Honda E-VO 2025

Honda E-VO สองล้อไฟฟ้าสไตล์คาเฟ่เรซเซอร์ ขายแล้วที่จีน

Honda E-VO สองล้อไฟฟ้าสไตล์คาเฟ่เรซเซอร์ ขายแล้วที่จีน

Honda E-VO

มีแนวโน้มที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ กับแวดวงรถไฟฟ้าพลังงานทางเลือก แต่สำหรับวงการมอเตอร์ไซค์นั้นค่อนข้างจะช้าหน่อยเมื่อเทียบกับรถยนต์ แต่ทางค่ายรถก็พยายามจะพัฒนาให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในเรื่องสไตล์และเรื่องของการใช้งาน แน่นอนว่าค่ายปีกนกผู้นำด้านยานยนต์ และผู้นำในโลกสองล้อล่าสุดก็ได้เปิดตัว Honda E-VO คาเฟ่เรซเซอร์ไฟฟ้ากับทาง Wuyan Honda ประเทศจีน พร้อมราคาจำหน่ายเร้า ๆ เริ่มต้นที่ราว ๆ 137,000 บาท (ราคาที่จีน)

Honda E-VO

ในด้านของการดีไซน์ออกแบบนั้นทำออกมาได้โดดเด่นและน่าจะตรงจริตผู้ใช้งานมากเลยทีเดียว โดยหลีกหนีความเป็นสกู๊ตเตอร์แบบที่นิยมทำกัน ออกมาในรูปแบบของคาเฟ่เรซเซอร์ที่ดูโดดเด่นมีสไตล์ไร้ซึ่งกาลเวลา

Honda E-VO

แปลกใหม่ด้วยชิลด์หน้าขนาดใหญ่เจาะช่องรองรับไฟหน้าทรงกลมและกล้องแดชแค็ม พร้อมไฟเลี้ยวบิลต์อินด้านหน้าขนาดเล็กด้านข้างไฟหน้า ไฟท้ายทรงครึ่งวงกลมแยกไฟเลี้ยวไปที่กันดีด กระจกปลายแฮนด์ทรงกลมเข้าคู่กับสไตล์ของรถ และล้อแบบ 4 ก้านคู่ดีไซน์สวย

Honda E-VO

ขุมพลังเป็นมอเตอร์ไฟฟ้าวางกลางตัวรถส่งกำลังสู่ล้อหลังด้วยระบบสายพาน ให้กำลัง 8 กิโลวัตต์ (ประมาณ 10 แรงม้า) แต่สามารถรีดกำลังสูงสุดเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ได้ที่ 15.8 กิโลวัตต์ (ประมาณ 21 แรงม้า) เคลมท็อปสปีดมาที่ 110 กม./ชม. สำหรับรุ่นแบตเตอรี่คู่ และ 120 กม./ชม.สำหรับรุ่นแบตเตอรี่ 3 ก้อน

มีแหล่งพลังงานจากแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนแรงดันไฟ 72 โวลต์ 56 แอมแปร์ชั่วโมงสำหรับรุ่นแบตเตอรี่คู่ ใช้งานได้ประมาณ 120 กม. ตามมาตรฐาน WMTC ใช้เวลาชาร์จ 1.5 ชั่วโมงเมื่อชาร์จไฟบ้านที่ 1.8 กิโลวัตต์ และ 1 ชั่วโมงสำหรับที่ชาร์จรถยนต์ขนาด 3.4 กิโลวัตต์

Honda E-VO
และสำหรับรุ่นแบตเตอรี่ 3 ก้อนมีแบตเตอรี่ขนาด 72 โวลต์ 84 แอมแปร์ชั่วโมง ใช้งานได้ประมาณ 170 กม. ตามมาตรฐาน WMTC ใช้เวลาชาร์จ 2.5 ชั่วโมงเมื่อชาร์จไฟบ้านที่ 1.8 กิโลวัตต์ และ 1.5 ชั่วโมงสำหรับที่ชาร์จรถยนต์ขนาด 3.4 กิโลวัตต์


