ภาพ : ไทยยามาฮ่ามอเตอร์
เคยไปเที่ยวอุ้มผางกันมั้ยครับ?
ก่อนสงกรานต์ปีนี้ แอดมินโย ได้รับคำเชิญในฐานะตัวแทนนิตยสารโมโตครอส เดินทางไกล 1,219 โค้งสู่ “อุ้มผาง” โดยมีปลายทางที่ “โรงพยาบาลอุ้มผาง” อันห่างไกลสุดชายขอบแผ่นดินไทยของ จ.ตาก
คำอธิบายคร่าวๆจาก “ไทยยามาฮ่ามอเตอร์” ซึ่งเป็นผู้เชิญให้ร่วมเดินทาง คืออยากให้ไปสังเกตการณ์เรื่องราวสำคัญที่จะเกิดขึ้นที่นั่นและอยากชวนคณะสื่อมวลชนเป็น “สะพานบุญ” ส่งต่อเรื่องราวนี้ออกสู่สังคม ซึ่งทริปนี้ไทยยามาฮ่าเองก็เตรียมกิจกรรมไปร่วมกับทางรพ.อุ้มผางในโอกาสครบรอบ 60ปี ไทยยามาฮ่า มอเตอร์ด้วย
จากมุมของแอดมินโย ทริปนี้ก็คือ “โอกาส” การสะท้อนข่าวคราวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกลับมาสู่การรับรู้ของชาวสองล้อที่ติดตามเพจนิตยสารโมโตครอสนี่เองครับส่วนเรื่องของการหย่อนใจที่เป็นเหมือนของแถมก็มีโอกาสขึ้นไปชมดอยหัวหมด น้ำตกทีลอซู และ ล่องเรือต้นน้ำกลอง ซึ่งเป็นไอไลต์ของอุ้มผางจนครบถ้วน…
อย่างไรก็ตาม อุ้มผางกลางป่าตะวันตกในต้นเดือนเมษายน ท้าทายผู้มาเยือนการเดินทางด้วยความมึนเมากับถนนพันโค้ง ต่อด้วยอากาศแห้งแล้งร้อนจัด แล้วกระแทกซ้ำด้วยคุณภาพอากาศติดลบ หายใจแสบปอดด้วยควันไฟป่าทุกๆนาที
…แต่…เรื่องราวดีๆกับสิ่งที่ได้พบและสัมผัส กลับทำให้อุปสรรคทุกอย่างดูกลายเป็นเรื่องเล็กๆไปเลย!!
ที่อุ้มผางใน 3 วันนั้น พบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนความจริงของการ “รวมพลัง” ช่วยเหลือผู้ยากไร้ ผู้ด้อยโอกาส ทั้งคนไทยและคนไร้สัญชาติชายขอบแผ่นดินไทย ให้มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างเท่าเทียม ผ่านทางโครงการดีๆจากกลุ่มคนที่เสียสละทำเพื่อคนอื่นอย่างน่าชื่นชมที่สุดครับ
ที่นั่น เราได้พบนายแพทย์อนุชา เศรษฐเสถียร อดีตเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ผู้ผลักดันให้ระบบการแพทย์ฉุกเฉินกลายเป็นสิ่งที่คนทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ ทำให้เกิดเคสที่สามารถให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยได้ทันท่วงที แม้จะอยู่ในพื้นที่ห่างไกล…อย่างในอุ้มผางก็เคยมีการช่วยเหลือฉุกเฉินได้สำเร็จโดยใช้รถ 4X4 และเฮลิคอปเตอร์มาแล้ว..
ได้พบ “นักบุญแห่งอุ้มผาง” นายแพทย์วรวิทย์ ตันติวัฒนทรัพย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง ผู้ริเริ่มโครงการดีๆมากมายเพื่อชาวอุ้มผางอย่างต่อเนื่องยาวนาน หลายคนอาจจะเคยได้ยินโครงการรับบริจาคยาเก่าที่ยังไม่หมดอายุของ รพ.อุ้มผาง เพื่อมาคัดแยกให้นำกลับมาใช้เพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนยา ซึ่งปัจจุบัน มูลนิธิโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อมนุษยธรรมก็กำลังเดินหน้าโครงการกองทุนช่วยเหลือ “แม่และเด็กอ่อนยากไร้” ที่นอกจากคนไทยแล้ว ผู้ป่วยส่วนใหญ่ก็มาจากกลุ่มชาติพันธ์ุพื้นที่ชายแดนซึ่งระบบผดุงครรภ์ล้าหลัง คุณแม่เหล่านี้จะได้รับการช่วยเหลือโดยไม่แบ่งแยกเชื้อชาติชนชาติ…ระหว่างที่เราอยู่ที่โรงพยาบาลอุ้มผางก็พบกลุ่มแม่ๆและเด็กๆรอรับบริการมากมาย…จนแอดฯโยอดคิดไม่ได้ว่าโรงพยาบาลเล็กๆกลางป่าแบบนี้ จะเอางบประมาณที่ไหนมารองรับการช่วยเหลือที่ขยายขอบเขตขนาดนี้ได้นะ..
