รอบนี้ GoPro มีมาให้เลือกถึง 2 รุ่น GoPro HERO13 Black และ HERO13 โดยตัวใหม่ล่าสุดนี้ยังคงคุณภาพเดิมของวิดีโอไว้ที่ 5.3K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที ระบบลดการสั่นไหว HyperSmooth พร้อมฟังก์ชันใหม่ อุปกรณ์เสริมแบบจัดเต็ม เพิ่มประสิทธิภาพการใช้ง่ายให้ง่ายยิ่งขึ้น
– ช่องชาร์จแบตเตอร์รี่แม่เหล็ก FAST CHARGE สะดวกขึ้นไม่ต้องเปิดฝาด้านข้างที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ HERO13 Black กับแบตเตอรี่รุ่น Enduro 1900 mAh ออกแบบใหม่มีความจุมากขึ้นถึง 10% อึดกว่าเดิม
– โหมด slow motion แบบ 13 เท่า บันทึกวิดีโอแบบสโลโมชั่นคุณภาพระดับ HD 720p ได้สูงสุด 400 เฟรมต่อวินาที รวมถึงวิดีโอ 5.3K ที่ 120 เฟรมต่อวินาที และ 900p ที่ 360 เฟรมต่อวินาที
– Snap and Go ขายึดสลักแม่เหล็ก ไม่ยุ่งยากในการยึดติดด้วยตัวน็อตอีกต่อไป ติดตั้งง่ายรวดเร็ว แข็งแรง ไม่ต้องกลัวหลุด
ใหม่กับชุดเลนส์ HB-Series รองรับระบบกันสั่น Hyper Smooth มีทั้งหมด 4 แบบ
– Ultra Wide Lens Mod เปิดมุมมองภาพได้มากขึ้นในทุกช็อตด้วยมุมมองภาพ 177° และอัตราส่วนภาพใหม่ 1:1 เพิ่มความอิสระในการครอบตัดฟุตเทจ ได้ทั้งภาพแบบจอกว้าง 16:9 และแนวตั้ง 9:16 เหมาะกับสายคอนเทนต์ตอบโจทย์ทุกแพลตฟอร์ม
– Macro Lens Mod โฟกัสระยะใกล้สุดถึง 11 ซม. ใกล้กว่าเลนส์ GoPro มาตรฐานถึง 4 เท่า และวงแหวนโฟกัสแบบปรับระยะ
– Anamorphic Lens Mod บันทึกภาพวิดีโอมุมกว้างพิเศษ อัตราส่วน 21:9 ให้สไตล์แบบภาพยนตร์โดยไม่ต้องปรับแต่งเพิ่มเติม
– ฟิลเตอร์ ND ชุด 4 ชิ้น สร้างโมชั่นเบลอระดับภาพยนตร์ให้กับช็อตอย่างง่ายดาย
ด้วยฟิลเตอร์ตัดแสง (ND) จาก HB-Series ได้แก่ ND4 / ND8 / ND16 / ND32 HERO13 Black จะตรวจจับฟิลเตอร์นั้นสลับเป็นโหมดวิดีโอ Auto Cinematic โดยระบบจะปรับการตั้งค่าที่ดีที่สุดตามสภาพแวดล้อมโดยอัตโนมัติ
ราคาพร้อมให้เป็นเจ้าของแล้ววันนี้
HERO13 Black ราคา 15,900 บาท มาพร้อมซีรีส์เลนส์อัจฉริยะ (HB-Series)
HERO ในราคา 7,900 บาท
HERO13 Black Creator Edition 23,900 บาท มาพร้อมขาตั้ง Volta พร้อมแบตเตอรี่ในตัว, Media Mod และ Light Mod
