Yamaha R3 2025 ปรับโฉมใหม่ แอโรดียิ่งขึ้น

Yamaha R3 2025 ปรับโฉมใหม่ แอโรดียิ่งขึ้น

2025 Yamaha R3         

 Yamaha R3 2025 เปิดตัวมาพร้อมกับพี่ใหญ่อย่าง R9 แบบวันเดียวกันเลย และมาพร้อมกับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ ที่ทำให้บางคนถึงกับต้องร้องว้าว มันช่างหล่อเท่โดนใจเสียจริง ๆ จนเรียกได้ว่าแย่งซีนรุ่นพี่เลยก็ว่าได้ แต่ที่สำคัญคือไม่ใช่แค่เปลี่ยนโฉมภายนอกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังมีการใส่เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพิ่มเติมเข้ามาอีกด้วย 

Yamaha R3 2025

 ดีไซน์ของ R3 โมเดลใหม่นี้ยังคงมีดีเอ็นเอของ R-Series ยุคใหม่อยู่ แต่ถือได้ว่าออกแบบมาได้โดดเด่นมาก ๆ โดยเฉพาะด้านหน้าของตัวรถ ซึ่งเด่นด้วยท่อแอร์ดักต์แบบเดียวกับ M1 ขนาบข้างด้วยไฟเดย์ไทม์รันนิ่งไลท์ บวกกับวิงก์เล็ตที่เป็นส่วนนึงของแฟริ่งไปเลย ซึ่งออกแบบมาตามหลักแอโรไดนามิก 

นอกจากนี้ตัวรถยังมีดีไซน์ที่ปราดเปรียวยิ่งขึ้นจากการมีแฟริ่งด้านข้างที่เพรียวยิ่งกว่าเดิม ช่วยให้ขาถึงพื้นได้ง่ายยิ่งขึ้น และแน่นอนว่าขับขี่ได้สบายมากขึ้นด้วย 

เครื่องยนต์หลัก ๆ ยังคงเป็นเครื่อง 2 สูบเรียงขนาด 321 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ เคลมกำลังแรงม้าสูงสุดมาที่ 10,750 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุดที่ 29.5 นิวตันเมตรที่ 9,000 ต่อนาที ซึ่งผ่านมาตรฐาน Euro5+ แล้ว ใช้น้ำมันจากถังขนาด 14 ลิตร  

และที่สำคัญคือการมีระบบแอสซิสต์และสลิปเปอร์คลัตช์ใหม่ ที่ไม่เพียงแต่จะช่วยลดเอ็นจิ้นเบรกเวลาเชนจ์เกียร์ลงเร็ว ๆ ก่อนจะเข้าโค้ง ช่วยลดอาการล้อหลังล็อกได้ ยังจะช่วยเรื่องของความเบาของมือคลัตช์ได้มากถึง 17% เมื่อเทียบกับคลัตช์ปกติ นอกจากนี้ยังปรับให้ก้านคลัตช์นั้นเข้าใกล้แฮนด์ขึ้นกว่าเดิมอีก 5 มม. ช่วยให้คนมือเล็กก็สามารถกำคลัตช์ได้ง่ายขึ้น  

Yamaha R3 2025

ช่วงล่างยังใช้เฟรมไดมอนด์เฟรมเช่นเดิม ด้านหน้ามีโช้คหัวกลับขนาด 37 มม. ด้านหลังจะเป็นโช้คเดี่ยวร่วมกับสวิงอาร์ม ระบบเบรกด้านหน้าจะเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 298 มม. ด้านหลังเป็นดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 220 มม. ขณะที่ล้อจะเป็นล้ออลูมิเนียมอัลลอยรัดด้วยยางขนาด 110/70 R17 และ 140/70 R17 หน้าหลังตามลำดับ 

Yamaha R3 2025

มาถึงตรงนี้แล้วขอเข้าเรื่องเทคโนโลยีกันบ้าง นอกจากเรื่องของระบบเบรก ABS แล้วตัวรถยังมีหน้าจอ LCD ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ สามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อรับการแจ้งเตือนผ่านหน้าจอเรือนไมล์ได้ และช่องจ่ายไฟแบบ USB-A มาให้ใช้งานกันด้วย 

เรื่องการจำหน่ายบ้านเราบอกเลยว่ามีจำหน่ายในไทยแน่นอน แต่คงต้องอดใจรอกันสักนิด ราคาเองก็น่าจะไม่ปรับขึ้นมามากนัก งานนี้บอกเลยคุ้มค่าแน่นอนกับสปอร์ตไบค์ไซส์เล็กคันนี้ 

 อ่านทดสอบรีวิวรุ่นอื่น ๆ คลิกที่นี่

ติดตามข่าวสารทางแฟนเพจได้ที่นี่