ส่องโรงงาน Vespa อลังการและ “ครบเครื่องสุด” ในเอเชียแปซิฟิก

เรื่อง : 13pM
ภาพ : Piaggio Group

…ม่านฝนโปรยปรายตั้งแต่ก้าวแรกที่ผมเดินออกนอกอาคารสนามบิน “โหน่ยบ่าย” กรุงฮานอยประเทศเวียดนาม …ผมและสื่อไทยอีก 30 ชีวิต มาที่นี่ตามคำเชิญของ Piaggio Group กับอีเวนต์ “Vespa’s factory visit in Vietnam” เป้าหมายหลักคือ การเยี่ยมชมโรงงานผลิตสกู๊ตเตอร์ Vespa ,Aprilia ,Piaggio ณ เมืองหวิ๋ญฟุก เพื่อตอกย้ำมาตรฐานและทิศทางของผลิตภัณฑ์ในเครือ Piaggio ว่ายังคงเดินหน้าอย่างแน่วแน่ในตลาดสองล้อภูมิภาคนี้และทั่วโลก
…ตามมาดูบรรยากาศการเดินทางทริปนี้กันครับ…

เปิดประสบการณ์สุดระทึกด้วย Vespa Hanoi City Tour
หลังจากเดินทางออกจากสนามบินด้วยบัสขนาดใหญ่ถึงฮานอย เข้าเช็คอินที่โรงแรมโนโวเทลใจกลางเมือง เราก็เริ่มกิจกรรม Vespa City Tour ทันที โดยเป็นการนั่ง “ซ้อนมอเตอร์ไซค์เวสป้า” เพื่อ “ชมเมือง” ฮานอยในแบบสุด excited ท่ามกลางอากาศฝนปรอยๆตลอดเวลา


ก่อนเริ่มกิจกรรมนี้ผมเดินไปคุยกับบรรดาคนขี่เวสป้าที่มารอเราหน้าโรงแรม ได้ข้อมูลว่าพวกเขาคือ “เวสป้าคลับ” ซึ่งร่วมกันก่อตั้งเป็นกลุ่มให้บริการนักท่องเที่ยวในโปรแกรมทัวร์เมืองฮานอย ดูเหมือนเป็นโครงการที่ร่วมมือกับทางภาครัฐบาล โดยมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2,400 บาท ต่อคัน ต่อรอบเวลา 4 ชั่วโมง

หลังจากเริ่มออกเดินทาง การจราจรในฮานอยซึ่งเต็มไปด้วยความปั่นป่วนโกลาหลเป็นเอกลักษณ์ได้สร้างความบันเทิงและระทึกให้กับกิจกรรมซ้อนเวสป้าชมเมืองครั้งนี้ได้อย่างมาก เนื่องจากที่นี่มีทั้งแยกไฟแดงและวงเวียน ซึ่งถ้าเป็นไฟแดงนั้นไม่เท่าไหร่ แต่เมื่อใดผ่านไปยังจุดที่เป็น “วงเวียน” เราจะพบกระแสรถมอเตอร์ไซค์ที่แย่งทางกันในแบบว่าฉันขอไปก่อนมาจากทุกสารทิศ!! ตรงนี้แหละที่ลุ้นให้คันของเราผ่านไปให้ได้โดยไม่ชนเข้ากับใครซะก่อน…ฮา ฮา
อย่างไรก็ตามด้วยความชำนาญของพี่ๆเวสป้าคลับ ซึ่งคันที่ผมซ้อนเป็น PX125 ขับขี่โดย มร.ลอง(แอบถามชื่อพี่เค้ามา) พาเราถึงจุดเช็คอินทั้ง 3 แห่งอย่างเรียบร้อยราบรื่น จุดท่องเที่ยวที่ว่าก็ได้แก่ ทะเลสาบคืนดาบ , Hanoi Theater และ อนุสาวรีย์ Ly Thai To บรรพกษัตริย์ของชนชาติเวียดนาม ความจริงในโปรแกรมมีสถานที่ต้องไปเยือน 7 แห่ง แต่ปรับลงมาให้กระชับลงเนื่องจากสภาพอากาศ
โปรแกรมวันแรกในฮานอยจบลงด้วยการไปรับประทานอาหารเย็นแบบอิตาเลียนฟิวชั่นเวียดนามในร้าน Casa Italia (Caffè Italia) ซึ่งตกแต่งประดับประดาด้วยเรื่องราวของ Vespa ทั้งร้าน แล้วยังมี Apriliaกับ MotoGuzziจัดดีสเพลย์อยู่ด้านนอกด้วย (มาทราบทีหลังว่าเจ้าของร้านอาหารก็เป็นดีลเลอร์ให้กับ Piaggio Group นั่นเอง)


