Skip to content
อีกครั้งที่บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จัดทริปตะลุยหนาว ให้ “แอ่วถิ่นล้านนา” ได้อย่างสุขสมอารมณ์หมาย ไปกับรถ เอ.ที. ครอสโอเวอร์ “New Honda ADV 150” เพื่อพิสูจน์สมรรถนะขาลุย ภายใต้คอนเซ็ปท์ เพราะชีวิตมี 2 ด้าน.. ใช้มันซะ! แบบสุดขั้วด้วยระยะทางกว่า 400 กม. “พิษณุโลก-แพร่-เชียงใหม่” ท่ามกลางฤดูหนาวสุดฉ่ำของประเทศไทยในปีนี้ไปเลย!!
เตรียมพร้อมออกเดินทาง..
ทันทีที่ 2 เท้า ก้าวสัมผัสพื้นสนามบิน จ.พิษณุโลก จิตใจก็รับรู้ได้ถึงความตื่นเต้นและสนุกสนานที่จะเกิดขึ้น.. ด้วยอุณหภูมิภาคพื้น 17 องศา.. ปากทางเข้าสู่ดินแดนล้านนา ที่บรรดาสื่อมวลชนและตัวแทนผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าจากทั่วประเทศกว่า 50 ชีวิต มารวมตัวกันพร้อมบุกทะลวงเส้นทางแห่งความฟิน..
อีกด้านหนึ่ง.. ฝูงรถ “New Honda ADV 150” ราว 40 คัน จอดเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ ทีมงานมาแชลกำลังตรวจเช็ครถทุกคัน เพื่อรอออกเดินทางในเส้นทาง 400 กม. ข้างหน้า อยู่ในบริเวณที่พักอย่างสงบเสงี่ยม พร้อมสายตาของไบเกอร์น้อยใหญ่ ที่จับจ้องมายัง เอ.ที. ครอสโอเวอร์ดีไซน์โฉบเฉี่ยวเเหล่านี้อย่างไม่หยุดพัก..
ไม่ว่าจะเป็นหน้าตาที่ได้รับแรงบันดาลใจมาอย่างเต็มระบบจากรุ่นพี่ Honda XADV 750 โดดเด่นด้วยแฮนด์บาร์ทรงกว้างสไตล์ ADV และชิลด์บังลมหน้าทรงสูงที่มาพร้อมคุณสมบัติในการปรับระดับได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือ และโช้คอัพหลังซับแทงค์สีทองตัดขอบด้วยโลโก้สีแดงสะดุดตาจาก Showa.. เพียงเท่านี้ก็ทำเอาผมแทบอดรนทนไม่ไหวที่จะได้ขึ้นขับขี่ ออกผจญภัยไปพร้อมๆกัน..
พิษณุโลก-อุตรดิตถ์-แพร่
เสียงจุดระเบิดเครื่องยนต์ 150 ซีซี. eSP หัวฉีด PGM-Fi กระหึ่มขึ้นพร้อมกันแน่นลานจอดรถ ..คณะเดินทางเริ่มออกตัวสู่จุดสตาร์ทแรกภายในเมืองพิษณุโลกยามเช้าตรู่ ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบายของวันหยุดนักขัตฤกษ์ ชาวบ้านที่กำลังออกมาจับจ่ายตลาดยามเช้าเป็นต้องหยุดมอง กับขบวนรถ เอ.ที. ครอสโอเวอร์ขนาดใหญ่ ..นำโดย มร.ชิเกโตะ คิมูระ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด และคุณอารักษ์ พรประภา รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี. ฮอนด้า จำกัด ที่ให้เกียรติร่วมขับขี่เดินทางไปพร้อมๆกันบนเส้นทางตะลุยแดนเหนือครั้งนี้ด้วย..
ขบวนมุ่งน่าสู่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหารภายในเมืองพิษณุโลก เพื่อสักการะองค์พระพุทธชินราช พระพุทธรูปแห่งประวัติศาสตร์คู่บ้านคู่เมืองสยามมาแต่โบราณ ให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวกปลอดภัยจากอุบัติเหตุทั้งปวง และเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ผู้สักการะ รวมทั้งยังได้ชื่นชมความงามขององค์พระที่มีลักษณะสวยงามโดดเด่นไปจากพระพุทธรูปสุโขทัยทั้งปวง
จากนั้นเป็นจังหวะทองของการปลดปล่อยคันเร่ง “หมดปลอก” ออกถนนใหญ่มุ่งหน้า จ.อุตรดิตถ์-แพร่.. สายลมปะทะร่างกายอย่างเบาบางจากการลดแรงปะทะไปหนึ่งระดับผ่านชิลด์บังลมหน้าทรงสูง ความเร็วยืนพื้นในทริปครั้งนี้ก็ต้องบอกว่า “สบายๆ” ที่ราว 100 กม./ชม. …ไม่นานนักก็ถึงจุดแวะพักทักทายอนุสาวรีย์พระยาพิชัย อนุสรณ์สถานแห่งความซื่อสัตย์ ก่อนไปจบครึ่งทางที่วัดพระธาตุช่อแฮ จังหวัดแพร่ จุดหมายสุดท้ายของวัน..
