“รอยัล เอนฟิลด์ ทวินส์ : ตามรอยพ่อ ควบสองล้อ สู่บางปะกง”

“รอยัล เอนฟิลด์ ทวินส์ : ตามรอยพ่อ ควบสองล้อ สู่บางปะกง”

รื่อง : Hey Joe
ภาพ : Royal Enfiled Thailand ,พี่โรจน์ เฉาก๊วย จำนาญศิลป์


จนถึงตอนนี้ คงต้องยอมรับกันจริงๆแล้วว่า Royal Enfiled ได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำตลาดรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลางระดับโลกอย่างไม่มีข้อแม้ เพราะช่วง 2 ปีที่ผ่านมา พวกเขาได้เติบโตแบบก้าวกระโดด สามารถขยายขนาดตลาดรวมทั้งขยายเครือข่ายผู้จำหน่ายขึ้นอย่างทวีคูณ โดยเฉพาะการมาถึงของรถมอเตอร์ไซค์ “รอยัล เอนฟิลด์ ทวิน” (Royal Enfield Twins) ทั้ง อินเตอร์ เซปเตอร์ 650 (Interceptor 650) และคอนติเนนทัล จีที 650 (Continental GT 650) ซึ่งใช้พื้นฐานเครื่องยนต์แบบเดียวกับขนาด 648 ซีซี. สองสูบเรียง ซึ่งขายดีทั่วโลก
รถทั้งสองรุ่นนี้ผมเคยทดสอบแล้วว่ามันให้สมรรถนะยอดเยี่ยม และข้อมูลที่รอยัล เอนฟิลด์ ไทยแลนด์ให้มาก็ระบุว่า ตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา พวกเขาได้รับการตอบอย่างดีจากนักบิดชาวไทย จนทำยอดขายสะสมไปแล้วทั้งหมดราว 2,000 คัน…และทริปนี้ถือว่าเป็นโอกาสดี ที่ผมได้กลับมาเดินทางร่วมกับ Twins อีกครั้ง บนทริปที่ใช้ชื่อว่า “ตามรอยพ่อ ควบสองล้อ สู่บางปะกง”



หลังจากออกสตาร์ทที่ The Nine Center Rama 9 ซึ่งผมเลือก Continental GT 650 สีขาวมาเป็นคู่มือ เนื่องจากระยะทางไม่ไกลมาก ไม่ค่อยห่วงเรื่องท่านั่งแบบคาเฟ่เรเซอร์  และมันก็คล่องแคล่ว เหมาะกับเส้นทางแบบนี้ โดย “พี่ยุทธ “มาแชลของ R.E  เลือกใช้ถนนคู่ขนานกาญจนาภิเษก จากนั้นเลี้ยวขวาเข้าถนนรามคำแหง ก่อนยิงตรงไปมีนบุรี และเข้าทางหลวง 304 มุ่งสู่ภาคตะวันออก
อย่างที่บอกด้วยขนาดความจุถังเชื้อเพลิง 12.5 ลิตร ของ อินเตอร์ เซปเตอร์ 650 (Interceptor 650) และคอนติเนนทัล จีที 650 (Continental GT 650) ทริปนี้ไม่ต้องแวะปั๊ม เพราะระยะทางไม่เกิน 70 กม. สามารถขี่รวดเดียวตรงไป อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี อย่างสบายๆ แบบเหงื่อยังไม่ทันออกด้วยซ้ำ
ณ อาทิตย์ธารา รีสอร์ท  ที่เป็น “จุดหมาย” ของทริปนี้  ผมพบ “คุณเกษม เกาจารี” ผู้จัดการการตลาดและประชาสัมพันธ์จาก Royal Enfield Thailand มารอต้อนรับ พร้อม “คุณอ๊าร์ต- หม่อมหลวง อภิชิต วุฒิชัย” เจ้าของรีสอร์ท ผู้ที่กำลังนำแนวคิดเกษตรทฤษฏีใหม่ “โคก หนอง นา โมเดล” ซึ่งหนึ่งในโครงการพระราชดำริของในหลวง ร.9 มาปรับใช้เพื่อการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรกรรมอย่างยั่งยืนและเหมาะสมตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง




จากนั้นผมกับเพื่อนๆสื่อก็ได้รับประสบการณ์การล่องเรือไปชมวิถีชีวิตริมน้ำ รวมทั้งไปลอยลำเรือชมทิวทัศน์บริเวณ “ปากน้ำโยทะกา” ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ “แม่น้ำนครนายก” มารวมกับ “แม่น้ำปราจีนบุรี” กลายเป็น “แม่น้ำบางปะกง”


ในช่วงเย็นของวันนั้น เราขึ้นจาก “ธารา” แล้วมายืนชม “พระอาทิตย์” ตกดิน ในบรรยากาศสดชื่นกลางทุ่งนาเขียวขจีและกว้างใหญ่สุดลูกหูสุดตาของ อ.บ้านสร้าง อันเป็นดินแดนที่จัดว่าอุดมสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย




เช้าวันต่อมา ผมเข็นตัวเองตื่นเช้าตอนตีห้า เพราะมีนัดหมายไปรวมตัวกับเพื่อนๆขี่รถฝ่าลมหนาว ไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกง ด้านตรงข้ามรีสอร์ท และก็ไม่ผิดหวังเพราะเราได้ภาพโคตรสวยของ Royal Enfield Twins ในฉากหลังพระอาทิตย์แตะขอบฟ้า โดยฝีมือการถ่ายภาพอันยอดเยี่ยมของ พี่โรจน์ ตากล้องนักเดินทางตัวฉกาจที่ว่างมาร่วมทริปนี้ด้วย…

ท้ายสุดแล้ว ทริป “รอยัล เอนฟิลด์ ทวินส์ : ตามรอยพ่อ ควบสองล้อ สู่บางปะกง” รวมระยะชิลๆ ไป-กลับ 140 กิโลเมตร จบลงอย่างประทับใจเมื่อพวกเรากลับสู่เมืองมาจอดรถ ณ จุดเริ่ม และแน่นอน นอกจากความรื่นรมย์ของการเดินทาง ความงามของชนบทริมน้ำบางปะกง  ผมยังคงรู้สึกเหมือนคราวแรกที่ได้ขี่ “รอยัล เอนฟิลด์ ทวินส์” นั่นคือทั้งสองรุ่นนี้เป็นรถที่ “เหมาะมือ”  ขับขี่ง่าย สมรรถนะดี ไม่แปลกที่จะขายดีทั่วโลก…ที่สำคัญไปไหนๆดึงดูดสายตาได้ดีชะมัด…แหม่ ก็มันหล่อ!!