เรื่อง : 13pM
ภาพ : Takumi Gun
…เท่ โดดเด่น สไตล์แตกต่าง เห็นครั้งเดียวจำได้ทันที! นาทีนี้ คงไม่มีสกู๊ตเตอร์รุ่นไหนจะชัดเจนเท่า Vespa GTV 300 HPE เจ้าของฉายา “เวสป้าไฟตะเกียง” ที่เปิดตัวขายในบ้านเรามาพักใหญ่ และกำลังไปได้สวยซะด้วย
…ในเมื่อเป็นหนึ่งในลิสต์ที่ “ต้องรีวิว” แบบนี้ เราจึงเอามาลองขี่แบบ “เต็มทริป” และหยิบ 6 ประเด็นควรทราบ!!..มาเล่า..ดังนี้!!
1.ดีไซน์
GTV 300 HPE สวยครับ..พูดได้เต็มปากเต็มคำ!..นี่เป็นตัวอย่างความสำเร็จของการสานต่อดีไซน์ที่ผสมผสานความทันสมัยและความคลาสสิกให้ออกมาดู “แตกต่าง” ได้ลงตัวทีเดียว …จากพื้นฐานตัวถังเหล็กกับดีไซน์โค้งมนและเหลี่ยมมุมสวยๆส่วนตัวผมเห็นแล้วนึกถึงเวสป้าคลาสสิกรุ่นหนึ่งที่ “คุ้นตา” กันในบ้านเราอย่าง Vespa Faro Basso ปี 1956 ซึ่งก็คงมีส่วนส่งต่อแรงบันดาลใจมาถึง New Vespa อย่าง GTV 300 HPE ด้วยเช่นกัน …ไฟหน้าติดตั้งบนบังโคลนหน้าที่เรียกกันว่าไฟตะเกียง พร้อมชุดแฮนด์กว้างดูรวมๆแล้วเท่มาก รูปลักษณ์แบบนี้ส่งผลต่อการจดจำได้ทันทีจากผู้พบเห็น
สำหรับ GTV300 HPE มีจุดเด่น FlyScreen ตรงหัวรถเข้าเซ็ตกับ Racing Cover ครอบเบาะลงไปให้กลายเป็นเบาะเดี่ยวตูดมด…อีกจุดที่ผมชอบมากคือขาตั้งข้างซึ่งเวสป้าเขาวางตำแหน่งไว้ด้านหน้า จอดรถแล้วเตะใช้งานสะดวก องศาความเอียงดี ไม่ต้องห่วงว่าจอดแล้วจะล้มง่ายๆ ขาตั้งคู่ก็ยกง่ายเช่นกัน…
2.มิติ
สัมผัสแรก รู้สึกชัดว่าตัวรถถูกออกแบบมาให้มีขนาด “คอมแพ็ค” ตามกระแสของสกู๊ตเตอร์คลาส 300 ยุคปัจจุบันที่แข่งขันกันทำให้เล็กลงมาแทบทุกค่าย ระยะฐานล้อเพียง 1,375 มม. ความสูงเบาะ 800 มม. ขึ้นนั่งแล้วไม่ถึงกับเขย่งมากนัก แถมตรงหัวเบาะดีไซน์มาให้มีแคบ ชุดแฮนด์ให้ฟีลลิ่งต่างจากนิวเวสป้าทั่วไป แฮนด์ช่วงกว้าง 775 มม. สำหรับผมไม่แคบและไม่กว้าง แต่เป็นช่วงที่ “พอเหมาะ” ในการขับขี่คอนโทรลรถที่มีน้ำหนัก 163 กก.อย่างนี้ให้อยู่มือทุกๆสภาพการวิ่ง(ถ้าแฮนด์แคบกว่านี้ บอกเลยว่าขี่ยากกว่าเยอะ)
3.ขุมพลัง HPE
ต้นจัด ปลายไหล…แต่วิ่งทะลุท็อปสปีด 129 กม./ชม. แล้วรอบตัด! นั่นคือตัวตนจริงๆของเครื่องยนต์ HPE สูบเดี่ยว 4 จังหวะ 4 วาล์ว หม้อน้ำ ขับสายพาน CVT บนความจุกระบอกสูบ 278.3 ซีซี. สิ่งที่สอดคล้องกับความจัดจ้านของแรงบิดระดับ 26 นิวตันเมตร (ที่ 5,250 รอบ/นาที) คือการมีระบบ Anti-Slip Regulation (ASR) ที่ทำงานแบบเดียวกับแทรคชั่นคอนโทรล..คำตอบง่ายๆในด้านขุมพลังหลังจากวิ่งเต็มทริปคือ ขี่สนุก กินน้ำมันพอรับได้ (อยู่ในเรท 30 กม./ลิตร จากความจุถังเชื้อเพลิง 8.5 ลิตร)
