เจาะลึก “New Triumph Tiger 1200”.. แอดเวนเจอร์ไบค์ท็อปคลาส ฟีเจอร์ “ล้นจัด”!

• Facebook
• Twitter
• Line

จัดอัพเดตให้แน่นคันรถ สวนทางกับน้ำหนักตัวที่เบาลงไปถึง 25 กิโลกรัม! “Triumph Tiger 1200” เปิดตัวเจเนอเรชั่นใหม่ ทั้งสไตล์แอดเวนเจอร์และทัวเรอร์ถึง 5 รุ่น GT, GT Pro, GT Explorer, Rally Pro และ Rally Explorer มีรายละเอียดเยอะแยะสามารถสรุปเป็น 3 คำง่ายๆ “แรง เบา ล้ำสุดๆ”..

แรงกว่าด้วยเครื่องยนต์ “1,200 ซีซี.”
หรือ 1,160 ซีซี. ให้ตรงตามที่จดสเป็คไว้ ได้รับการอัพเกรดใหม่ เรียกแรงม้าสูงสุดได้อีก 10 ตัว รวมแรงม้าทั้งหมดจึงไปแตะที่ 150 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด.. 130 นิวตันเมตร!
เครื่องยนต์ 3 สูบของ Triumph โดดเด่นด้วยการใช้เพลาข้อเหวี่ยงแบบ T-Plane ให้คาแรคเตอร์แบบรถสูบน้อยในสไตล์แอดเวนเจอร์เมื่ออยู่ในรอบต่ำถึงกลาง ไม่กระชากเกินไปเมื่อแตะคันเร่ง และหากต้องการแรงบิดเพื่อตะลุยฝ่าอุปสรรค ก็สามารถเรียกขึ้นมาได้ง่าย จะนำไปวิ่งบนถนนหลวงก็มีกำลังรอบปลายจากเครื่อง 3 สูบนี้เข้ามาเติมเต็ม ไม่ตื้อเหมือนรถน้อยสูบด้วย..

นอกจากนี้ Triumph Tiger 1200 ใช้ระบบส่งกำลังแบบ “เพลาขับ” เพื่อรองรับแรงบิดมหาศาลของเครื่องยนต์บล็อคนี้เอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันระบบเพลาขับของ Tiger 1200 นั้นกลับมีน้ำหนักเบาที่สุดในกลุ่มรถที่ใช้เพลาขับเหมือนกัน ที่สำคัญ “หมดปัญหาโซ่” ด้วยความที่เป็นแกนหมุนตรงจากเครื่องยนต์จึงประหยัดเวลาดูแลโซ่ เมื่อใช้งานในการเดินทางไกลที่อาจจะมีเศษหิน-ฝุ่นไปรวบกวนระบบส่งกำลังด้วยโซ่ได้ง่าย

ช่วงล่างสุดล้ำ
โช้คอัพจาก Showa.. ด้านหน้า USD ขนาดแกน 49 มม. และด้านหลัง Monoshock มีระยะยุบเท่ากันทั้ง 2 ด้านที่ 220 มม. เทคโนโลยี “Semi-Active” ปรับตั้งค่าโช้คอัพ อัตราการหน่วงคืนตัว และระยะพรีโหลด “อัตโนมัติ” เพื่อให้ได้การตอบสนองที่ดีที่สุดในสถานการณ์ต่างๆ รวมไปถึงผู้ขับขี่สามารถปรับตั้งค่าต่างๆเพิ่มเติมได้ง่าย เพียงกดปุ่มควบคุมที่ประกับแฮนด์ ..

ระบบเบรกด้านหน้าจัดเต็มสเป็ค Brembo M4 โมโนบล็อก คาลิเปอร์เรเดียลเมาท์ Brembo M4.30 Stylema, OC-ABS, จานเบรกคู่ Floating Disc ขนาด 320 มม. ปั๊มเบรกเรเดียลเมาท์ Magura HC1 ปรับระดับพร้อมกระปุกแยก” ด้านหลังเป็นดิสก์เดี่ยวขนาด 282 มม. จาก Brembo เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ ทาง Triumph ยังตั้งใจปั้นโมเดล Tiger1200 มาเพื่อตอบโจทย์สายเดินทางได้อย่างครอบคลุม ทั้งกลุ่มที่ชื่นชอบการผจญภัยในรหัส Rally Pro และ Rally Explorer กับชุดล้อซี่ลวดด้านหน้าขนาด 21 นิ้ว พร้อมยาง Tubeless สไตล์แอดเวนเจอร์ไบค์ Metzeler Karoo (ระยะยุบโช้คอัพมากกว่าในรุ่น GT)

ส่วนรหัส GT, GT Pro และ GT Explorer ได้ชุดล้อหน้าขนาด 19 นิ้ว กับยางล้อเรียบ Metzeler Tourance เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานบนทางดำ ..แน่นอนว่ารองรับการลุยเป็นครั้งคราว มีโหมดการขับขี่ให้กดปุ่มเซ็ตอัพรออยู่แล้ว..

