Honda C125 One Day Trip กับไอ้แดงเพื่อนรัก เขาใหญ่วันเดียว…สบาย!
เรื่อง/ภาพ : Hey Joe
…ฝูงแมลงพุ่งเข้ามากระทบชิลด์หมวกกันน็อค ดังเปาะแปะๆตลอดเวลา ตอนที่ผมขี่ C125 “ไอ้แดงเพื่อนรัก” ผ่านทุ่งนาริมถนนเลียบ “คลอง10” ขณะฟ้ายังไม่สว่าง ผมเลือกเส้นทางนี้เพื่อทะลุไปยัง “ถนนรังสิต-นครนายก” ก่อนมุ่งหน้าไปเขาใหญ่ตามแผนของตัวเอง…ออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดแบบนี้ ผมมีเหตุผลอยู่ 2-3 ข้อ อย่างแรกคือ Honda C125 ไอ้แดงเพื่อนรักของผม มันยัง “เดิมๆสายชิล” ซิ่งไม่ถนัด…จะวิ่งทำเวลามากไปก็เค้นสมรรถนะกันเกินงาม ก็เลยรีบออกมาตั้งแต่ตี 5 …ข้อต่อมาคือออกมาเร็วแบบนี้ การจราจรยังเบาบาง ไม่ต้องเบียดเสียดกับใคร และสุดท้ายคือผมชอบขี่รถตอนเช้าๆ อากาศมันสดชื่นเย็นสบายครับ…แล้วก็ยังเหลือเวลาให้พักได้นานๆอีกด้วย…
…ทริปนี้ผมเติมน้ำมันเต็มถังตั้งแต่ก่อนออกจากบ้านย่านรามคำแหง กทม. ด้วยถังของ C125 ราวๆ 3.5 ลิตร (จ่ายค่าน้ำมันถังแรกไป 50 บาทเท่านั้น) … 6 โมงครึ่ง เลข กม.ผ่านไป 98 กม. น้ำมันลดลงมาเหลือขีดเดียว ผมขี่ผ่าน “ตัวเมืองนครนายก” ตั้งใจจับทางหลวงหมายเลข 33 หรือ “ถนนสุวรรณศร” สายหลักสู่ จ.ปราจีนบุรี เพื่อจะได้เติมน้ำมันที่ปั๊มปตท.อีกที ก่อนขึ้นวกซ้ายไปทางเขาใหญ่ และช่วงนี้เองผมได้แวะชิม “ต้มเลือดหมูเจ้าอร่อยที่อยู่เลย 3 แยกไปเขื่อนขุนด่านไม่ไกล…ต้มเลือดหมูเจ้านี้ราคาพร้อมข้าวเปล่า 60 บาท แม่ค้าจัดให้ซะอิ่มแปล้ครับ แถมน้ำซุปและวัสดุที่ใช้สดดีมากๆด้วย
หลังจากเติมพลังคนและเติมน้ำมันอีก 40 บาทตามแผนแล้ว ผมก็ขี่ผ่านด่านเข้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ฝั่งเนินหอม โดยต้องทำการสแกน QR CODE เช็คอินไทยชนะ พร้อมกับจ่ายค่าธรรมเนียม70 บาท ผ่านเข้าไป…จากนั้นก็คอยเตือนตัวเองว่า ต้องขี่รถในเรทไม่เกิน 60 กิโลเมตร ต่อชั่วโมงตามกฎของอุทยาน เพราะจะว่าโลกสวยก็ได้นะ แต่บนเขาใหญ่มีสัตว์ป่าโดนรถชนตายทุกวัน…ก็เพราะสายซิ่งที่ไม่รู้เรื่องราวไม่เคารพกติกานี่แหละ…
