8 FACTS 2024 Harley-Davidson CVO Road Glide ST

อิทธิพลของซีรีส์ MotoAmerica King of the Baggers ยังคงขยายออกไปไม่สิ้นสุด ตัวอย่างก็คือแกรนด์ทัวร์เรอร์ใหม่จาก Harley-Davidson ที่สื่อออกแนวสปอร์ตสุดเท่าที่เคยมีมา …แน่ละเรากำลังกล่าวถึง Harley-Davidson CVO Road Glide ST เวอร์ชันปี 2024 ที่ได้รับการพัฒนาพรวดพราดจาก Road Glide ST รุ่นมาตรฐาน ด้วยเครื่องยนต์ที่ใหญ่ขึ้น ระบบอิเล็กทรอนิกส์ล้ำหน้า ระบบกันสะเทือนที่เหนือกว่า และอื่นๆอีกเพียบ

1.ถ้าจะมองหามีมอเตอร์ไซค์เพียงหนึ่งเดียวที่ใช้เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 121 “High Output” ขั้นสุดรุ่นใหม่ ก็คงจะมีแต่ Harley-Davidson CVO Road Glide ST ปี 2024 คันนี้แหละที่โคตรเร้าด้วยแรงบิดสูงสุด 145 ฟุต-ปอนด์ กดได้ในรอบต่ำเพียง 4,000 รอบต่อนาที ขณะที่กำลังสูงสุดขนาด 127 แรงม้า เรียกมาซิ่งติดมือในช่วง 4,900 รอบต่อนาทีเท่านั้น …คอนเฟิร์มเลยว่านี่คือตัวเลขแรงบิดและแรงม้าสูงสุดเท่าที่เคยมีของ Harley-Davidson แล้วเพ่!!

2.เครื่องยนต์ Milwaukee-Eight 121 High Output มีโหมดการขับขี่เป็นค่ามาตรฐาน 5 ระดับ +โหมดที่ปรับแต่งเองได้ จะบอกว่าชื่อโหมดต่างๆมีสื่อถึงฟีลลิ่งสปอร์ตด้วยล่ะ ได้แก่ Track Plus, Track, Sport, Road และ Rain แน่นอนหากใครไม่พอใจกับโหมดเซ็ตติ้งจากโรงงาน สามารถโปรแกรมรายละเอียดโหมดตามลักษณะการขับขี่เฉพาะได้…

3. ระบบกันสะเทือน Showa สามารถปรับค่าได้เต็มที่ทั้งหน้า-หลัง กล่าวคือปรับค่าคอมเพรสชั่นและ damping rates โดยโช้คหน้าใช้แบบหัวกลับขนาดแกน 47 มม. โช้คหลังแบบอิมัลชันติดซับแทงค์พร้อมรีโมท แถมยังสามารถปรับสปริงพรีโหลดได้ทั้งคู่

4. ระบบหยุดความเร็วรับหน้าที่โดย Brembo ซึ่งได้รับการอัพเกรดอย่างมากที่ด้านหน้า จานดิสก์หน้าลายคลื่นขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 320 มม. และคาลิเปอร์แบบเรเดียลเมาท์ 4 ลูกสูบ พร้อมระบบ ABS 2 ชาแนล เป็นมาตรฐาน

5.การยศาสตร์ หรือ ergonomics ได้รับการปรับแต่งเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมตัวรถ (เนื่องจากบอดี้ขนาดเบิ้ม) แฮนด์มีส่วนโค้งแบบ “moto” และติดตั้งบนไรเซอร์ขนาด 6 นิ้ว คอนโทรลผ่านท่านั่งแบบชิลๆบนเบาะนั่งเดี่ยวทรงลึกไม่ง้อผู้โดยสาร!!

6.เรื่องน้ำหนักตัวของ 2024 Harley-Davidson CVO Road Glide ST ยังเป็นความพยายามที่ H.D.เองต้องการลดให้มากที่สุด (แม้ว่าสุดท้ายจะยังคงเกิน 362 กก.ก็ตาม) นอกจากจากถังน้ำมันขนาด 27 ลิตร งานนี้ยังเจาะจงใช้คาร์บอนไฟเบอร์ในพาร์ทหลายส่วนตั้งแต่ด้านหน้าไปด้านหลัง ทั้งบังโคลนหน้า คอนโซลถัง ฝาครอบเบาะนั่ง และฝาปิดปลายท่อไอเสีย (โครงท่อไอเสีย Screamin’ Eagle ทำจากไทเทเนียม) จานดิสก์หน้าแบบคลื่นและวงล้อที่ใช้วัสดุคอมโพสิตเพื่อการลดน้ำหนักอีกด้วย

7.ในเมื่อพรีเซนต์ความเป็นอเมริกันแกรนด์ทัวร์ริ่งที่หรูหรา ชัวร์อยู่แล้วว่าต้องฟูลออพชัน “ความบันเทิง” ด้วยระบบอินโฟเทนเมนต์ เริ่มด้วยหน้าจอสัมผัสแนวทแยงควบคุมโดย Skyline OS พร้อมชุดเครื่องเสียงของ Harley-Davidson ซ่อนระบบขยายเสียง 500 วัตต์ ให้คุณเปิดเพลง Born To Be Wild ได้สนั่นรอบทิศโดย Rockford Fosgate Stage II ลำโพงขนาด 6.5 นิ้วที่บิลด์อินมาในแฟริ่งครบเซ็ท!!

8.คงไม่ใช่ CVO ถ้าไม่มีงานสีระดับพรีเมียม สำหรับเวอร์ชัน 2024 มีตัวเลือกสีหรูๆระหว่าง Golden White Pearl และ Raven Metallic ตัดด้วยการให้เครื่องยนต์ ตัวกรองอากาศ และท่อไอเสียมาในโทน “แบล็คเอาท์” ส่วนตัวลายกราฟิกก็ได้รับแรงบันดาลใจจากรถแข่ง Screamin’ Eagle Harley-Davidson Factory ที่แข่งขันในซีรีส์ MotoAmerica Mission King of the Baggers นอกจากนี้ยังมีลวดลายกราฟิกแสดงความคารวะ CVO ครบรอบ 25 ปีด้วย

…ทีนี้ก็เหลือแค่ให้เปิดตัวขายในบ้านเรา…ถ้าชอบและเงินถึง ก็จัดไปตามหัวใจเรียกร้อง!!