- 1.เครื่องยนต์
เครื่องใช้พื้นฐาน YZ450Fที่แนบมาด้วยรหัส GYTR คือประสิทธิภาพสูงสุดในสนามแข่ง ชิ้นงานปรับแต่งมาจากทั้งอะไหล่ OEMและชิ้นส่วนที่ได้รับการดัดแปลงมากมาย(พร้อมการเดินสายไวร์ริ่งเองเพื่อความทนทานและง่ายต่อการประกอบ/ถอดประกอบตามปกติของรถแข่งที่ต้อง “รื้อ” กันทุกสนาม) อ่อ ยังมีเรื่องน๊อตเครื่องยนต์จัดเป็นไททาเนียมทั้งชุด ส่วนกลเม็ดด้านพละกำลังที่เผยมาบ้างได้แก่เพลาข้อเหวี่ยงแบบบาลานซ์ของ Crank Works Inc. (CWI) ตามด้วยการจุดระเบิดจากVortex พร้อมการปรับจูน/การทำแมปปิ้งเฉพาะตัว โดย Ferrandi sต้องการกำลังจากตัวแข่ง 450 ที่แข็งแกร่ง ให้แรงบิดย่านมิดเรนจ์ถึงปลายที่ยอดเยี่ยมสำหรับการขี่โมโตครอสโดยเครื่องยนต์ต้องตอบสนองได้ฉมังพอที่ขึ้นเนินจั๊มแล้วต่อด้วย “รูดระนาด” โดยที่ยังรักษา “เวลาต่อรอบ” ได้ดี
- 2. ชุดคลัทช์
เลือกข้างที่ Rekluse Core แบบแมนนวล ตามด้วยชิ้นส่วนเสริมสมรรถนะของ Wössner, ชุดจ่ายไฟ Twin Air Power, เชื้อเพลิง VP Racing เสริมสมรรถนะความหนืดและหนึบด้วยน้ำมันหล่อลื่น Yamalube 10w-40
- 3. ระบบไอเสีย
ใช้บริการ FMF ซึ่ง “เล่นใหญ่” กับระบบไอเสียพิเศษแบบ “คัสตอม”…แน่นอนนี่ไม่ใช่อุปกรณ์ที่มีจำหน่ายทั่วไป และงานแบบนี้ ตัวนักบิดมีตัวเลือกการปรับแต่งได้ เช่น จะเลือกใช้การ์ดท่อด้านในหรือไม่ก็ได้ (Ferrandis ถอดการ์ดออกในการแข่งโมโตครอส) แต่ใช้ในการแข่งซูเปอร์ครอส สำหรับท่อใบนี้ใช้โครงสร้างไททาเนียมพร้อมปลายท่อคาร์บอนไฟเบอร์ ด้วยเหตุผลความแข็งแรงและช่วยลดน้ำหนัก นอกจากนี้ยังมีสปริงคู่ยึดที่ส่วนหัวด้านซ้ายเพื่อความทนทาน
- 4. ช่วงล่าง
ระบบกันสะเทือนของโรงงาน KYB นั้นเหมาะมากกับรถอย่าง YZ450F อย่างไรก็ตาม Ferrandis มีตัวเลือกสำหรับส่วนประกอบชุดช่วงล่างแบบ 250F ที่เอามาปรับใช้สลับไปมาระหว่างช่วงที่แข่งซูเปอร์ครอสกับโมโตครอสระบบกันสะเทือน KYB ชุดนี้ คู่หน้าเป็นโช้คลม KYB PSF1 แกน 48 มม. พร้อมการปรับการรีบาวด์ทั้ง Hi-Low พร้อมความสามารถในการตอบสนองที่ความเร็วต่ำและช่วงปั้นความเร็วปลาย ทีเด็ดอีกอย่างคือติดตั้งสปริงไททาเนียม RCS ที่นอกจากแกร่งสุดๆแล้วก็ยังให้ค่าการซับแรงที่เหมาะกับความโหดของ AMASupercross ขาดไม่ได้คือการ์ดโช้คหน้า ขนาดยาว 145 มม. ปกป้องสิ่งสกปรกเข้าไป “พัง” ซีลโช้คได้มั่นใจ
- 5.การทรงตัว
