CFMoto 150 Aura โมเดิร์นคลาสสิก สกู๊ตเตอร์ สเปคดี ออปชันแน่น
ค่ายรถมังกรฟ้าอย่างซีเอฟโมโตเปิดตัวโมเดลใหม่ที่น่าสนใจอีกครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นเจ้า CFMoto 150 Aura สกู๊ตเตอร์สไตล์โมเดิร์นคลาสสิก สเปคดี ออปชันแน่น ซึ่งถ้าหากในไทยมีตัวแทนเจ้าใหม่ดี ๆ บริหารดี ๆ บอกเลยว่าค่ายอื่นมีหนาวแน่
สำหรับดีไซน์ก็จะมาในรูปแบบของโมเดิร์นคลาสสิกที่ผสมผสานกันระหว่างเทคโนโลยีในแบบสมัยใหม่เข้ากับองค์ประกอบของความคลาสสิกในส่วนต่าง ๆ ของตัวรถ เช่น ระบบไฟส่องสว่างต่าง ๆ หน้าจอสี TFT กล้อง และเทคโนโลยีอื่น ๆ มาใส่ในตัวรถสไตล์คลาสสิกที่มีไฟหน้ากลม กระจกมองหลังทรงกลม พร้อมชิ้นส่วนทำสีแบบโครเมียมและเส้นสายที่ออกไปทางโค้งมนมากกว่าเหลี่ยมคม กลายเป็นโมเดลที่น่าจะถูกใจหลาย ๆ คนแบบไม่เกี่ยงว่าเป็นชายหรือหญิง วัยรุ่นหรือคนทำงานเลยทีเดียว
เครื่องยนต์นั้นก็จะเป็นเครื่องสูบเดียวขนาด 149.5 ซีซี แบบ 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ส่งกำลังขับผ่านระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT และสายพาน มีถังน้ำมันขนาด 8 ลิตร ที่เคลมตัวเลขแรงม้าสูงสุดมาที่ 15.82 แรงม้าที่ 8,500 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 14.3 นิวตันเมตรที่ 6,500 รอบต่อนาที โดยเคลมตัวเลขอัตราเร่ง 0 – 80 กม./ชม.มาที่ 8.0 วินาที
ในส่วนของช่วงล่างนั้น ระบบกันสะเทือนด้านหน้าจะเป็นโช้คเทเลสโคปิกธรรมดา ด้านหลังจะเป็นโช้คคู่ ขณะที่ระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกหน้าเดี่ยวขนาด 220 มม. กับคาลิเปอร์เบรกแบบ 2 ลูกสูบ ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 190 มม. กับคาลิเปอร์แบบลูกสูบเดี่ยว ล้ออลูมิเนียมอัลลอยรัดด้วยยางขนาด 120/70 – 12 เท่ากันทั้งด้านหน้าและด้านหลัง
ต่อกันด้วยเรื่องของเทคโนโลยีเรียกว่าให้มาเหนือใคร ไม่ว่าจะเป็นระบบเบรก ABS แบบดูอัลแชนแนล ระบบแทคชันคอนโทรล ระบบ Idling Stop System และหน้าจอดิจิทัล LCD สำหรับรุ่นพื้นฐาน
![]() |
![]() |
และสำหรับรุ่น Pro จะเพิ่มระบบอุ่นมือ ระบบแจ้งเตือนลมยาง กล้องบันทึกวิดีโอการขับขี่ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง หน้าจอสี TFT ขนาด 6.2 นิ้วเลือกได้ 2 ธีม ระบบกุญแจคีย์เลสที่มีให้เลือกใช้ได้มากถึง 4 วิธีการ ได้แก่ สัญญาณบลูทูธ ระบบการ์ด NFC ระบบกุญแจผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน และระบบพาสเวิร์ดบนหน้าจอ ระบบสั่งงานกล้องแอ็คชันแคมฯ ช่องจ่ายไฟแบบ USB-A และ Type C เรียกว่าให้มาเยอะมาก ๆ สำหรับคลาสไม่เกิน 150 ซีซี แบบนี้
![]() |
![]() |
ปิดท้ายด้วยฟังก์ชันการใช้งานแสนสะดวกแบบสกู๊ตเตอร์ เช่น กล่องเก็บของใต้เบาะขนาดใหญ่ใส่หมวกได้ 2 ใบแบบเต็มใบ 1 และ ครึ่งใบ 1 ช่องเก็บของด้านหน้า ตะขอแขวนสัมภาระ
สุดท้ายนี้ตัวรถจะจำหน่ายด้วยกัน 4 เฉดสี รุ่นสแตนดาร์ดราคาที่จีนอยู่ที่ 11,980 หยวน หรือราว ๆ 54,000 บาท ขณะที่รุ่น Pro จะจำหน่ายที่ 13,580 หยวน หรือราวๆ 61,300 บาทเท่านั้น ซึ่งราคาต้นทางดีมาก ๆ หากมาจำหน่ายในไทย งานนี้มีกระทบทั้งค่ายยุโรป ค่ายญี่ปุ่น อย่างแน่นอนครับ
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่