การควบคุม “โดดเด่น”
ตามที่ได้โปรยไปตั้งแต่ต้นว่าน้ำหนักตัวเบาลงกว่า 25 กก. และเมื่อเทียบกับรถที่ใช้ระบบขับเคลื่อนแบบเพลาขับทั้งตลาดก็พบว่า Triumph Tiger 1200 คือรถที่ “เบาที่สุด” และเบากว่าคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดกว่า 17 กิโลกรัม..
เมื่อการปรับเฟรมปรับช่วงล่างให้เบาลงได้ขนาดนี้ จึงทำให้ความรู้สึกเมื่อขึ้นคร่อม Tiger 1200 อาจเหมือนกำลังขับขี่รถที่ “ซีซี. น้อยกว่านี้” หากแต่แรงบิดทรงพลังจะปลุกคุณขึ้นมาว่านี่แหละ รถคลาส 1,200 ซีซี.

นอกจากนี้ Tiger 1200 ยังมีมิติการควบคุมที่เข้าถึงง่าย ลบความจำ “เทอะทะ” ของรถแอดเวนเจอร์คลาสใหญ่ไปเลย ช่วงเว้าถังน้ำมันสอดรับกับช่วงขา ..หนีบถังได้ดีมากขึ้น หยุดรถง่ายขึ้น ยืนคร่อมรถง่ายขึ้น.. แถมออกแบบมาให้ศูนย์ถ่วงน้ำหนักอยู่ต่ำลง ทำให้การโยกควบคุมรถซ้ายขวาทำได้อย่างคล่องตัว บนความสูงเบาะ 850-870 มม. (GT) และ 875-895 มม. (Rally)

เทคโนโลยีเยอะสุดๆ

• เพื่อตอบสนองต่อการเดินทางได้ “ทุกรูปแบบ” ไทรอัมพ์ได้จัดสรรระบบช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกยามขับขี่มาด้วยลองไล่ดูตั้งแต่ “พื้นฐานก่อน..
• หน้าปัด Full Digital LCD ขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟีเจอร์การเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชัน My Triumph
• ระบบกุญแจ Keyless
• ระบบควบคุมความเร็ว Cruise Control
• ระบบ Hill Hold ช่วยจอดบนทางลาดชัน
• โหมดขับขี่ 6 โหมด Sport, Road, Rain, Off-Road และปิดทุกระบบควบคุม รวมถึง Off-Road Pro ในรุ่น Rally Pro และ Rally Explorer
• Traction Control ปรับระดับได้
• Cornering ABS

ตามด้วยออพชั่นเฉพาะรุ่น

• Cornering Light (Rally Pro, Rally Explorer)
• Blindspot Radar (GT Explorer, Rally Explorer) แจ้งเตือนเมื่อมีรถหรือสิ่งกีดขวางอยู่ในจุดอับสายตา
• Heated Rider & Pillion Seat ปรับอุณหภูมิแยกกัน (GT Explorer, Rally Explorer)
• ระบบวัดแรงดันลมยาง (GT Explorer, Rally Explorer)
• และออพชั่นเสริมให้เลือกก่อนออกรถ พร้อมไลน์อัพอุปกรณ์ตกแต่ง อุปกรณ์ขับขี่จาก Triumph
• Triumph Shift Assist (ควิกชิพเตอร์)
• Heatgrip (เฉพาะรุ่น GT, GT Pro, GT Explorer)
• ออพชั่นลดความสูงเบาะ (มากสุด 20 มม.)

บอกเลยว่า Triumph Tiger 1200 เป็นโมเดลแอดเวนเจอร์ทัวริ่งที่น่ากลัว(สำหรับคู่แข่ง) และน่าสนใจมากๆ(สำหรับผู้บริโภค) ที่ต้องการเติมเต็มไลฟ์สไตล์ในการเดินทาง/ผจญถัยได้อย่างแท้จริง
ติดตามกันต่อไปว่าหากนำมาเปิดตัวพร้อมวางจำหน่ายที่ประเทศไทยจะมีราคาเป็นอย่างไร เพราะปีที่ผ่านมาทางไทรอัมพ์ประเทศไทยทำราคาจำหน่ายบ้านเรา “โคตรโดน” แทบทุกรุ่น