Hanway VBOB 250V & Nevada250v ครุยเซอร์ สูบ V 250 ซีซี.

รถจักรยานยนต์ Hanway เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ดังจากประเทศจีนที่มาตั้งโรงงานประกอบรถในไทย แล้วประกาศความ “ชัดเจน” ในการ “เดินหน้า” รุกตลาด รถจักรยานยนต์บ้านเราอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายและศูนย์บริการ รวมถึงการนำรถรุ่นใหม่ๆที่ “น่าสนใจ” มาวางตลาด โดยเฉพาะสไตล์ “ครุยเซอร์” มาดเฉียบ 2 รุ่นล่าสุด อย่าง Hanway VBOB 250Vและ Nevada250V ซึ่งทางโรงงาน Hanway ได้ส่งมาให้เราทดสอบและทำการรีวิว…และนี่สิ่งที่เราค้นพบจากสุดหล่อทั้งคู่!!

หัวใจเดียวกัน V-Twin 250 ซีซี. หัวฉีด

ว่ากันด้วย “พลังขับเคลื่อน” VBOB 250V และ Nevada250V ใช้เครื่องยนต์บล็อคเดียวกัน คือแบบ V-Twin พิกัด 250 ซีซี. ระบบจ่ายเชื้อเพลิงหัวฉีด ระบายความร้อนด้วยอากาศ …ให้อัตราทดขั้นสุดท้ายมาเป็นเกียร์ 5 สปีด …คาแรคเตอร์เครื่องยนต์อยู่ในคอนเซ็พท์ “ลูกเล็ก 49 มม. X ชักยาว 66 มม.” เน้นรอบต่ำและกลาง ซึ่งจากการทดสอบ ช่วงที่ดีสุดคือ 3,000-7,000 รอบ/นาที ให้เสียงเครื่องที่ “อิ่ม” ในแบบสูบวีเป็นเอกลักษณ์

ช่วงเกียร์ 1-2-3 มีความชิดพอสมควร…ส่วนในเกียร์ 4 และ 5 นั้นเป็นเกียร์โอเวอร์ไดรฟ์ โดย “ความเร็วปลาย” ที่ทำได้ก็อยู่ช่วง 125-127 กม./ชม. ซึ่งเรามองว่าด้วยสไตล์รถแบบนี้ ก็เหมาะสมแล้วกับการเอาไว้ใช้เดินทางไกล ส่วนเรื่องการขับขี่ในเมือง รถจักรยานยนต์คลาส 250 ซีซี. แบบนี้แหละคือปริมาตรที่น่าคบหามากที่สุด.. เพราะจากการทดลองขี่ในกรุงเทพฯ เราพบว่ามันกะทัดรัดและสามารถใช้ “ทำงาน” ได้ และมีคล่องตัวไม่เป็นภาระให้ผู้ขับขี่เลย
VBOB ขับสายพาน สไตล์แบบอเมริกัน FAT BOB

ข้อแตกต่างที่ชัดเจน คือ “สไตล์” ของรถ เริ่มจาก Hanway VBOB 250V ขับเคลื่อนด้วย “สายพาน” ที่ทดสอบแล้วพบว่า มีความนิ่มนวล ต่อกำลังได้สมูท ขณะเดียวกัน ภาพลักษณ์ของมันก็มีความดิบและเท่ด้วยมิติแบบ BOBBER กล่าวคือ ถังน้ำมัน(ขนาด 20 ลิตร) ออกแบบให้มีเหลี่ยมมุม พร้อมชุดเรือนไมล์ดิจิตอลไมล์วางบนถังแบบบิลด์อินฯ นอกจากนี้ยังมี USB ชาร์จเจอร์มาให้ตรงซอกคอหน้า รวมถึงระบบไฟส่องสว่าง ไฟหน้า ไฟท้าย ที่เป็น LED ยกเซ็ท

ส่วนการคอนโทรล นักขี่ต้องยื่นมือจับ “แฮนด์แดร๊ก” เท่ๆด้วยลักษณะบาร์กว้างและตรง โดยใช้ตุ๊กตาแฮนด์ขนาดใหญ่ส่งขึ้นมาจากแผงคอบน …นอกจากนี้ VBOB ยังเป็นรถ“ท้ายสั้น” โดยธรรมชาติ เนื่องจากมีการแยกบังโคลนและกันดีดอย่างอิสระ ทั้งดูเฉียบและสะดวกต่อการใช้งาน ท่อไอเสียเป็นลักษณะปลายกลม ตัดปลายสั้น ส่วน “เบาะนั่ง” แยก 2 ตอน สไตล์เบาะคลาสสิคแบบอานม้า ระดับความสูงเบาะ 715 มม. ถือว่าเตี้ยและมันให้ Riding Position ท่านั่งแบบ “บ๊อบเบอร์” ที่แตกต่างจากรุ่น Nevada อย่างชัดเจน