เปิดโรงงาน Vespa Vietnam อลังการ ครบวงจร

วันที่สองของกิจกรรม Vespa’s factory visit in Vietnam ถือว่าเป็น “ไฮไลต์” ของทริป เมื่อเราต้องการเดินทางออกไปยังเมืองหวิ๋ญฟุก ซึ่งเป็นเมืองนิคมอุตสาหกรรมห่างจากฮานอยประมาณ 1 ชั่วโมง เมื่อไปถึงโรงงานของ Piaggio Group มีการต้อนรับจากคุณพรนฎา นิวาตวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วีพีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์ในเครือ Piaggio Group ในประเทศไทย
จากนั้น มร.จิอานลูกา ฟิอูเม ประธานกรรมการและกรรมการทั่วไป บริษัท พิอาจิโอ เวียดนาม และรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท พิอาจิโอ เอเชีย แปซิฟิก สายงานกลุ่มธุรกิจสองล้อ รวมทั้งกลุ่มผู้บริหารโรงงานได้ออกมาให้ข้อมูลที่สำคัญๆของโรงงานอย่างครบถ้วน


ต่อมาจึงเริ่มการแบ่งสายออกตามโปรแกรมเยี่ยมชม โดยผมอยู่ในกลุ่มที่เข้ารับฟังการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ก่อน งานนี้มีอัพเดทของโมเดลขายดี Vespa GTS รุ่นใหม่ล่าสุด 2023 ที่เตรียมวางจำหน่ายเร็วๆนี้ ซึ่งในรุ่น GTS SUPER 300 เตรียมลุยด้วยโฉมใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ GTS SUPER 300 ตามด้วย GTS SUPER 300 SPORT ที่ปรับโฉมใหม่ในหลายจุดให้ดู สปอร์ตเฉียบคมลงตัวมากขึ้น ปิดท้ายที่รุ่นท็อป GTS SUPER 300 SUPER TECH ที่มาในมาดหรูเนี๊ยบ ออปชันครบเครื่องสุด


นอกจากนั้นต่อด้วยการแนะนำรุ่นล่าสุดของ GTS SUPER 150 และ Piaggio Medley รวมถึง Aprilia SR GT ซึ่งทั้งหมดเป็นผลผลิตของโรงงานแห่งนี้นั่นเองครับ


เมื่อเริ่มต้นการเข้าเดินชมโรงงานแบบเต็มรูปแบบ จากที่เห็นโรงงานแห่งนี้มีขนาดใหญ่มากครับ มีพื้นที่รวมกว่า 265,000 ตารางเมตร ซึ่งเป็นหนึ่งในฐานการผลิตของกลุ่ม Piaggio Group ซึ่งทั่วโลกมีทั้งหมด 12 แห่ง แบ่งเป็น อิตาลี 5 แห่ง อินเดีย 3 แห่ง เวียดนาม 2 แห่ง จีน 1 แห่ง และ อินโดนีเซีย 1 แห่ง โดยผลผลิตจากโรงงานเหล่านี้ถูกจัดจำหน่ายใน 100 ประเทศทั่วโลก มีตัวแทนจำหน่ายมากกว่า 4,000 แห่ง (รถสองล้อ และรถเพื่อการพาณิชย์) และมีโชว์รูมมากกว่า 800 โชว์รูม

ที่สำคัญ “ควรรู้” คือโรงงาน Vespa หรือ Piaggio Vietnam ถือได้ว่าเป็นฮับการผลิตที่สำคัญของ Vespa, Apriliaและ Piagio ที่คงมาตรฐานเช่นเดียวกันกับทุกโรงงานของ Vespa ที่กระจายตัวอยู่ในทั่วโลก

โรงงานนี้เริ่มก่อสร้างในช่วงต้นปี ค.ศ. 2008 …หากนับจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลากว่า 15 ปี พร้อมกับผลิต Vespa, Apriliaและ Piaggioไปแล้วหลายแสนคัน

การเข้าไปดูส่วนงานผลิตในสถานีต่างๆ มีทั้งสถานีผลิตตัวถังเหล็กอันเลื่องลือของ Vespa ซึ่งเป็นความต่อเนื่องกันระหว่าง สายงานการเชื่อมประกอบโครงสร้างตัวถัง (Welding Line) จำนวน 3 สาย ส่งต่อไปยังระบบการชุบกันสนิมด้วยไฟฟ้าเพื่อความคงทน



จากนั้นก็ไปที่สายงานการพ่นสี (Painting Lines) ที่โรงงานแห่งนี้มีถึง 3 สายเช่นกัน ตรงจุดนี้ผู้บริหารของโรงงานได้ให้ความเห็นว่าในสายการพ่นสีที่ยังใช้พนักงานพ่นสีแทนที่จะเป็นโรบอทนั้นเนื่องจากคุณภาพของพนักงานในสายงานนี้ดีเยี่ยมได้มาตรฐานอยู่แล้ว


