Bilmola Spiker เริ่มต้น 2,200 บาท
อาจจะเรียกว่าหมวกสไตล์ “ไฮบริด” ก็ได้ เพราะนอกจากดีไซน์สวยเฉียบคม แล้วยังสามารถเลือกถอดคางออกได้ในวันอากาศร้อนเพื่อให้หายใจสะดวกขึ้น.. ตัวหมวกดีไซน์ออกมาเป็นหมวกทรงโรดสเตอร์ รองรับการติดตั้งบลูทูธ พร้อมปีกหมวกช่วยบังแดดไม่ให้กระทบสายตาโดยตรง แถม Bilmola Spiker ยังมีราคาเพียง 2,200 บาทเท่านั้น กับมาตรฐาน ECE 22.05, มอก. 369-2557
(ภาพ www.bilmola.com)
Acerbis Jet Aria 22-06 เริ่มต้น 3,090
หมวกกันน็อกสไตล์เทรลที่นำมาขับขี่ใช้งานในเมืองได้แบบชิลล์ๆ เพราะชิลด์บังลมให้มาใหญ่มาก มีแก๊ปมาช่วยบังแดดให้ แต่จะไม่ได้มีส่วนป้องกันบริเวณปาก เหมาะสำหรับการขับขี่ด้วยความเร็วไม่สูงนัก รองรับมาตรฐานความปลอดภัยล่าสุดจากยุโรปอย่าง ECE. 22.06 ..ดังนั้นใครที่ขับขี่ใช้งานในระยะสั้นๆ น่าจะถูกใจใบนี้ได้ไม่ยาก(ภาพ www.acerbis.com)
MT Streetfighter เริ่มต้น 3,200
หมวกกันน็อกโรดสเตอร์อีกใบหนึ่งที่มีความโดดเด่นด้านลวดลายและความสวยงาม ดีไซน์ออกมาค่อนข้างโฉบเฉี่ยวที่สุดในทุกรุ่นไฮบริดประจำลิสต์นี้ มีแก๊ปบังแดดมาให้ พร้อมช่องระบายลมเข้า-ออกใหญ่ผิดหูผิดตา รองรับการติดตั้งบลูทูธ มาตรฐาน DOT, ECE 22.05 และ มอก. 369-2557
(ภาพ www.mthelmetsthailand.com)
LS2 OF606 Drifter เริ่มต้น 4,000
แบรนด์ดังระดับโลกอีกแบรนด์ที่ปล่อยไลน์อัพโรดสเตอร์ในราคาเข้าถึงไม่ยากนัก พร้อมมาตรฐานความปลอดภัยแน่นๆ อย่าง ECE.22.06 ที่ได้รับการอัปเดตล่าสุด พร้อมออปชันชิลด์สโมคดำ ติดมาให้เลือกติดตั้งเองจากชิลด์ใสอีก 1 อันในกล่อง ชิลด์หมวกด้านบนปรับตำแหน่งได้ ถอดคางได้ กับน้ำหนักหมวกเพียง 1300 ± 50 กรัม ..ทรงสวยสวมใส่แล้วหัวไม่โตด้วย
(ภาพ www.cs-bikewear.de)
Bell Mag-9 เริ่มต้น 6,990
เรียกว่ารุ่นท็อปสุดของหมวกสไตล์นี้ก็ว่าได้ ส่งตรงจากอเมริกา เป็นหมวกที่มีฟังก์ชันแบบ City Ride มากที่สุด.. หมวกกันน็อกเปิดหน้า มีชิลด์ 2 ชั้น.. ชั้นหนึ่งคือบังลม ชั้นสองคือบังแดด พร้อมแก๊ปขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่โดดเด่นด้วยการมีช่องสำหรับบลูทูธ Sena SMH10 และ Cardo Scala Rider Q1/Q3 ให้โดยเฉพาะ พร้อมสายรัดคาง DD-Ring ต่างจากกิ๊บล็อคของทุกรุ่นในลิสต์นี้ มีมาตรฐาน DOT และ มอก. รองรับ.. ไม่มี ECE เพราะเป็นมาตรฐานยุโรป แต่นี่หมวกวัยรุ่นอเมริกานั่นเอง (ภาพ www.motorcycleid.com)