Hanway VBOB 250V และใช้ระบบเบรกดิสค์เบรกหน้า-หลัง ที่เราทดสอบแล้วก็ทำงานได้อย่างมั่นใจ และใช้ล้อแม๊กซ์หน้า-หลัง ขอบเท่ากันคือ 16 นิ้ว รัดด้วยยาง Tubeless หน้า 120/80-16 ,หลัง 14/70-16 พร้อมกับน้ำหนักตัว 179 กก. ที่ขาดไม่ได้คือ “ระบบช่วงล่าง” ที่ตลอดการทดสอบ เราพบว่า ทำงานได้อย่างนุ่มนวลเกินคาด โดยเป็นคู่โช้คหน้าหัวกลับและโช้คหลังคู่คอยล์สปริงที่เซ็ทอัพความหนึบจากโรงงานมาได้ลงตัว

Nevada 250V ขับโซ่ สุดเก๋าฉบับ “ช็อปเปอร์”

สำหรับรุ่น Hanway Nevada 250V ชูคอนเซ็พท์ “ช็อปเปอร์” ขับเคลื่อนด้วย “โซ่” พร้อม “ท่านั่ง” ในแบบที่ชาวช็อปเปอร์ตกหลุมรัก.. พักเท้ายื่นมาด้านหน้า หลังงุ้มงอเล็กน้อย และช่วงแขนที่ยื่นยาวออกมาคุมชุดแฮนด์ ซึ่งวางตำแหน่งแฮนบาร์ทรงกว้างเยื้องยื่นมาด้านหลังเล็กน้อย นอกจากจะทำให้ได้ท่านั่งสไตล์จิ๊กโก๋ 60’s มาแล้ว ยังช่วยในการควบคุมรถเมื่อต้องขับขี่ด้วยความเร็วทะลุ 100 กม./ชม. ได้อย่างดีเยี่ยม

ขณะที่เรือนไมล์กึ่งดิจิตอลที่ให้มาหน้าตาทันสมัยถูกติดตั้งบริเวณกึ่งกลางแฮนเดิลบาร์ บอกข้อมูลครบถ้วน และต้องขอชื่นชมในเรื่องขององศาการมองที่พอดิบพอดีกับนักทดสอบ(ส่วนสูง 173 ซม.) รวมทั้งยังมี USB ชาร์จเจอร์ติดตั้งมาให้เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับยูซเซอร์

ส่วนเบาะนั่งแบบ 2 ตอนบุหนังสีน้ำตาลตัดกับตัวถังสีแดงได้อย่างลงตัว ที่สำคัญมันมี “ความนุ่ม” กำลังดี พร้อมความสูง 715 มม. เมื่อได้ขี่ทดสอบกว่า 150 กม. ครั้งนี้ ทำให้รู้ว่า การใช้งานโดยทั่วๆไปนั้น Nevada 250V น่าจะตอบสนองกับท่านั่งใช้งานในชีวิตประจำวันได้ดีทีเดียว

นอกจากนี้ Hanway Nevada 250V ได้คงภาพความ “คลาสสิค” ไว้อย่างเหนียวแน่นด้วยการออกแบบขององค์ประกอบต่างๆ โคมไฟหน้า ไฟหลักใช้หลอดไส้และมีชุดหลอด LED เป็นไฟหรี่ไว้ให้รอบๆอย่างสวยงาม ขณะที่ถังน้ำมันทรงหยดน้ำตีแบนสไตล์อเมริกันครุยเซอร์ ความจุมากถึง 20 ลิตร และยังมีท่อไอเสียแบบ 2 ออก 2 ที่ไล่เรียงออกมาด้านข้าง…ซึ่งตลอดเวลาที่ทดสอบมันให้สุ้มเสียงค่อนข้างเร้าใจไม่เบา… ระบบเบรกดิสค์หน้า-หลัง ส่วนวงล้อให้มาแบบคลาสสิค ล้อหน้าขอบ 17 นิ้ว ยาง 100/80-17 ล้อหลังขอบ 16 นิ้ว ยาง 140/70-16 เป็นยางแบบ Tubeless เช่นเดียวกัน ส่วนน้ำหนักตัว Nevada อยู่ที่ 173 กก. ที่จัดว่าเบา ขี่ง่าย เหมาะสรีระคนเอเชียทีเดียว…

ราคา 109,000 และ 99,000
Hanway VBOB 250V เปิดราคามาที่ 109,000 บาท ส่วน Hanway Nevada250v เปิดราคาที่ 99,000 บาท ซึ่งหลังจากทำการทดสอบจนได้ข้อมูลครบแล้ว เราอยากบอกว่า นี่เป็น “ทางเลือกที่น่าสนใจ” มากๆ สำหรับคนที่ชอบความแตกต่างในภาพลักษณ์ครุยเซอร์ที่ใช้เครื่องยนต์ V-Twin พิกัด 250 ซีซี. ฟังก์ชั่นครบครัน สมรรถนะสมตัว ในราคาที่เข้าถึงได้ง่าย…แถมสายคัสตอมก็เอาไปเล่นต่อได้หล่อๆอีกด้วย…
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/hanwayclubthailand/

