ใหม่หมดทั้งคัน “Suzuki V-Strom 800DE”

“พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่” คือทิศทางที่ “ซูซูกิ” กำลังเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง และการมาถึงของ Suzuki V-Strom 800DE คือการให้ความสำคัญกับตลาด “แอดเวนเจอร์-ทัวร์ริ่ง” ซึ่งมีขนาดใหญ่มากทั่วโลก แน่นอน Suzuki V-Strom 800DE ถูกพัฒนาใหม่หมด ทั้งเรื่อง “โครงสร้าง” และ” ขุมพลัง” เพื่อให้พร้อมสำหรับการสู้ศึกตลาดแอดเวนเจอร์มิดเดิลเวทปี 2023
รถรุ่นนี้มีจุดสนใจตรงไหนบ้าง? ไล่เรียงตามนี้!!

ขุมพลังใหม่ 2 สูบเรียง 776 ซีซี.
หลังจากใส่ไว้ในโมเดลสตรีทเน็กเก็ต GSX-8S ไปแล้ว.. ซูซูกิไม่ลืมนำคาแรคเตอร์ดีดเด้งของเครื่องยนต์ชักยาวเน้นรอบต้นบล็อกนี้มาใส่ไลน์อัพแอดเวนเจอร์ V-Strom 800 DE ทำให้มันสามารถบุกตะลุยออฟโรดได้ดีกว่า V-Strom 650 ด้วย
การสลัดเครื่อง V-Twin ออกไป (ใส่แค่ในชื่อ V-Strom) แล้วลงทุนวิจัย-พัฒนา เครื่อง 2 สูบเรียง 776 ซีซี. หม้อน้ำ …วางองศาข้อเหวี่ยง 270 องศา ให้ฟีลลิ่งและสมรรถนะใกล้เคียงกับเครื่อง V-Twin เดิม แต่ประหยัด วางเครื่องง่าย แถมเซอร์วิสก็ง่ายตามไปด้วย..

เครื่องใหม่ลูกนี้ ให้แรงม้าสูงสุด 83 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 78 นิวตันเมตรที่ช่วงรอบกลางๆ ทำให้เราพอทราบว่านี่จะเป็นรถที่มีคาแรคเตอร์ “ดีด” มากพอสมควรคันหนึ่งในตลาดมิดเดิลเวท ADV ..(อยู่ตรงกลางระหว่าง 72hp ของ Tenere700 และ 92hp ของ XL750 Transalp) แม้จะเสียเปรียบเรื่องน้ำหนักกว่า 230 กก.(รวมของเหลว) แลกกับถังน้ำมันความจุ 20 ลิตร มานั่นเอง

โครงสร้างใหม่ ใส่ใจออฟโรด
ชิ้นงานหลักของโครงสร้างคือเมนเฟรมเหล็กถักแบบเดียวกับ GSX-8S.. แต่ใช้ซับเฟรมแยกกันคนละชุด เชื่อมต่อระบบช่วงล่างด้วยสวิงอาร์มอลูมิเนียมอัลลอยน้ำหนักเบา โช้คอัพหลังเดี่ยว Link-Type ปรับระดับพรีโหลด และคอมเพรสชันได้จาก Showa มาช่วยซับแรงกระแทกด้านหลัง ทำงานร่วมกับ คู่โช้คหน้าหัวกลับ “ปรับระดับได้เต็มระบบ” พร้อมระยะยุบกว่า 220 มม.

Suzuki V-Strom 800DE ยังให้ชุดล้อซี่ลวดขนาด 21 นิ้ว ด้านหน้า และ 17 นิ้ว ด้านหลังแบบมียางใน เป็นพื้นฐานจากโรงงาน แสดงให้เห็นได้ทันทีว่าเจ้าคันนี้ พร้อมลุยทางดินมากกว่ารุ่น 650 อยู่พอตัว

ระบบเบรกสำหรับทางฝุ่น
อีกจุดที่แตกต่างจากรุ่น GSX-8S คือระบบเบรก ที่แม้จะเป็นปั๊มจาก Nissin เหมือนกัน แต่สำหรับทางฝุ่นแล้ว V-Strom 800DE ต้องปรับคาลิเปอร์หน้าเป็น Axial Mount ถึงจะตรงรุ่น พร้อมดิสก์เบรกคู่หน้าขนาด 310 มม. และดิสก์เดี่ยวด้านหลังขนาด 260 มม. มี ABS Dual-Channel เป็นพื้นฐานแต่เจ้า 800DE มีความสามารถ “ปรับโหมด ABS ได้” 2 โหมด หรือจะเลือก “ปิด ABS หลังได้” ให้ทำงานตอบโจทย์ผู้ขับขี่มากที่สุดสำหรับสถานการณ์ต่างๆ

อิเล็กทรอนิกส์
“SUZUKI INTELLIGENT RIDE SYSTEM (S.I.R.S)” ศูนย์กลางการควบคุมระบบอิเล็กทรอนิกส์ของ V-Strom 800 DE ที่มีระบบช่วยเหลือเข้ามาอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขับขี่มากมาย ทั้ง โหมดการขับขี่ Suzuki Drive Mode Selector (SDMS) 3 โหมด Suzuki Traction Control System (STSC) 4 ระดับ ซึ่งมีโหมดพิเศษอย่างโหมดแทรคชั่น G (Gravel) mode รวมอยู่ด้วย ระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire ระบบ Bi-directional Quick Shifter ระบบ Suzuki Easy Start และระบบ Low RPM Assist ที่จะช่วยลดอาการ “สะอึก” เมื่อเดินรอบเครื่องยนต์ต่ำ

ฟังก์ชัน
เริ่มจากทีเด็ดตรง “ถังน้ำมัน” ความจุ 20 ลิตร แต่บอดี้เพรียวบาง ชิลด์บังลมหน้าปรับระดับได้ 3 ระดับ(ขันน็อต) ระบบไฟส่องสว่าง Full-LED กันแครงค์เครื่องด้านล่าง(พลาสติก) เรือนไมล์ TFT ขนาด 5 นิ้ว ปรับโหมดแสดงผลกลางวัน-กลางคืนอัตโนมัติ พร้อมปุ่มควบคุมบริเวณประกับแฮนด์ให้สั่งการตั้งค่าระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายแค่ปลายนิ้วสัมผัส

สำหรับรุ่นท็อปที่มีรหัส Adventure ต่อท้าย จะได้อัพเกรดอุปกรณ์นิดหน่อย โดยได้เฟรมกันล้มด้านข้าง การ์ดกันแครงค์อลูมิเนียมด้านล่าง และชุดกล่องสัมภาระด้านข้าง.. หรือจะคัสตอมอุปกรณ์เสริมต่างๆก็ได้ตามที่ไลน์อัพของแต่งจากซูซูกิมีให้
สุดท้ายก็ได้แต่ลุ้นราคาว่า “ถ้าขายไทย” จะราคาเท่าไร เพราะหากคาดการณ์เวลาเปิดตัวเมืองนอกกับเวลาเปิดตัวในไทยแล้ว น่าจะพอมีเวลาให้เก็บเงินกันราว 2 ปี.. แถมคู่แข่งเยอะแบบนี้พี่ตั้งราคาโดดมากไม่ได้แน่ๆ ..ใครรอไหวก็เริ่มหยอดกระปุกวันนี้เลย!