1.Yamaha WR450F
…WR450F ของ Yamaha มีพื้นฐานมาจาก Motocross รุ่นเรือธงในปี 2020–2022 อย่าง YZ450F แต่ได้เพิ่มคุณสมบัติที่เป็นเอกลักษณ์ของ WR เช่น หน้าจอมัลติฟังก์ชันและไฟหน้า ส่วนเครื่องยนต์ก็เซ็ตติ้งมาให้เหมาะสำหรับการขี่เทรลและเอ็นดูโร่ ภายใต้พื้นฐาน สูบเดี่ยว 450 ซีซี 4 จังหวะ DOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว ระบบจ่ายเชื้อเพลิงใช้ปีกผีเสื้อขนาด 44 มม. ให้กำลังสูงสุด 48.9 แรงม้า ที่ 9,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 31.8 ปอนด์-ฟุต ที่ 7,200 รอบต่อนาที เครื่องยนต์ WR450F ได้ชื่อว่าเดินเรียบและมีการตอบสนองของคันเร่งที่ดี มาพร้อมเกียร์ 5 สปีดที่ชดเชยด้วยอัตราทดกว้าง(กว่ารถโมโตครอส)ตามสไตล์เอ็นดูโร่ อีกหนึ่งจุดสังเกตคือ Yamaha WR450F เลือกใช้ล้อหลังขนาด 18 นิ้ว ซึ่งแตกต่างจากรถสูตรโมโตครอสYZ450F ที่ใช้ล้อหลังขนาด 19 นิ้ว ยามาฮ่าเผยว่าล้อขนาด 18 นิ้วของ WR450F เวิร์คสำหรับการขับขี่สไตล์เอนดูโร่อยู่แล้ว
2.Honda CRF450X
CRF450X เป็นหนึ่งในมอเตอร์ไซค์ “ยอดนิยม” ในอเมริกา เนื่องจากใช้บนท้องถนนได้อย่างถูกกฎหมายทั้ง 50 รัฐ แถมยังคุณสมบัติดีๆสำหรับสายเอ็นดูโร่ครบถ้วน
รถคันนี้ได้แรงบันดาลใจจาก CRF450Rร ถสูตรพันธุ์ดุของแบรนด์เวอร์ชันก่อนนี้ เครื่องยนต์ 450 ซีซี 4จังหวะ SOHC ระบายความร้อนด้วยของเหลว ระบบจ่ายเชื้อเพลิง PGM-Fi พร้อมเซ็ตติ้ง ECU ให้รองรับเกียร์ 6 สปีด ที่ดีไซน์ช่วงเกียร์ด้วยอัตราส่วนกว้าง แถมล้อหลังเลือกใช้ขนาด 18 นิ้ว โซ่แบบซีล ถังน้ำมันขนาด 7.5 ลิตร การ์ดกระแทกท้องรถ การ์ดแฮนด์ ขาตั้งข้าง …ในด้านโครงสร้างนั้น Honda เผยว่าเฟรมอลูมิเนียมคู่ของ CRF450X กว้างกว่ามอเตอร์ไซค์วิบากในคลาสเดียวกันเพื่อให้พอดีกับการใช้เครื่องยนต์เกียร์ 6 สปีดที่ใหญ่กว่านั่นเอง
3.KTM 450 XCF-W
2023 KTM 450 XC FW แอบให้ฟีลย้อนยุค 90 ด้วยกราฟิกและโทนสี อย่างไรก็ตามโมเดลใหม่รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อเน้นการแข่งขันอย่างเต็มเหนี่ยว ไม่ว่าจะเป็นแมพปิ้งที่เน้นความดุดันมากขึ้นพร้อมๆกับลดข้อจำกัดให้น้อยลง
โครงสร้างประกอบด้วยเมนเฟรมโครโมลีแบบเปลคู่พร้อมระบบกันสะเทือนหน้า WP Xplor open-cartridge coil-spring ขนาดแกน 48 มม. ระยะยุบโช้คหน้า 11.8 นิ้ว(300 มม.) โช้คหลังเป็น WP Xplorพร้อม PDS (Progressive Damping System) ช่วงยุบ 12.2 นิ้ว(309 มม.) ปรับค่าได้เต็มที่ทั้งหน้า-หลัง
ขุมพลังจากเครื่องยนต์ 4 จังหวะ SOHC 450ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว มีเกียร์ให้สับ 6 สปีด โดยเป็นช่วงเกียร์กว้างแบบเดียวกับรถเอ็นดูโร่ทั้งหลาย พละกำลังสูงสุดที่ 48.3 แรงม้าแรงบิด 31.9 ปอนด์-ฟุต ระบบหัวฉีด Keihin EFI ปีกผีเสื้อขนาด 42 มม. พร้อมแมพปิ้ง2 ทางเลือก คือแบบมาตรฐานและแบบดุดัน สั่งการได้ด้วยสวิตช์ที่แฮนด์บาร์ ซึ่งสามารถเปิดใช้ระบบควบคุมการยึดเกาะถนน (TC) และระบบควบคุมการออกตัว
4.Husqvarna FE 450 Heritage
heritage-inspired คือภาพลักษณ์ของฮัสกี้คันนี้ จุดสังเกตที่เด่นชัดก็เป็นแถบลายกราฟิกน้ำเงิน-เหลืองแบบดั้งเดิมของแบรนด์ ที่ทำขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ประวัติศาสตร์การแข่งรถออฟโรดของ Husqvarna ขุมพลังเครื่องยนต์ SOHC 4 จังหวะ 450 ซีซี 4 จังหวะ ระบายความร้อนด้วยของเหลว ใช้ระบบจ่ายเชื้อเพลิงแบบเดียวกับ FE 450 รุ่นปกติ พร้อมแมพปิ้งเครื่องยนต์ที่เลือกได้ 2 แบบและ Traction Control
โครงสร้างเมนเฟรมโครโมลี่ ใช้สีขาว(รุ่นปกติเป็นสีน้ำเงิน) ระบบช่วงล่างใช้โช้คหน้า WP Xplor open-cartridge coil-spring ขนาดแกน 48 มม.(เหมือน KTM) และระบบกันสะเทือนหลัง WP Xac tทำงานร่วมกับแขนกระเดื่องทดแรง ช่วงยุบ การเดินทางคือ 11.8 นิ้ว หรือ 300 มม. เท่ากันทั้งหน้า-หลัง
ความแตกต่างจากรุ่นปกติอีกอย่างคือ รุ่นนี้ใช้ขอบล้อ Excel (แทนที่จะเป็น D.I.D DirtStar) แล้วก็ผลิตจำนวนจำกัดด้วยนะ!