โดยทั้งสองรุ่นหากชาร์จไฟบ้านที่ 1.8 กิโลวัตต์ 1 ชม. จะใช้งานเพิ่มได้อีก 50 กม.โดยประมาณ และหากชาร์จไฟสำหรับที่ชาร์จรถ EV 1 ชม. จะใช้งานได้เพิ่มอีก 80 กม. เลยทีเดียว


ในส่วนแชสซีของรถเลือกใช้เฟรมและสวิงอาร์มอลูมิเนียมฟอร์จน้ำหนักเบา ทำอโนไดซ์ด้านนอกเพิ่มความทนทานต่อการกัดกร่อน ระบบกันสะเทือนด้านหน้าเป็นโช้คหัวกลับด้านหลังเป็นโช้คก๊าซไนโตรเจนแบบโช้คเดี่ยวพร้อมซับแทงค์วางกลางตัวรถ ระบบเบรกจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนขนาดล้อและยางจะเป็น 110/70 – 16, และ 140/70 – 14 หน้าหลังตามลำดับ

Honda E-VO

มาถึงจุดเด่นอีกหนึ่งด้านของโมเดลนี้คือเทคโนโลยีที่ยัดมาให้เต็มแน่นจนไม่น่าเชื่อ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของระบบเบรก ABS ระบบแทรคชันคอนโทรล โหมดการขับขี่ 3 โหมด Eco, Normal และ Sport นอกจากนี้ยังมีระบบบูสต์เพิ่มความแรงชั่วคราวเพียงปลายนิ้วสัมผัส ระบบช่วยหยุดรถบนทางลาดชัน ระบบแจ้งเตือนแรงดันลมยาง (เฉพาะรุ่นแบตเตอรี่ 3 ก้อน) และเซ็นเซอร์สวิตช์ที่ขาตั้งเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

 

นอกจากนี้ Honda E-VO ยังมีฟีเจอร์มากมายไม่ว่าจะเป็นหน้าจอสี TFT ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว และหน้าจอสี TFT ที่ 2 ทรงกลมเหนือบริเวณฝาครอบแบตเตอรี่สำหรับแสดงผลข้อมูลเพิ่มเติม กล้องแดชแค็มด้านหน้า กล้องมองหลังที่จะทำงานแสดงภาพด้านหลังที่หน้าจอยามที่คุณเปิดไฟเลี้ยวช่วยเพิ่มความปลอดภัย (เฉพาะรุ่นแบตเตอรี่ 3 ก้อน) และระบบถอยหลัง
ยังมีปุ่มพิเศษสำหรับใช้งานร่วมกับกล้องแอ็กชันแคมจาก DJI ที่ประกับด้านซ้าย ตอบโจทย์สายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ ไม่ต้องยุ่งยากมากดบันทึกหรือหยุดที่ตัวกล้องอีกต่อไป ตลอดไปจนถึงช่องเก็บสมาร์ทโฟนพิเศษพร้อมพอร์ตชาร์จทั้งแบบ USB-A และ USB-C
เรียกได้ว่าล้ำจริง ๆ ไม่เหมือนใคร ซึ่งทั้งหมดนี้กลับมาในสนนราคาเริ่มต้นที่ราว 137,000 บาท (ราคาที่จีน) เท่านั้น และรุ่นท็อปที่ราคาราว ๆ 168,000 บาทเท่านั้น ที่ราคาได้ถูกขนาดนี้เพราะร่วมทุนกับทางจีนและได้รับมาตรการสนับสนุนจากทางรัฐบาลของจีน เพราะฉะนั้นแล้วถ้าโมเดลนี้จะขายไทยจริง ๆ ราคาต้องโดดไปจากเรตนี้อีกพอสมควรเลยทีเดียวครับ แต่จริง ๆ แล้วน่าใช้มากเลยนะเนี่ย

อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่