เนื่องจาก YZ450F เวอร์ชั่นล่าสุดเดิมๆเป็นตัวแข่งที่เฉียบขาดอยู่แล้ว ทีมงานจึงไม่หลงทางในการผลักมันไปทิศทางใดทางหนึ่งมากเกินไป จุดนี้คือ “การทรงตัว” ต้องนิ่งแบบเดียวกับรถที่ออกมาจากโรงงาน โดยมีความชอบเฉพาะตัวของนักแข่งเข้ามาเป็นโจทย์ในการเซ็ทให้เหมาะสม โดย Ferrandis เลือกใช้ชุดแผงคอบนจาก Neken 22 มม. (ออฟเซ็ทมาตรฐาน) ซึ่งแข็งแรงกว่าชิ้นงานเดิมติดรถพร้อมฐานยึดที่มั่นคง นอกจากนี้เขายังถนัดกับ “ระยะฐานล้อที่ยาวขึ้น”
- 6.ระบบขับเคลื่อน
Ferrandisเลือกโซ่ 116-link และชุดสเตอร์Vortex ขนาด 13/48 สำหรับงานแข่งโมโตครอส (ส่วนสเตอร์หลัง 50 ฟันมีไว้ใช้ตอนที่หวดซูเปอร์ครอส ซึ่งสนามสั้นกว่า) น๊อตเครื่องยนต์ทั้งหมดเป็นไททาเนียม แต่แกนเพลาและเดือยสวิงอาร์มเป็นของOEM(เหล็ก)
- 7.มิติ
Alex Campbel lบอกว่า Ferrandis ชอบให้ติดแผ่น number plate ที่ด้านซ้ายเพราะมันไม่เกะกะ เมื่อเขาต้องเคลื่อนที่ไปรอบๆรถ จุดนี้มีข้อสังเกตว่า ซับเฟรมอยู่ต่ำลงไป 5 มม. ซึ่งทำให้บังโคลนหลังไปเสียดสียางหลัง Dunlop 120/90-19 อยู่บ้าง ส่วนที่พักเท้า footpeg sแบบสองรางช่วยจัดการกับโคลนได้ดีกว่า ยืนคอนโทรลรถง่ายไม่ลื่น กันกระแทกเบาะนั่งอยู่ห่างจากด้านหลัง 315 มม. ทุกครั้ง อุปกรณ์เจาะรูของ Works Connection อยู่ที่ 145 มม. บนการ์ดตะเกียบ ดังนั้นจึงลดลงทั้งหมดประมาณ 185 มม. จากตำแหน่งที่แหวนล็อควางตรงท่อโช้คส่วนบน
- 8.ระบบเบรก
เบรกเป็นอีกหนึ่งออปชั่นที่เป็นความถนัด “เฉพาะตัว” ซึ่ง Ferrandis เจาะจงใช้ดิสก์หน้าคาลิเปอร์ลูกสูบคู่ขนาด 27 มม. และ 30 มม.Nissin จับบนจานดิสก์โรเตอร์ขนาด 270 มม. โดยแม่ปั๊มเบรกหน้า Nissin ได้รับการปรับแต่งมาเพื่อตอบสนองความรู้สึกที่ดีในการสั่งชะลอความเร็ว สั่งการผ่านสายเบรก Core Moto ทั้งหน้า-หลัง ขณะที่คาลิเปอร์หลังเป็นแบบมาตรฐาน จับจานดิสก์โรเตอร์OE ส่วนแม่ปั๊มเบรกหลัง Yamaha OW เสริมการใช้งานด้วยแป้นเบรกหลังที่สร้างขึ้นเอง
- 9.ล้อและยาง
เริ่มจากดุม Kite พร้อมขอบล้อ Excel สีน้ำเงิน ซี่ล้อและหมุดของ Yamaha OW ขณะที่ยาง Dunlop ใกล้เคียงกับรูปแบบของรุ่น Geomax MX3S มากที่สุด (ซึ่งอาจจะออกมาวางขายเร็วๆนี้ด้วย) ขนาดยางหน้า 80/100-21 และหลัง 120/90-19
- 10.การควบคุม
ชุดแฮนด์ พร้อมปลอกProTaperEvo Henry/Reed-bend โดยตัดปลายแฮนด์ด้านขวาออก 5 มม. เพื่อความรู้สึกที่สมูทเข้ากับปะกับเร่งอลูมิเนียม G2 ได้อย่างกลมกล่อม ขณะที่ มือเบรกมือคลัทช์ ใช้บริการ ARC ที่พิสูจน์มาจากนักบิดมือโปรหลายคนต่อหลายคนว่าของเขาดีจริง!!