ช่วงไต่ขึ้นความสูงไปเป้าหมายแรก “น้ำตกเหวนรก” C125 ของผมถูกสลับเกียร์ 1-2 ไปตามกำลัง สเตอร์ 14-36 ของมันเหมาะเหมือนกันกับทางชันๆในบางช่วง ที่ผมชอบรถตัวเองอีกจุดคือเบาะที่นุ่มสบายกับช่วงล่างที่นุ่มหนึบ(สำหรับคนเดียว) เรียกว่าขี่เที่ยวแบบไม่แบกของจะเหมาะมาก แต่ถ้าสายแบกโช้คเดิมๆอาจจะไม่ตอบโจทย์
หลังจากแวะไปถ่ายภาพแถวๆทางเข้าน้ำตกเหวนรก ผมก็มุ่งหน้าต่อสู่ “ยอดเขาเขียว” ตั้งใจไปนั่งจิบกาแฟ เสพสายหมอกและอากาศเย็นบนนั้น ทางขึ้นเขาเขียว รู้กันอยู่ว่าเป็นความชันและความโค้งผสมกันไป เกียร์ 1 ของ ไอ้แดง C125 ถูกเรียกมาใช้ต่อเนื่องไต่ความสูงไปจนถึงระดับ 1,292 เมตรของเขาเขียว บนนั้นอากาศดีและไม่ทำให้ผิดหวังเพราะนอกจากกาแฟสดที่ขายอยู่จะพัฒนารสมาจนเข้าท่าแล้ว ริมผาตรอมใจมีการทำเก้าอี้ให้นักท่องเที่ยวนั่งพัก และมีลมเย็นๆโชยตลอด ยิ่งสายรักษ์ธรรมชาติอย่างผม การได้นั่งชม Birds Wave ที่วนเวียนมาให้เห็นเป็นระยะ ยังมี “นกรับแขก อย่าง นกกะรางสร้างคอดำ นกเดินดงหัวสีส้ม รวมถึง ฝูงกระแตเหนือ ที่แห่กันมากิน “มอธ” ให้นั่งดูเพลินๆตอนจิบกาแฟอีกด้วย
…ผมใช้เวลาบนเขาเขียวจนเที่ยง ก็พาตัวเองลงไปเก็บบรรยากาศต่อที่ “น้ำตกเหวสุวัต” แลนด์มาร์คชื่อดังของ อช.เขาใหญ่ ที่นั่นคนเริ่มเยอะ ผมถ่ายน้ำตกไม่กี่ภาพ ก็ตัดสินใจขึ้นกลับมานั่งเล่นริมลำธารด้านบนที่เงียบสงบกว่า จากนั้นก็พาแดงเลาะเลียบโค้ง วกไปหามื้อเที่ยงทานแถวที่ทำการอุทยานฯ พร้อมกับเลือกเดินผ่านศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปนั่งชมฝูงชะนีมือขาวที่โผล่มารับแขกตรงร้านกาแฟริมลำตะคอง…
… ก่อนบ่าย 4 โมงเย็น ผมถ่ายภาพบรรยากาศบนเขาใหญ่จนแบตกล้อง Fuji XE3 หมดเกลี้ยง…แบตมือถือก็ใกล้หมด จึงตัดสินใจลงจากเขาใหญ่ทางเดิม ดิ่งตรงเดินทางกลับกรุงเทพฯ ถึงบ้านก่อนเวลา 1 ทุ่มแบบสบายๆ ก้มดูกิโลเมตรสะสมที่เซ็ททริปไว้ ใช้ไป 324 กม.พอดี น้ำมันในถังยังเหลืออีกเล็กน้อย ใช้เงินทั้งหมดไปแค่ 300 บาท ขณะที่เมมโมรี่กล้องผมได้ภาพถูกใจกลับมามากมาย ถือว่าปิดจ๊อบ One Day Trip ดังใจกับระยะทางไม่ไกลที่รถเล็กๆอย่าง C125 ตอบโจทย์การชิลคนเดียวได้พอเหมาะ…
…ทว่า…ฝนกำลังลงหนัก ชนบทเริ่มสวยงาม …คราวหน้าอาจจะต้องยกขึ้น “รถไฟ” ไปขี่เที่ยวเมืองไกลอย่างอุบลราชธานีดูบ้างแล้ว…ไว้ไปกันด้วยอีกนะ ไอ้แดง!!