…ไม่มีคำว่าเกินจินตนาการถ้ากล่าวถึงงานคัสตอม นี่คือ งานข้ามสายพันธุ์เน้นเอามันส์ให้ว้าวกันเล่น รถคันนี้คือหนึ่งในไฮไลต์ของงานแสดงมอเตอร์ไซค์คัสตอม Bike Shed ล่าสุด กับผลงานจาก PiperMoto ซึ่ง John Piper ผู้ก่อตั้ง PiperMoto เรียกมันว่า “ซูเปอร์สกู๊ตเตอร์”
แน่ละ Maxi-scooter ไม่ใช่ของใหม่ แต่ความสวยงามระดับไฮเอนด์ของ J Series เครื่องยนต์ 67 แรงม้าและวิศวกรรมสุดล้ำ ทำให้รถรุ่นนี้มีระดับในแบบของมันเอง ดูภายนอกเป็นสกู๊ตเตอร์คลาสสิกสไตล์ที่งามหยด…ออกแนวน่ารัก เรียบร้อย…แต่ลึกลงไปข้างในนั้นคือกลเม็ดการออกแบบที่ซ่อนลูกเล่นให้สามารถ “เปิดประทุน” ขึ้นมาเห็นเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ถูกติดตั้งซ่อนอยู่ในโครงสร้างโครโมลีชนิดสั่งทำพิเศษอย่างลงตัว
ลงรายละเอียดส่วนนี้จะพบว่าตรงเซ็นเตอร์ของโครงสร้างมีสเปซเฟรมที่เชื่อมด้วยโครโมลีแบบ TIG ซึ่งดูแล้วงดงามเชิงศิลป์ในตัวมันเอง ตรงนี้เองที่ เครื่องใหญ่จาก KTM 690 Duke ติดตั้งอยู่เยื้องไปทางด้านหลัง โดยซ่อนไว้ในชุด Meccano ขนาดเท่าตัวจริง และใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยโซ่ พร้อมถังเชื้อเพลิงขนาด 14 ลิตรรองรับการกินน้ำมันของเชื้อเพลิง
ความเจ๋งที่ดูแล้วต้องอึ้งไปเลยคือ งานออกแบบเมนเฟรมที่มีความเชื่อมโยงกับระบบกันสะเทือนหลังซึ่งดีไซน์ขึ้นใหม่ทั้งชุด ชุดสวิงอาร์มโคตรเฉียบ เสริมสเปเซอร์จุดติดตั้งโช้คหลังเดี่ยววางนอนที่ให้ระยะยุบตัว 120 มม. มีรีโมท ExeTC เชื่อมต่อกับสวิงอาร์มแบบทำขึ้นใหม่ผ่านก้านกระทุ้งและก้านโยก
ไปดูระบบกันสะเทือนหน้าจะดูคุ้นตากว่า เพราะใช้ชุดโช้คหัวกลับของ KTM มีระยะยุบตัว 150 มม. เติมล้อซี่ลวดขนาด 17 นิ้วหุ้มด้วยยาง Bridgestone Battlax BT090
ระบบเบรกยกชุดมาจาก Brembo โดยมีคาลิเปอร์แบบสี่ลูกสูบจับจานดิสก์หน้าขนาด 320 มม. และคาลิเปอร์แบบลอยตัวลูกสูบเดี่ยวกับจานหลังขนาด 240 มม.
นอกจากนี้ ตัวถังที่หรูหราของ J Series ทำจากวัสดุคอมโพสิตคาร์บอนแบบทอ และตกแต่งด้วยผิวสัมผัสโครเมียมอย่างดี ให้ความรู้สึกแบบงานของสกู๊ตเตอร์ระดับพรีเมียม อานแบบแยกที่ชวนให้นึกถึงดีไซน์วินเทจของเวสป้าและแลมเบรตต้า
เก็บงานด้วยพาร์ทอื่นๆ หน้าจอมาตรวัด Twin Smiths ควบคู่ไปกับการผสมผสานรายละเอียดที่สวยงามจากเครื่องจักร CNC และการตกแต่งอื่นๆ กระจกมองข้าง ไฟเลี้ยว ไฟหน้า และไฟท้าย ที่ดูแล้วเนี๊ยบ เฉียบ และโคตรสวย!!