ไม่รอช้าเปิดทดสอบเต็มระบบทันทีหลังเปิดตัวทั้ง 2 รุ่น ที่ สนามแก่งกระจาน เซอร์กิต กับกิจกรรมทดสอบ TRIPLE THRILLS Race N’ Ride X’Venture ครบจบทุกเส้นทางให้สื่อมวลชนไทยได้ทดลองขับขี่ทั้งในสนามแข่ง และการใช้งานบนท้องถนน กับโมเดลทั้ง 2 โมเดล New CBR650R และ New CB650R สำหรับแฟนๆค่ายปีกนกที่กำลังติดตามเรื่องเทคโนโลยี Honda E-Clutch เทคโนโลยีการควบคุมระบบคลัทช์ด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า อดใจรอไว้ก่อน……ไม่เกินไตรมาสแรกของปี 2024 นี้เราน่าจะได้เจอกับระบบนี้อย่างแน่นอน
NEW Design
CB650R Neo Sport Café
สไตล์เรโทรสปอร์ตคาเฟ่เรซเซอร์ผสานกับเทคโนโลยีทันสมัยได้อย่างลงตัว ไฟหน้า-ไฟท้ายใหม่ เฉียบคมขึ้นถ่ายทอดดีไซน์จากพี่ใหญ่ CB1000R ฝาครอบหม้อนํ้าออกแบบใหม่ ดูปราดเปรียวมากยิ่งขึ้นและยังคงเอกลักษณ์ความสปอร์ตเต็มขั้น
CBR650R Super Sport
ได้แรงบันดาลใจจากรถที่ใช้ในการแข่งขันด้วย DNA ความเป็นสปอร์ต ปรับเปลี่ยนดีไซน์ให้ทันสมัยขึ้น โฉบเฉียว มาพร้อมเทคโนโลยี แอโรไดนามิค ไฟหน้า-ไฟท้ายออกแบบใหม่ ชุดแฟริ่งใหม่ ปรับดีไซน์ด้านหน้าเพิ่มความเหลี่ยมคมให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
Best Standard Engine
เครื่องยนต์บล็อกเดิมที่ถูกแมพปิ้งใหม่ เครื่องยนต์ขนาด 649 ซีซี 4 สูบเรียง DOHC 16 วาล์ว 4 จังหวะ ระบบเกียร์ 6 สปีด ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 94 แรงม้าที่ 12,000 รอบ/นาที มีกำลังแรงบิดอยู่ที่ 63 นิวตันเมตร ที่ 9,500 รอบต่อนาที จ่ายน้ำมันด้วยระบบหัวฉีด PGM-FI ทำงานร่วมกับระบบ Assist slipper clutch ช่วยให้การตัดต่อกำลังทำได้อย่างนุ่มนวลทุกจังหวะการใช้เกียร์
เครื่องยนต์ที่ให้อารมณ์ความเป็นสปอร์ต ตอบสนองอัตราเร่งได้ตามมือ จากการที่ถูกแมพปิ้งขึ้นมาใหม่ ใส่ใจถึงความสนุกในสนามของรถในคลาสนี้ให้โดดเด่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ทำให้โจทย์การใช้งานในรถทั้ง 2 รุ่นในคลาส 650 Series ทำได้กว้างขึ้นและยังอัดแน่นด้วยระบบเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยที่ช่วยให้ผู้ขับขี่มั่นใจในการควบคุม
HSTC (Honda Selectable Torque Control)
ถูกติดตั้งเป็นมาตรฐานของทั้ง 2 รุ่น เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถในสถานการณ์การต่างๆได้ดีและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ระบบจะเข้าควบคุมการฉีดนํ้ามันเชื้อเพลิง ตามอัตราส่วนสไลด์ของล้อหลังโดยคำนวณจากเซ็นเซอร์ความเร็วล้อ และเซ็นเซอร์ตําแหน่งลิ้นเร่ง เพิ่มความมั่นใจขณะขับขี่บนถนนที่ลื่น สามารถเปิด-ปิดระบบบริเวณแฮนด์ด้านซ้ายมือ ป้องกันอาการล้อหลังสไลด์
