Bimota-KB998-Rimini

Bimota KB998 Rimini ซูเปอร์ไบค์คันใหม่จากอิตาลีใต้เงื้อมมือยักษ์เขียว

Bimota KB998 Rimini ซูเปอร์ไบค์คันใหม่จากอิตาลีใต้เงื้อมมือยักษ์เขียว

Bimota KB998 Rimini

เปิดตัวกันไปในช่วงงาน EICMA 2024 ที่มิลาน ประเทศอิตาลี สำหรับ Bimota KB998 Rimini ทว่าก่อนหน้านั้นมีการเปิดตัวทีมแข่งเล่นเอาช็อกไปตาม ๆ กัน หลังจากที่เพจ Kawasaki Racing Team ถูกเปลี่ยนให้กลาย Bimota by Kawasaki Racing Team แทน แสดงให้เห็นว่าทาง Kawasaki เตรียมทุ่มให้แบรนด์นี้กลับมาเป็นที่สนใจในตลาดโลกอีกครั้งนึง เพราะการที่จะทำทีมแข่งในรายการ WorldSBK ได้ก็จะต้องเป็นรถโปรดักชันขายจริงไม่ต่ำกว่า 500 คัน นั่นแสดงว่า ซูเปอร์ไบค์คันนี้คุณก็มีสิทธิ์เป็นเจ้าของได้

Bimota KB998 Rimini

เข้าเรื่องกันดีกว่า สำหรับเรื่องของดีไซน์นั้น ตัวรถออกแบบมาได้เฉียบคม ดุดันในแบบของทางบิโมต้าเอง แต่ก็แอบมีกลิ่นอายของเจ้า ZX-10R อยู่บ้าง เด่นด้วยไฟหน้าคู่ มีไฟเลี้ยวบิลต์อินในกระจกมองหลัง ตัวแฟริ่งโชว์ให้เห็นเนื้อของคาร์บอนไฟเบอร์บางส่วนตัดกับแฟริ่งที่ทำสีดูเด่นสะดุดตา มีวิงก์เล็ตที่ดูเล็กกว่าหลาย ๆ ค่ายและบางส่วนอาจจะดูไม่ล้ำสมัยเหมือนกับแบรนด์อื่น ๆ จากทางฝั่งยุโรป ทว่าก็แอบมีบังโคลนหน้าที่มีดีไซน์พิเศษมีส่วนที่เป็นท่อดักลมเพื่อช่วยลดความร้อนระบบเบรกหน้าอีกด้วย

ขุมพลังเป็นเครื่องยนต์ 4 สูบเรียงขนาด 998 ซีซีระบายความร้อนด้วยน้ำที่ได้มาจาก ZX-10R เคลมกำลังแรงม้ามา 200 แรงม้าที่ 13,600 รอบต่อนาที และแรงบิดที่ 111 นิวตันเมตรที่ 11,700 รอบต่อนาที ส่งกำลังผ่านระบบเกียร์ 6 สปีด โดยมีถังน้ำมันขนาด 17 ลิตร

Bimota KB998 Rimini

ช่วงล่างของรถใช้เฟรมถักแบบท่อวงรีร่วมกับเพลทอลูมิเนียมอัลลอยขึ้นรูปด้วยวิธี CNC น้ำหนักเบาแต่แข็งแรง ระบบกันสะเทือนจะเป็นโช้คหัวกลับจาก Showa BFF ที่เป็นโช้คหน้าพร้อมซับแทงค์ ขนาด 43 มม. ด้านหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวร่วมกับสวิงอาร์มอลูมิเนียม CNC แน่นอนว่าปรับได้เต็มระบบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

Bimota KB998 Rimini

ส่วนระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกหน้าคู่ขนาด 330 มม. กับคาลิเปอร์เบรก Brembo ด้านหลังจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยว 220 มม. ส่วนล้อจะเป็นอลูมิเนียมรัดมาด้วยยางขนาด 120/70 – ZR17 และ 200/55 – ZR17

ระบบอิเล็กทรอนิกส์ช่วยเหลือในการขับขี่ทางค่ายยังไม่ได้ระบุออกมาชัดเจน แต่ที่แน่ ๆ คือมีระบบเบรก ABS ระบบครูซคอนโทรลจากการสังเกตภาพที่ออกมา อย่างไรก็ดีคาดว่าตัวรถก็น่าจะมีระบบคันเร่งไฟฟ้า โหมดการขับขี่หลากหลาย แทรคชันคอนโทรล ซึ่งทั้งหมดก็น่าจะทำงานร่วมกับหน่วยประมวลผล IMU ตามแบบที่หลาย ๆ ค่ายใช้กันนั่นเอง

ที่ก็ถือว่าสมกับเป็นตัวพันแต่ก็รายละเอียดยังไม่ชัดเจนนัก ราคาเองก็ยังไม่ประกาศ ดังนั้นเราจึงไม่อาจจะคาดเดาอะไรได้มาก แต่เรื่องการจำหน่ายในบ้านเรานี่แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยทีเดียว เอาเป็นว่ารับชมกันไปครับ ถ้าผลงานในการแข่งขันชิงแชมป์โลกดี เราอาจจะเห็นคนนำเข้ามาขายก็ได้นะ

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่