5.Beta 480 RR Race Edition
…จะเล่นให้สุด ต้องหยุดที่ BETA 480 RR Race Edition เพราะมันคือเอ็นดูโร่ “ตัวท็อป” ของยี่ห้อเก่าแก่จากฟลอเรนซ์,อิตาลี
ความแตกต่างที่สำคัญจากรุ่นปกติ คือเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ขนาดใหญ่ 478 ซีซี ระบบเชื้อเพลิงใช้ปีกผีเสื้อขนาด 42 มม. และหัวฉีดสองตัว มีแมพปิ้งเครื่องยนต์ 2 แบบ พร้อม TC และสตาร์ทไฟฟ้า (คิกสตาร์ทมีให้ซื้อแยกเป็นอุปกรณ์เสริม)
มิติโดยรวมกระชับคอมแพ็ค ระยะฐานล้อ 1490 มม. ความสูงเบาะนั่ง 939 มม. ระยะห่างจากพื้น 320 มม. ส่วนน้ำหนักตัว 108 กก. (ไม่รวมเชื้อเพลิง) รุ่นนี้ใช้ยาง Metzeler ,ระบบช่วงล่างKYB มีเซ็ทติ้งภายในต่างจากรุ่น 430 ขณะที่ตัวถังและกราฟิกเป็นโทนสีที่โดดเด่นเฉพาะตัว Race Edition หล่อ บาดตา!!
6.Sherco 500 SEF Factory
สายพันธุ์ออฟโรดจากฝรั่งเศส Sherco มีเอ็นดูโร่ “ตัวสุด” อยู่ที่รหัส 500 SEF ซึ่งใช้เครื่องยนต์ DOHC สี่จังหวะ 478 ซีซี ระบายความร้อนด้วยของเหลว หัวฉีดเชื้อเพลิง Synerject EFI และระบบสตาร์ทไฟฟ้า
ขุมพลังมีแมพปิ้งเครื่องยนต์ 2 แบบเป็นของติดรถมาตรฐานจากโรงงาน เช่นเดียวกับท่อไอเสีย Akrapovič ตรงรุ่น ส่วนระบบช่วงล่างรับหน้าที่โดย KYB คู่โช้คหน้าคาร์ทริดจ์แบบปิด ขนาดแกน 48 มม. ช่วงยุบ 300 มม. ขณะที่ระบบกันสะเทือนหลังช่วงยุบ 330 มม.
เบาะนั่ง SelleDalla Valle สีเทาลายข้าวหลามตัด มาเป็นเซ็ทกับอุปกรณ์มาตรฐานอื่นๆ เช่น skid plate ของ AXP ,ชุดแฮนด์และตุ๊กตาแฮนด์Nekenขอบล้อ Excel สีดำพร้อมยาง Michelin Enduro
7.TM EN 450 Fi 4T
อีกหนึ่งแบรนด์มอเตอร์ไซค์วิบากจาก “อิตาลี” (TM ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1976) มีสายพันธุ์เอ็นดูโร่ตัวแสบตั้งแต่ขนาด 125 จนถึง 450
สำหรับตัวท็อปของ TM เป็นรหัส EN 450 Fi 4T ที่ใช้เครื่องยนต์ DOHC 4 จังหวะ 449 ซีซี หัวฉีด ,ระบายความร้อนด้วยของเหลว เครื่องรุ่นใหม่นี้มีปรับปรุงแก้ไขการแมพปิ้งเครื่องยนต์ให้แม่นยำมากขึ้น เติมระบบสตาร์ทแบบไฟฟ้า (มีการถอดคิกสตาร์ทเตอร์ออกในโมเดลปี 2023 นี้พอดี) ซึ่งทำให้ TM ลดน้ำหนักของตัวรถลงได้ 2.2 ปอนด์ หรือราวๆ 1 กิโลกรัม
เมนเฟรมอะลูมิเนียม พร้อมช่วงล่างที่ใช้โช้คอัพหน้าคอยล์สปริง KYB ขนาดแกน 48 มม.(สังเกตว่าพวกรถเอ็นดูโร่ใช้ไซส์นี้กันหมด) ระบบกันสะเทือนหลังเป็น TM Racing ,ขอบล้อ Excel สีน้ำเงิน รัดด้วยยาง MaxxisMaxxEnduro ตามด้วยจานดิสก์เบรกที่ใหญ่สุดในคลาส 270 มม. (หน้า) และ 245 มม. (หลัง) การันตีความมั่นใจด้วยคาลิเปอร์หน้า Bremboหลัง Nissin จบด้วยลายกราฟิกใหม่สำหรับปี 2023 ก็จบได้หล่อๆ