มั่นใจมากยิ่งขึ้นกับระบบช่วงล่าง
โช้คอัพหน้าแบบหัวกลับขนาดแกน 41 มิลลิเมตร จาก Showa SFF-BP ด้านหลังเป็นโช้คอัพเดี่ยว สามารถปรับตั้งค่าพรีโหลดได้ถึง 10 ระดับ เซ็ตอัพมาค่อนข้างครอบคลุมแม้จะใช้งานหนักๆในสนามหรือขับขี่บนท้องถนน รวมถึงการใช้ความเร็วสูง การเบรกหนักๆเข้าโค้ง หรือเร่งออกจากโค้ง ก็สามารถควบคุมได้อย่างมั่นใจ
ระบบเบรกด้านหน้าดิสก์เบรกคู่ขนาด 310 มิลลิเมตร คาลิเปอร์จาก Nissin 4 ลูกสูบ เบรกหลังดิสก์เบรกเดี่ยวขนาด 240 มิลลิเมตร คาลิเปอร์ลูกสูบเดี่ยว มั่นใจเอาอยู่ทั้งในและนอกสนาม มาพร้อมระบบ ABS ทั้งล้อหน้าและหลัง ล้อแม็กขนาด 17 นิ้ว รัดด้วยยาง หน้า 120/70ZR17M/C และหลัง180/55ZR17M/C ถังน้ำมันเชื้อเพลิง 15.4 ลิตร ความสูงเบาะ 810 มิลลิเมตร (เท่ากันทั้งสองรุ่น) น้ำหนัก CB650R 203 กก. / CBR650R 207 กก. น้ำหนักลงมาจากรุ่นเก่า 3 กก. หน้าจอแสดงผล TFT ขนาด 5 นิ้ว ดีไซน์ใหม่สามารถแสดงข้อมูลที่จำเป็นต่อการขับขี่ได้อย่างครบถ้วน ชัดเจน ทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้อย่างง่ายดายผ่านแอปพลิเคชัน
Honda RoadSync
ระบบมาตรฐานที่ติดมาให้ในรถทุกคันของ Honda 650 Series 2024 เพื่อให้ผู้ขับขี่สามารถเข้าถึงฟังก์ชันต่างๆ เช่น
• การโทรออกและรับสาย
• ระบบนําทาง
• การรับ-ส่งข้อความ
• การฟังเพลง
• การพยากรณ์สภาพอากาศ โดยเชื่อมต่อรถจักรยานยนต์และสมาร์ทโฟน ผ่าน Bluetooth จากชุดหูฟัง
ผู้ขับขี่สามารถใช้งานสวิตช์ควบคุมได้ 4 ทิศทางทาง ด้านซ้ายของแฮนด์เพื่อเข้าถึงฟังก์ชันข้อมูลต่างๆ และยังแสดงบนหน้าจอมอนิเตอร์ในลักษณะที่เรียบง่าย ชัดเจน สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ Android และ IOS.
ระบบไฟรอบคันเป็น Full LED พร้อมดีไซน์ใหม่ เพิ่มประสิทธิภาพความส่องสว่างมากยิ่งขึ้น ไฟท้ายมาพร้อมกับระบบสัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติ ESS (Emergency Stop Signal) ทำงานเมื่อมีการเบรกอย่างกะทันหัน
สรุป Honda 650 Series 2024 ทั้ง 2 รุ่น เป็นการพัฒนาต่อยอดเพิ่มความสนุกให้กับรถในซีรีส์นี้ได้อย่างลงตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ที่แมพปิ้งใหม่ ดีไซน์ที่ตรงโจทย์การใช้งานและ เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกต่างๆที่สามารถเข้าใจและเข้าถึงผู้ใช้งานได้ง่าย ทำให้เห็นได้อย่างชัดเจนถึงความใส่ใจ ตอบรับเสียงของลูกค้าเพื่อนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ของทาง Honda
สำหรับราคาค่าตัวของทั้ง 2 รุ่น
New CBR650R 2024 ราคา 327,300 บาท
New CB650R 2024 ราคา 312,100 บาท
