 แกนที่เป็นหัวใจสำคัญในการป้อนข้อมูลสถานะต่าง ๆ ของตัวรถเพื่อให้ระบบอื่น ๆ ทำงานได้ดีและแม่นยำมากขึ้นกว่ารถที่ไม่มี ยังมีระบบ Kawasaki Cornering Management Function หรือระบบควบคุมจัดการตัวรถในการเข้าโค้ง ซึ่งประกอบไปด้วยระบบย่อยต่าง ๆ อย่าง แทรคชันคอนโทรลแบบสปอร์ต ระบบควบคุมการสไลด์ ระบบเบรกอัจฉริยะ และระบบควบคุมเอ็นจิ้นเบรก
นอกจากนี้ยังมีระบบช่วยออกตัว ระบบควิกชิฟเตอร์แบบ 2 ทาง ระบบคันเร่งไฟฟ้า ระบบครูซคอนโทรล โหมดควบคุมกำลังเครื่องยนต์ และโหมดการขับขี่
ขณะที่ฟีเจอร์โดดเด่นอื่น ๆ หนีไม่พ้นหน้าจอสีขนาด 5 นิ้วที่สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้งานระบบสั่งการด้วยเสียงหรือใช้งานระบบนำทางแบบเทิร์นบายเทิร์นได้
การจำหน่าย
สำหรับโมเดลนี้จะจำหน่ายด้วยกัน 2 รุ่นย่อยได้แก่
- 1. ZX-10R มีจำหน่ายด้วยกันสองสีคือสีเขียวมะนาว Lime Green และสีเทา Metallic Matte Graphenesteel Gray / Metallic Spark Black / Lime Green
- ZX-10RR ตัวท็อปสุดที่จะอัปเกรดไปอีกระดับด้วยก้านสูบและลูกสูบจาก Pankl รวมไปถึงสายเบรกหน้าแบบถักอีกด้วย โดยจะมีให้เลือกสีเดียวคือสีเขียว Lime Green
ส่วนสนนราคายังไม่เปิดจำหน่าย แต่คาดการณ์ว่าน่าจะมีราคาแพงขึ้นอีกพอสมควรจากวิงก์เล็ตที่เพิ่มเข้ามา
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่













