อีกครั้งที่เราได้มีโอกาสจับ Yamaha NMAX มาขับขี่ท่องเที่ยวสไตล์ One Day เน้นเช็คอินถ่ายรูปสวยๆ ..รถที่ครบเครื่องขนาดได้รับคำชมไม่หยุดหย่อนจากสื่อหลายสำนัก.. และแม้จะไม่ได้มีฟีเจอร์ที่หวือหวาอย่างที่คู่แข่งหลายค่ายพยายามทำ ..แต่สุดท้าย “ตัวจบ” ก็ยังเป็นคันนี้.. วันนี้ลองมาขยี้สมรรถนะการขับขี่ท่องเที่ยวเต็มๆดูซิ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง..
บิดไกล “Long Run”
โดดเด่นที่เครื่องยนต์ 155 ซีซี. อันมีเอกลักษณ์ความ Grunge ให้เรารู้สึกว่ามันคือรถแรงๆคันหนึ่งได้มากกว่ารุ่นอื่น “อย่างชัดเจน” ออกตัวเริ่มต้นทริปจากเส้นบางนา-ตราด อัดไฮเวย์ยาวสุด เห็นสมรรถนะของเครื่องบล็อกนี้ชัดเจน..
Yamaha NMAX เป็นรถที่วิ่งไกลแล้วไต่ระดับสู่ความเร็ว 110 กม./ชม. ง่ายมากๆ จากเครื่องยนต์ปกติที่ต้องช่างน้ำหนักเลือกว่าจะแรงต้นหรือแรงปลาย แต่ NMAX ได้รอบแรงกลาง+ปลายมาแบบเฉียบๆด้วยระบบวาล์ว VVA ที่จะทำงานเมื่อมีรอบเครื่องยนต์เกิน 6,000 รอบขึ้นไป ทำให้วิ่งรอบปลายได้ไหลลื่นขึ้นกว่าเดิม ..จนรู้สึกว่าช่วงถนนบางนาตราดไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่เคย แม้มีรถบรรทุกวิ่งอยู่เต็มไปหมดก็ตาม..
เรื่องเหลือเชื่ออีกอย่างก็คือ ระบบสิ้นเปลืองน้ำมันที่ใช้คำว่ายอดเยี่ยมได้เลย เพราะตลอดทริปนี้เราวิ่งด้วยรอบปลายล้วนๆ หวดกันอย่างโหด แต่ได้ตัวเลขสิ้นเปลืองหน้าไมล์เพียง 43 กม./ลิตร เท่านั้นเอง.. ถ้าวิ่งกันปกติ ไม่เค้นคันเร่งก็มีเลข 50 กม/ชม. ให้เห็นแน่ๆ
อ้อ.. แล้วต้องชม NMAX เรื่อง Aerodynamic ด้วยนะ เพราะชิลด์บังลมเดิมๆนี่จัดการกับกระแสลมพัดขึ้นไปไม่โดนร่างกายเลย ทำให้ขี่ทางไกลด้วยความเร็วสบายขึ้นไปอีกต่อ
เที่ยวเช็คอิน
เริ่มเข้าสู่เขตแดนบางพระ มุ่งหน้าร้านอาหารวิวดี “Sea Salt” แอบขออนุญาตทางร้านเข็นรถมาถ่ายรูปริมทะเลเสียหน่อย เช็คอินให้คนรู้ว่ามาทะเล.. หลังจบมื้อเที่ยงแสนอร่อย ซีฟู้ดแน่นปึ้ก! เราก็ขับขี่ต่อไปแวะสถานที่ๆถ่ายรูปกับอะไรก็สวย อย่าง “ไลท์ติ้ง อาร์ต มิวเซี่ยม” ซึ่งแบ่งส่วนจัดแสดงเป็น 2 ส่วน
นิทรรศการแสงสี (สวยม๊าก) นำเสนอเรื่องราวของวัฒนธรรมไทยหลากหลายแบบผ่านศิลปะแสงสี ตามด้วย โซนนิทรรศการแบบ Contempolary ที่นอกจากจะสวยแปลกตาแล้วยังสามารถร่วมสนุกกับแสงสีต่างๆเหมือนเป็นส่วนเดียวกับนิทรรศการ และสุดท้ายกับโซนเอาท์ดอร์สีสันสดใส อีกมุมที่หันกล้องไปทางไหนก็ได้รูปสวย.. บอกเลยว่าใครชอบถ่ายรูปจะไม่แวะ ไม่ได้นะจ๊ะ
จุดหมายสุดท้ายที่ไม่คิดไม่ฝันว่าจะมีวันนี้ ..BFA Flying Club.. ยามาฮ่ากลัวใจว่าทริปนี้จะไม่สุดแมกซ์ เลยอาสาพาไบเกอร์ไปแตะก้อนเมฆด้วยยานพาหนะ Paramotor .. น่าเสียดายนิดหน่อยที่เราไม่สามารถเก็บภาพ NMAX บนท้องฟ้ามาให้เพื่อนๆได้จริงๆ..
