Honda X-Venture 2025 Round 2 ลาว – วังเวียง
กิจกรรมดี ๆ จากทาง Honda Bigbike ที่จัดให้กับลูกค้าผู้หลงรักการผจญภัย ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ โดยกิจกรรมนี้ถือเป็นครั้งที่ 2 ของปีแล้ว ซึ่งลูกทริปส่วนใหญ่จะมากับรถในตระกูลแอดเวนเจอร์อย่าง NX500, XL750 Transalp, X-ADV และ Africa Twin
สำหรับครั้งนี้ แทน ธรรมชาติจาก MTC รับหน้าที่ร่วมเดินทางไปเก็บเรื่องราวความน่าสนใจในทริปนี้มาฝากพี่ ๆ ยอมรับเลยว่าทริปนี้ตื่นเต้นมากแม้จะเคยไปลาวมาแล้ว แต่ทริปนี้ผมรับรองว่าประทับใจจริง ๆ
รถคู่ใจของผมในรอบนี้เป็น Honda XL750 Transalp และเป็นทริปที่ได้ใช้งานครบทุกรูปแบบ ด้วยเส้นทางที่หนักเอาเรื่อง ทำให้ตลอดการขี่ระยะทางร่วม 400 กิโลเมตร ไม่มีง่วง เพราะหลุมบ่อเยอะ แถมถนนก็พังเป็นช่วง ๆ งานนี้ถ้าช่วงล่างไม่ดีจริง ไม่รอดแน่นอน แต่ด้วยสมรรถนะของตัวรถ จึงช่วยเปลี่ยนความกังวลให้กลายเป็นความมั่นใจ ซึ่งทาง MTC เคยรีวิวไปแล้วลองไปหาอ่านได้เลย
DAY 1 หนองคาย – ไชยสมบูรณ์ – วังเวียง
ออกเดินทางข้ามด่านบริเวณสะพานมิตรภาพไทย – ลาวพร้อมกับผู้ร่วมทริปกว่า 30 คัน แต่การจัดการของทีมงาน Honda ยอดเยี่ยมดูแลอำนวยความสะดวกได้เป็นอย่างดี ใช้เวลาไม่นานก็ผ่านเข้าลาวได้แบบชิลล์ ๆ
ขบวนสองล้อฮอนด้าขับไปบนเส้นทางลัดเลาะตามลุ่มแม่น้ำโขง ผ่านตัวเมืองเวียงจันทน์ได้ไม่นานก็วิ่งออกมาสู่เส้นทางชนบท ถนนหนทางยังคงมีปัญหากับการจัดการเรื่องฝุ่นหินดินทราย แต่สำหรับผมคิดว่าจัดการได้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อน การใช้รถใช้ถนนยังคงต้องระมัดระวังชาวบ้านนิดหน่อย เพราะขับรถกันอินดี้ใช้ได้
จุดหมายแรกที่เราไปคือ ร้านอาหารริมโขงแวะทานข้าวเติมพลังกันก่อนจะลุยกันต่อยาว ๆ ด้วยการลัดเลาะริมโขงกันต่อ ไม่นานนักเราก็เริ่มเห็นภูเขามากมาย ทำให้รู้ได้ทันที่ว่าเราเริ่มได้เข้าเขตลาวเหนือเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ความรู้สึกของภูเขาต่างจริง ๆ สำหรับผมมองว่าเหมือนทางภาคใต้บ้านเรา สวยงามมาก เขาลูกเล็กใหญ่สลับกัน ขับกินลมชมวิวไปได้ไม่นาน ก็เริ่มต้องมาโฟกัสที่ถนนหนทาง ยิ่งใกล้วังเวียงเท่าไหร่ ถนนก็เริ่มที่จะทวีความโหดร้ายขึ้นเรื่อย ๆ เราเริ่มเจอกับถนนพังมีตั้งแต่ Lv.1-Lv.100 ในแบบที่ถ้าเผลอมีเหวอแน่นอน จนในที่สุดเราก็เดินทางมาถึงวังเวียง เมืองท่องเที่ยวชื่อดังทางตอนเหนือของประเทศลาว ถือว่าเจริญขึ้นมาก มีทั้งโรงแรม สถานที่ท่องเที่ยว และร้านอาหารมากขึ้น
โดยวันแรกนี้เราเข้าพักที่โรงแรมสุดพรีเมียม ระดับ 4 ดาว สำหรับวันนี้ก็ถือว่าโหดใช้ได้สำหรับเส้นทางช่วงสุดท้าย แต่ด้วยระบบช่วงล่าง สมรรถนะของตัวรถ XL750 Transalp ผมถือว่าช่วยให้การเดินทางครั้งนี้มั่นใจและปลอดภัยมาก กลายเป็นสามารถสนุกกับเส้นทางได้โดยไร้ความกังวล
DAY 2 Off-Road – น้ำตกแก่งยุย – บลูลากูน – ผาหนามไซ
สำหรับวันที่ 2 จุดหมายแรกของเราคือเส้นทาง Off – Road บริเวณเส้นทางธรรมชาติที่สวยงามในเมืองวังเวียง ข่าวดีคือ อากาศยามเช้าแจ่มใสมาก ทว่าก็มีข่าวร้ายด้วยคือ ฝนพึ่งหยุดตอนเช้ามืดหลังจากตกลงมาตลอดทั้งคืน แต่ไม่ว่ายังไงเราก็ต้องไปกันต่อ