อีกหนึ่งจุดที่พลาดไม่ได้คือสายงานประกอบเครื่องยนต์ (Engine Lines) ซึ่งที่นี่ผลิตเครื่องยนต์ได้ทั้งระบบ ครบไลน์ตั้งแต่ 125 ซีซี.ไปจนถึง 175 ซีซี. (ส่วนเครื่องยนต์บล็อก300 ซีซี.นำเข้ามาจากประเทศอิตาลี) จากที่สังเกตการประกอบเครื่องยนต์ในแต่ละสถานีเขาใช้เครื่องมือทันสมัยกับบรรยากาศการทำงานที่มี “สเปซ” เยอะมากครับ


เสร็จแล้วจึงเข้าสู่กระบวนประกอบขึ้นเป็นคันของรถสกู๊ตเตอร์ซึ่งมีถึง 3 ไลน์ โดยในวันที่เราไปเดินชมก็ได้เห็นการประกอบ GTS SUPER 150 และ 300 อย่างเต็มกำลัง


ประกอบเสร็จแน่นอนว่าที่โรงงานแห่งนี้ก็มีห้องตรวจเช็คคุณภาพ (Quality Lab) จำนวน 2 ห้อง

เมื่อผ่านการ QC แล้วถูกส่งไปยัง warehouse ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ Property lot ครอบคลุม 190,000 ตารางเมตร มีขั้นตอนการเตรียมรถเพื่อส่งขึ้นรถเทรลเลอร์เพื่อส่งออกไปยังดีลเลอร์ที่ครบถ้วน


“ไฮไลต์” ปิดท้ายของกิจกรรมเยี่ยมชมโรงงาน Vespa ครั้งนี้ ผมมีโอกาสไปร่วมสัมผัสส่วนหนึ่งของพื้นที่งานวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (R&D) โดยได้ลงไปทดลองขับขี่รถที่ผลิตในโรงงานนี้บน “สนามทดสอบ” ภายในโรงงาน กิจกรรมนี้บอกเลยว่ามีโอกาสน้อยมากที่คนภายนอกจะเข้ามาใช้พื้นที่ได้ แต่มีข้อยกเว้นให้สื่อไทยได้ลองกันครบทุกคน


ผมเริ่มจากขี่ GTS SUPER 300 S ออกไปตามสนามทดสอบที่ยาวร่วมๆรอบละกิโลเมตร จากนั้นมาลอง Aprilia SR GT และปิดท้ายที่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า Piaggio 1 โดย VESPA ที่ได้ลองขี่ในครั้งนี้ ก็เตรียมวางจำหน่ายบ้านเราในอนาคตอันใกล้นี้ด้วย (ส่วน Piaggio 1 คงไม่ใช่เร็วๆนี้)


ทั้งนี้ฟีลลิ่งของรถที่ลองขี่แล้วอยากกล่าวถึงก็คงเป็น Piaggio 1 ไฟฟ้าล้วน ที่ขี่นุ่มนวลดีมาก ความเร็วที่ได้ก็เหมาะสำหรับรถใช้ในเมืองระยะไม่ยาว ส่วน Vespa GTS SUPER S300 การลองในสนามแบบนี้ข้อมูลฟีลลิ่งยังน้อยไปสำหรับเราครับ บอกได้แค่โฉมใหม่และสีสันที่ออกมาสวยลงตัวกว่าตัวเก่าเท่านั้น

หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม กลุ่มผู้บริหารโรงงาน Vespa หรือ Piaggio Vietnam ได้ทำการมอบของที่ระลึกและถ่ายภาพร่วมกันบริเวณหน้าโรงงานเป็นการขอบคุณสื่อมวลชนจากประเทศไทยในการมาร่วมงาน


สำหรับผมในฐานะตัวแทนนิตยสารโมโตครอส นี่เป็นอีกทริปสุดประทับใจที่อยากส่งต่อความมั่นใจที่ได้ไปเห็นโรงงานถึงคนรัก Vespa รวมถึงแบรนด์ในเครือ Piaggio Group  ในบ้านเราว่า รถของพวกคุณเกิดจากความตั้งใจพัฒนาอย่างแน่วแน่ในทิศทางที่ชัดเจนและจริงจัง…ไม่แปลกที่ Vespa และทุกแบรนด์ภายใต้ Piaggio Group จะยังคงแข็งแกร่งในโลกยานยนต์ 2 ล้อและคงยืนหยัดต่อไปอีกนาน…

ขอขอบคุณ : Piaggio Group ,บริษัท วีวีพีดับเบิลยู ซัพพลายส์ จำกัด ,Verve Public Relations Consultancy