เรื่องความเร็วปลาย ว่ากันตรงๆถ้าเป็นสายซิ่งก็คงอยู่เดิมๆยาก อันนี้ก็เข้าใจกันแหละว่าต้องไปทำอะไรเพิ่ม เพราะพื้นฐานเดิมๆของรถก็รองรับอยู่แล้ว
4.ช่วงล่าง
อีกหนึ่งประเด็นที่อยากบอกว่าฟีลลิ่งไม่เหมือนสกู๊ตเตอร์รุ่นใดๆ กล่าวคือตลอดทั้งทริปที่วิ่งเทสท์ ผมพบว่าระบบช่วงล่างโช้คหน้าแขนเดี่ยวพร้อมคอยล์สปริง โช้คหลังไฮดรอลิกคู่ ปรับพรีโหลดได้ 4 ระดับ ให้ฟีลลิ่งโช้คหน้าในแบบต้องสร้างความคุ้นเคยกันอยู่พักใหญ่ เพราะอาการหน้าส่ายมาชัด แต่ฟีลลิ่งในการบัมพ์หากเจอหลุมก็พบว่าซับแรงได้ดี การเลี้ยวโค้งเอาตัวรอดได้ แต่ยังกระชับน้อยกว่าคลาส300หลายรุ่น …ในจุดนี้หากผมเป็นเจ้าของ GTV เองก็จะนำไปเซ็ทอัพหรืออัพเกรดชุดหน้าให้หนึบกว่านี้ ซึ่งก็คงทำได้ไม่ยากครับ
5. ฟังก์ชัน
อย่างแรกเลย ระบบ Keyless System ใช้งานง่าย เป็นจุดที่เอาไว้กดเปิดเก๊ะหน้าด้วย ส่วนปุ่มเปิดเบาะทำแยกไว้ให้ใต้ซอกคอ …จุดที่ต้องทำความเข้าใจเพิ่มคือ หน้าจอแสดงผลแบบ LCD ใช้การดูโหมดด้วยการกดคลิกเดียวเข้าไปเซ็ตติ้งแบบกว้าง และกดแบบดูละเอียดด้วยการดับเบิลคลิก เพื่อเข้าไปเซ็ตทริป เซ็ตค่าเฉลี่ยการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิง เช็คกำลังไฟแบตเตอรี่ และอื่นๆครบครัน และจอในรถรุ่นนี้สามารถ Connect เข้ากับระบบ Vespa MIA (ต้องซื้อเป็นอุปกรณ์เสริม)
6.บทสรุป
แน่นอนว่าเป็นคลาส 300 แถวหน้าทั้งที องค์ประกอบที่มีก็ครบถ้วน ระบบหยุดความเร็วแม่นยำและชัวร์ด้วยดิสก์เบรกหน้า-หลัง พร้อม ABS 2 ชาแนล วงล้อสวยงามเป็นล้ออะลูมิเนียมไดแคส ขอบ 12 ยางหน้า 120/70-12 ยางหลัง 130/70-12 เรื่องยางจากที่ลองเต็มทริปผมว่ายางเดิม Maxxis ที่ติดรถมายังไม่ประทับใจมากนัก เนื่องจากมีอาการให้รู้สึกในการขับขี่ช่วงที่เลี้ยวโค้งต่อเนื่อง (ตรงนี้คงแล้วแต่การใช้งานด้วย หลายคนใช้ในเมืองล้วนๆก็อาจจะอยู่ได้เลย) ส่วนพื้นที่ใต้เบาะจุเยอะสามารถใส่หมวกกันน็อกครึ่งใบทรงคลาสสิคได้พอดี 1 ใบและยังเหลือพื้นที่อีกพอสมควร… GTV 300 HPE ราคาเริ่มต้นที่ 232,900 บาท มีสองสีให้เล่นครับ เทา (Grey Titanio) และ เบจ (Beige Sabbia)
สุดท้ายผมว่ารถคันนี้เป็นเรื่องของเอกลักษณ์เวสป้า มีจุดเด่นชัดเจนไม่เหมือนใครและให้ออฟชันมาครบถ้วน ส่วนการที่ใครควรจะเลือกมาใช้นั้น…ถ้าชอบความต่างก็ต้อง GTV 300 HPE นี่แหละครับ…ตอบโจทย์!