วิ่งออกจากตัวเมืองเล็กน้อยตัดเข้าเส้นทางธรรมชาติหลังเขา ความสนุกก็เริ่มต้นขึ้นทันที “เละเป็นโจ๊ก” แต่ก็ไม่หวั่นบุกตะลุยกัน ภาพความสามัคคีของทีมงานและผู้ร่วมกิจกรรมช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคเป็นภาพที่สวยงามมาก
ผ่านเส้นทางโคลนชุดแรกแล้วต่อด้วยสะพานไม้หรรษา อายุน่าจะหลายปีแล้วไม้ผุร่องกว้าง แต่ทุกคนก็ผ่านได้แบบชิลล์ ๆ ช่วยกันไปด้วยกันไปได้ไกล ก่อนที่จะทะลุป่ามาถึง
น้ำตกแก่งยุ้ย ซึ่งเป็นน้ำตกสูงกว่า 30 เมตร ตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของเมืองวังเวียง การจะเข้าถึงน้ำตกต้องเดินไปตามลำธารห้วยยุยและลำน้ำลาว ผ่านน้ำตกหลายแห่งและน้ำตกขนาดเล็กที่เรียกว่าน้ำตกแกนหล้อน เดินขึ้นไปบอกเลยว่าเป็นวันที่ได้เหงื่อเยอะมากแต่คุ้มค่า พอขึ้นไปแล้วได้พบกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ทำเอาหายเหนื่อยไปเลย สวยงามอลังการมาก
พักผ่อนหย่อนใจกันสักประเดี๋ยวก่อนที่จะไปรับประทานอาหารกลางวันเติมพลังเพื่อไปลุยกันต่อในช่วงบ่าย จุดหมายในช่วงบ่ายคือเราจะเดินทางไปเล่นน้ำกันที่ บลูลากูน อีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมและไม่ควรพลาด ต้องขอบอกเลยว่าเป็นเส้นทางที่สวยงามมาก ๆ ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ สองข้างทางถูกล้อมไปด้วยภูเขาน้อยใหญ่สลับกัน สวยงามสุดสายตา ตัดกับทุ่งหญ้าสีเขียว สวยงามมาก ก่อนที่เราจะถึงจุดหมายและแวะเล่นน้ำกันที่ บลูลากูน 9 พักผ่อนหย่อนใจกันสุดพี่ ๆ ผู้ร่วมทริปสนุกกับการเล่นน้ำกันแบบลืมวัยไปเลย พักผ่อนกันจนหนำใจก็ไปต่อกับจุดหมายสุดท้ายไฮไลท์ของวังเวียง
“ผาหนามไซ“
ที่นี่คือจุดชมวิว 360 องศา ไฮไลท์คือเราสามารถถ่ายรูปกับมอเตอร์ไซค์คู่กับธงชาติลาวได้ แต่ความสนุกอยู่ที่เราต้องเดินขึ้นไประยะทางประมาณเกือบ 350 เมตร ที่บอกเลยว่าชันสุด ๆ แต่ขึ้นไปถึงแล้วคุ้มแน่นอน วิวขอบฟ้าสุดสายตาความเขียวขจีของธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์อยู่มาก ภูเขาที่ทอดตัวเรียงรายกันอยู่สวยงามจนไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงจริง ๆ
สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณทาง Honda Bigbike สำหรับโอกาสได้มาร่วมทริป Honda X-Venture 2025 Round 2 นี้ และนี่คือจุดแข็งของแบรนด์จริง ๆ กับกิจกรรมที่มีให้กับลูกค้าไม่ว่าจะรถเล็กรถใหญ่ กิจกรรมคำนึงถึงความพึงพอใจของลูกค้าเป็นหลัก โปรแกรมการดูแลต่าง ๆ ลูกค้าพูดเป็นเสียงเดียวกันเลยว่าดูแลดีมาก ๆ การขับขี่เดินทางก็ใช้ทีมงานมาร์แชลที่เก่งมาก ๆ ดีกรีไม่ธรรมดาระดับนักแข่งแถวหน้ากันทุกคน พร้อมกับทีมงานสำหรับกิจกรรมนี้ก็เป็นทาง ทรานส์เอเชีย เป็นผู้ดูแลตลอดทั้ง 3 วัน ผ่านทุกจุด ไม่มีติดขัด สำหรับราคาเข้าร่วมกิจกรรมนั้นก็ถือว่าเป็นราคาที่ทางฮอนด้าช่วยซัพพอร์ตไปเยอะ ถ้าไปเที่ยวเองก็อาจจะแพงกว่านี้ แถมยังไม่ได้รับการดูแล การอำนวยความสะดวกเท่ากับมากับฮอนด้าแน่นอน บอกเลยว่ามาเถอะครับ
นอกจากนี้แล้วตอนนี้ทาง Honda ก็ได้เปิดโครงการใหม่ All in Xperience ออลทุกค่าย อินทุกแพสชัน ลูกค้าจากค่ายอื่นก็มาร่วมได้ มาครับมาลุยไปพร้อมกัน สำหรับทริปนี้ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ฝากติดตามด้วยว่าทริปหน้าจะไปที่ไหนกันต่อ ลุย !!!
อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่
ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่