ที่อุ้มผาง เรายังพบความมหัศจรรย์ของโครงการดีๆที่ ศาสตราจารย์นายแพทย์กีรติ เจริญชลวานิช ประธาน “มูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อ ต่อชีวิต” เดินหน้านำทีมศัลยแพทย์ชั้นยอดของประเทศและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านข้อและกระดูก ลงมือทำโครงการ “ศัลย์ฯสร้างข้อ ต่อชีวิต ครั้งที่ 21” มาผ่าตัดให้ผู้ป่วยข้อเสื่อมที่โรงพยาบาลชายขอบของ จ.ตาก พร้อมๆกัน 4 แห่ง ได้แก่ รพ.ท่าสองยาง, รพ.แม่ระมาด, รพ.พบพระ และ รพ.อุ้มผาง พร้อมกับสนับสนุนเงินทุนให้กับโรงพยาบาลเหล่านี้ไปในขณะเดียวกัน
ในเช้าที่แอดมินโยและคณะสื่อฯไปร่วมสังเกตการณ์ผู้ป่วยที่ลุกขึ้นมาเข้าร่วมทำกิจกรรม Happy Walk ทดลองเดินครั้งแรก คือการยืนยันความน่าทึ่งของโครงการศัลย์ฯสร้างข้อ ต่อชีวิตที่บรรลุความสำเร็จในการผ่าตัดให้ผู้ป่วยข้อเสื่อมได้รวมกันกว่า 80 คน มอบอิสระในการใช้ชีวิตให้ผู้ป่วยยากไร้ในพื้นที่ห่างไกลที่จะสามารถกลับมาเดินได้ใกล้เคียงคนปกติ(อยากบอกว่าการจะได้คิวผ่าตัดกับแพทย์ระดับชั้นนำแบบนี้ยากมากๆปกติต้องรอคิวหลายปี)
และแน่นอนทริปนี้ เราเดินทางร่วมกับคณะของบริษัทไทยยามาฮ่ามอเตอร์ ที่นำโดย “พี่หมู” คุณพงศธร เอื้อมงคลชัย บอสใหญ่ที่เบื้องลึกแล้วเป็นผู้ที่เห็นคุณค่าของการสนับสนุนโครงการดีๆมากมาย คราวนี้พี่หมูทั้งบริจาคให้โครงการด้วยทุนส่วนตัว รวมถึงเป็นตัวแทนชาวยามาฮ่ามอบทุนสนับสนุนและรถจักรยานยนต์ยามาฮ่าให้กับมูลนิธิโรงพยาบาลอุ้มผาง มูลค่ารวมถึง 400,000 บาท โดยก่อนนี้ยามาฮ่าเองก็มีการร่วมมือกับลูกค้าผู้ขับขี่ยามาฮ่าร่วมสนับสนุนโครงการศัลย์ฯสร้างข้อ ต่อชีวิตมาแล้วด้วย…
เขียนมายืดยาวแบบนี้ ความจริงยังไม่ถึงครึ่งของสิ่งดีๆที่ได้พบเห็นในอุ้มผางครั้งนี้เลยครับ โดยเฉพาะเรื่อง “คนที่มีโอกาสดีกว่า มอบโอกาสให้คนที่ด้อยกว่า” ที่ไม่ได้ทำกันแค่ผิวเผิน แต่สร้างระบบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในระดับจริงจัง-ต่อเนื่องมีแบบแผนชัดเจน เป็นพลังความดีที่จับต้องได้ รับรู้ได้ทันที
ลองคิดดูง่ายๆว่า ชาวบ้าน ชาวป่า กลุ่มชาติพันธุ์ยากจนแถวชายขอบชายแดนที่ไร้สัญญาติ หากพวกเขาเจ็บไข้ได้ป่วยร้ายแรง แล้วไม่มีสิทธิ์เข้าถึงบริการทางการแพทย์ใดๆเลย มันจะเป็นเรื่องน่าหดหู่ขนาดไหน…
หากใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วอยากมีส่วนร่วมช่วยเหลือผ่านโครงการที่กล่าวมา สามารถดูรายละเอียดที่ท้ายบทความนี้ได้เลยครับ
ร่วมบริจาคให้มูลนิธิโรงพยาบาลอุ้มผางเพื่อมนุษยธรรม ได้ที่
ธนาคารออมสิน สาขาอุ้มผาง เลขที่บัญชี 020133388387 ชื่อบัญชี เงินบำรุง รพ.อุ้มผาง (เงินบริจาคเพื่อซื้อยาและเวชภัณฑ์) (ใบเสร็จรับเงินสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้)
ธนาคารออมสิน สาขาอุ้มผาง เลขที่บัญชี 020051018644 ชื่อบัญชี “กองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ รพ.อุ้มผาง” (มีใบตอบรับเงินบริจาค ไม่สามารถลดหย่อนภาษีได้)
หรือติดต่อ https://www.facebook.com/umh.foudation?mibextid=JRoKGi
หรือเป็นส่วนหนึ่งของทีมแพทย์มูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อ ต่อชีวิต
ร่วมบริจาคตามกำลังทรัพย์
ที่ ธ.ไทยพาณิชย์ สาขาศิริราช
ชื่อบัญชี มูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิต
บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 0 1 6 – 4 4 4 4 3 3 – 2
(หากต้องการใช้สิทธิ์ลดหย่อนในทางภาษี เพียงแจ้งความประสงค์ใน Application ข้อมูลการบริจาคจะถูกบันทึกในระบบ e-Donation ภายใน 2 วันทำการถัดไป หรือ ส่งหลักฐานการโอนเงินพร้อม ชื่อ-นามสกุล-ที่อยู่ พร้อมเลขบัตรประชาชน 13 หลัก มาที่
• Line ID: @njffoundation หรือ
• E-mail: njfhappywalk2@gmail.com
โทร. 02-066-2771
มูลนิธิศัลย์ฯสร้างข้อต่อชีวิต https://www.facebook.com/newjointforlife?mibextid=JRoKGi