แพร่-ลำปาง-เชียงใหม่
หลังจากเคลียร์ขี้ตาด้วยอากาศหนาวเย็นเป็นพิเศษ บรรยากาศยามเช้าของการเดินทางวันที่ 2 ค่อนข้างน่าตื่นเต้นกว่าครึ่งทางที่ผ่านมา ด้วยอุณหภูมิเย็นฉ่ำต้อนรับคณะนักบิดจากจังหวัดแพร่ที่ 12 องศาเซลเซียส เส้นทางของเราที่เหลือในวันนี้นั้น มีการหวดขึ้นเขา-เล่นโค้งได้อย่างสนุกสนาน..
ช่วงระหว่างแม่เมาะ ผ่านด่านขุนตาล ก่อนไปสักการะครูบาศรีวิชัย เป็นทางยาวให้เรากดคันเร่งได้อย่างไม่พัก.. โชคดีที่ได้ช่วงล่างของ Honda ADV 150 และมิติการควบคุมที่ถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน จึงทำให้เป็นการเดินทางยาวแบบหวดคันเร่งรอบเดียวที่ค่อนข้างสบาย ..จนบางครั้งเกือบลืมไปว่านี่คือรถคลาส 150 ซีซี. เท่านั้น..
แรงบิดที่ถูกปรับจูนขึ้นมามากกว่ารถตระกูล 150 ซีซี. ภายในค่าย ทำให้การกดคันเร่งขึ้นทางลาดชันนั้นสบายหายห่วง แม้จะไม่ได้มีพลังคอยเติมขึ้นเขาถึงขนาดรถที่ใช้ระบบเกียร์ธรรมดา แต่เจ้า ADV 150 นี้ก็เรียกความมั่นใจในช่วงทางลาดชันได้มากกว่ารถออโตเมติกทั่วไปในตลาดได้อย่างมากทีเดียว.. นอกจากการขึ้นเขาที่มีแรงบิดมาเติมได้ “ถึงมือ” แล้ว ช่วงขาลงยังได้ Engine Brake ในระดับที่ทำให้การคุมความเร็วทำได้อย่างสะดวกมากขึ้น “ควบคุมได้อย่างอยู่หมัด” จนตัวผมสามารถลงโค้งที่ความเร็ว 120 กม./ชม. (สุดรอบตัดความเร็ว) ได้เลยทีเดียว
แน่นอนว่าช่วงล่างนั้นเป็นอีกสิ่งที่ต้องขออนุญาตพูดถึง เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผมได้ทดสอบความเร็วและเข้าโค้งได้อย่างมั่นใจ.. ยอมรับว่าชั่วขณะแรกนั้นเผลอคิดไปว่าโช้คอัพหน้าเป็นแบบหัวกลับ เนื่องจากมีการซับแรงกระแทกไม่ให้เข้าสู่มือได้อย่างดิบดี แต่เมื่อก้มลงไปดูอีกทีก็พบว่าโช้คอัพเทเลสโคปิคคู่นี้ ทำหน้าที่ได้ดีเกินคาด และโช้คอัพหลังของ Showa ที่ให้มาจากโรงงานนั้น ต้องถือว่ามีการเซ็ตอัพมาอย่าง “กลางๆ” ให้พอใช้งานในทุกรูปแบบได้อย่างคล่องแคล่วพอสมควร
ถึงจุดหมาย “เชียงใหม่”
หลังจากได้หวดกัน “สุดทุกระบบ” ก็มาคูลดาวน์กันกับเส้นทางภายในเมืองเชียงใหม่ พร้อมความประทับใจที่ฝังอยู่ภายในหัวของผม ทั้งช่วงล่างอเนกประสงค์รองรับการใช้งานได้ครอบคลุม มิติการควบคุมรถที่ “กระชับ” รองรับการขับขี่ในลักษณะ ADV ได้ ทำให้การขยับร่างกายในการควบคุมรถเป็นได้อย่างลื่นไหล และฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกต่างๆก็ทำให้ New Honda ADV 150 เป็นรถที่สามารถขับขี่ในเมืองได้อย่างเฉิดฉายอีกด้วย
ทั้ง Socket ชาร์จไฟ หน้าจอ Full-Digital LCD ที่มีรายละเอียดบอกอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันแบบเรียลไทม์ และระบบเบรค ABS ที่ล้อหน้า ก็เพิ่มความปลอดภัยของการขับขี่ และความมั่นใจได้เต็มเปี่ยม
สิ้นสุดการเดินทางด้วยปาร์ตี้ “ลานนา ม่วนใจ๋” ให้ได้ผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ เพิ่มรอยยิ้ม และความสนุกสนานให้กับผู้ร่วมทริปด้วยการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นล้านนา และร่วมเล่นเกมชิงรางวัลกันอย่างชื่นมื่น ก่อนเดินทางกลับสู่กรุงเทพมหานครในวันถัดไป
[envira-gallery id=”12239″]