ฝ่ารถติด
ระหว่างที่เราตามไล่จุดเช็คอินต่างๆนั้นเอง.. “ฝนตกครับ” ตามด้วยอาการ “รถติด” ธรรมชาติของ 2 สิ่งที่เกิดมาคู่กัน T^T ..เป็นอีกครั้งที่ผมรู้สึกมีบุญอุ้มหนุนชีวิต มีประโยคหนึ่งแว๊บเข้ามาในหมวกกันน็อกของผม “ดีนะวันนี้ฉันขี่ NMAX” เพราะช่วงล่างของ NMAX นั้นให้มาเกาะถนนดีมาก
ดียังไงน่ะหรอ? ก็ได้ระบบ ABS หน้า-หลัง ครบถ้วน และในรุ่นปีล่าสุดยังมีระบบ TC ช่วยรักษาสมดุลการหมุนของล้อทั้ง 2 ทำให้สามารถเปิดคันเร่งได้มั่นใจ ไม่ต้องกลัวว่าจะเปิดแรงเกินไปจนล้อสไลด์เอา.. ซึ่งจะหารถคลาสนี้ที่ติดตั้งระบบช่วยเหลือการขับขี่แน่นๆมาให้นั้น.. มันยากนัก ..
ยิ่งใครที่ต้องขี่ในรถติดหนักๆ กำเบรกบ่อยๆจนหลงน้ำหนัก เจ้า ABS นี่แหละตัวช่วยชีวิตเลย โดยเฉพาะกับสถานการณ์รถตัดหน้าจากมุมอับ ..เชื่อเถอะครับว่าจะเสียเงินซื้อรถทั้งที เสียเพิ่มอีกหน่อยเพื่อความปลอดภัยต่อชีวิตมันคุ้มค่ากว่าแน่นอน
สรุป
ทริปนี้วิ่งด้วยอัตราทางแห้งต่อทางเปียกแบบ 50:50 เลยทีเดียว เป็นการขับขี่ที่อย่างน้อยเราก็ได้รูปมาลงในช่องทางโซเชียลมีเดียได้หลายวันอยู่ ..ซึ่งผมคิดว่าเพื่อนๆหลายคนน่าจะชอบที่จุดนี้นะ (555) เป็นทริปที่มีความคิดว่า “ดีนะที่ขี่ NMAX” มา ด้วยสถานการณ์หลายๆอย่าง
อย่างน้อยก็ทำความเร็ว 110 กม./ชม. สบายๆ จัดการลมไม่พัดมาปะทะตัวโดยตรง มีระบบ ABS, TC ยังไม่รวมฟีเจอร์ต่างๆอีกทั้ง Y-Connect, U-Box ขนาดใหญ่, ช่องเก็บของด้านหน้า, ไมล์ดิจิทัล, เบาะนั่งตอนเดี่ยวโคตรนุ่ม, ถังน้ำมัน 7.1 ลิตร ฯลฯ กับราคาเพียง 98,500 บาท (รุ่น Y-Connect) หรือหากไม่ชอบระบบ TC กับ Y-Connect ก็ไปเริ่มต้นเพียง 95,000 บาทเท่านั้น
ต้องขอขอบคุณทางไทยยามาฮ่ามอเตอร์ที่จัดทริปสนุกๆแบบนี้ แม้จะมีลุยฝนกันบ้าง แต่ก็เป็นส่วนหนึ่งของวิถีไบเกอร์อยู่แล้ว ..พบกันทริปหน้า ว่าเราจะพาไปที่ไหนกันต่อ?
ชมภาพบรรยากาศโดยรวม