ที่มา : https://www.bikeexif.com
ผู้สร้าง : Marnitz Venter
W650 ให้บล็อคเครื่อง 2 สูบเรียงที่ทรงเสน่ห์ตลอดกาล ไม่แปลกที่บรรดานักคัสตอมจะหยิบมันมาเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนใหญ่ก็ออกมาเจ๋งๆทั้งสิ้น และนี่คือผลงานล่าสุด HARDTAIL BOBBER โดยฝีมือเจ้าของและผู้สร้าง “Marnitz Venter” ซึ่งเป็นยอดฝีมือที่ฝังตัวอยู่ โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้โน่นเลย
ความรักของ Marnitz ที่มีต่อรถในสไตล์วินเทจนั้นลึกซึ้ง เขามี BSA และ Triumph ทรงคลาสสิกสองสามคันในโรงรถ และยังดูแล Old Skool Trading เว็บไซต์ขายอะไหล่และเครื่องแต่งกายวินเทจ… งานสร้างล่าสุดของ Marnitz เป็น Triumph Bobber ที่คว้าเหรียญทองในงานคัสตอมโชว์ Lightning Bolt เมืองเคปทาวน์เมื่อปลายปีที่แล้ว ….จนกระทั่งเขาเห็น Kawasaki W650 ที่ขึ้นงานยังไม่เสร็จวางอยู่ในมุมหนึ่งของร้าน V Custom Cycles …โปรเจกต์นี้จึงเริ่มต้น!!
ด้วยภาพรวม W650 HARDTAIL BOBBER คันนี้ใช้เครื่องยนต์ ,กระปุกเกียร์ ,คาร์บูฯ และระบบไฟฟ้าพื้นฐานจาก W650 รุ่นปี 1999 แต่องค์ประกอบส่วนอื่นๆล้วนเป็นการหยิบ-โยก-ย้าย จากที่อื่นมาแมตช์กัน
เริ่มที่ “เมนเฟรม” หลังจากลองวัดขนาดให้พอเหมาะกับเครื่องยนต์ไซส์ใกล้เคียง Sportster ยอดชาย Marnitz ก็ตัดสินใจสั่งเฟรมแบบ custom hardtail จาก Kraft Tech Inc. ในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นธุระจัดหาเฟรมสำหรับรถ Sportster ส่งข้ามทวีปมาให้ Marnitz ดัดแปลงเพื่อใช้เป็นแกนหลักการปั้นงาน
งานเฟรมเดินหน้าด้วยการตัดแท่นยึดเครื่องยนต์เดิมๆออกไป แล้วสร้างชุดขายึดเครื่องยนต์ขึ้นมาเอง ด้านหลังของเฟรมเดิมมีการชดเชยเพื่อรองรับสายพานขับของ Harley มีการแก้ไขให้รองรับการเป็นรถขับโซ่ของ W650
Marnitz เสาะหาชุดหน้า ซึ่งเน้นที่ “โช้คหน้า” และ “แผงคอ” จาก Sportster เก่าๆ(ที่เกิดอุบัติเหตุส่วนอื่นเสียหาย) จับมายืดดัดให้ตรง จากนั้นปาดส่วนเกินอื่นๆออก เช่น ขายึดคาลิเปอร์ เสร็จแล้วใส่ครอบกระบอกโช้คจาก Lowbrow Customs ให้ดู “ดำ” เนียนตาเป็นชุดเดียวกัน
ลงมาที่ล้ออลูมิเนียมขนาด 18 นิ้ว พร้อมซี่สแตนเลส มีข้อสังเกตที่ดุมแบบ “ดรัมเบรก” มาจากรถสปอร์ตคลาสสิกยามาฮ่า …ด้านหน้าไม่ทราบที่มา แต่ด้านหลังมาจากสุดหล่อ Yamaha RD350 โดยดุมล้อด้านหลังมีการโมดิฟายเล็กน้อยเพื่อให้การจัดตำแหน่งสเตอร์หลังได้อย่างลงตัว
ยางที่รัดมากับวงล้อใช้Shinko E270 ด้วยเหตุผลว่ามันเป็น “ดอกยางแบบวินเทจ” เพียงดอกเดียวที่สามารถหาได้ในระหว่างโปรเจกต์นี้และมันก็ดูไปกันได้สวยกับภาพรวมของรถ
ถังเชื้อเพลิงเอามาจาก Honda CB200 แต่มีการปรับทรงให้แคบและสั้นลง โดยตั้งใจให้มีที่ว่างด้านล่างสำหรับคอยล์จุดระเบิดนอกจากนี้ยังมี Daytona speedo ติดที่ด้านขวาและแผงไฟแสดงสถานะ LED ฝังอยู่ด้านบน
ด้วยแนวทางที่ตั้งใจให้ตัวถังออกแนว minimal เรียวแคบ จึงมีช่องพิเศษซ่อนอยู่ใต้เบาะนั่งสำหรับเก็บสายไฟและสวิตซ์บางตัว
ขณะที่บังโคลนหลังเหลาให้ “บาง” จากนั้นส่งให้ Dion Korkie รับหน้าที่จัดการ “เบาะอานม้า” สไตล์ Bobber หนาๆ และทำกระเป๋าเครื่องมือเข้าชุดกันติดตั้งไว้ตรงด้านล่างด้วย
งานสร้าง “ทำมือ” ยังไม่จบ เพราะยังมีท่อไอเสียสแตนเลสทำขึ้นเองด้วยมือ ขยายไปถึงบังโคลนหลังสแตนเลส ,ขายึดยึดแบตเตอรี่ รวมทั้งขยายฝาครอบสเตอร์หน้าด้วยการเชื่อมและขึ้นรูปอลูมิเนียมบางส่วนให้สวยงามเข้ากับตัวบังโซ่
ชุดแฮนด์อย่างเฟี้ยวทรง Mini Ape Hanger เป็นพาร์ทที่ขึ้นงานเองเช่นกัน ส่วนอะไหล่อีกหลายชิ้น ไม่ว่าจะเป็น ปะกับคันเร่ง สวิตซ์ คาร์บูฯ และไส้กรองอากาศมาจาก Motor Rock ในญี่ปุ่น ขณะที่ปลอกแฮนด์ มือเบรก กระจกมองข้าง และไฟหน้าแบบวินเทจ ยกขบวนจาก Lowbrow Customs ทั้งนี้ Marnitz ได้ติดตั้งคู่ไฟเลี้ยว LED ไว้ใต้ไฟหน้า และอีกชุดที่ด้านหลังพร้อมไฟท้ายของ Prism Supply Company
“ท่านั่ง” ยังคงลุคหล่อๆยืดขาแบบ forward-mounted foot controls คันเบรกและคันเกียร์โยงเป็นชิ้นงานที่สร้างตัดยึดขึ้นมาให้ฟีลลิ่งที่ลงตัวกับภาพรวมของรถ
อีกหนึ่งงานที่ต้องละเอียดไม่แพ้กันคือ “งานสี” Kicker Paints รับผิดชอบงานสีอันน่าทึ่ง ซึ่งถ้าออกไปขี่รถคันนี้กลางแดด มันจะเปลี่ยนจากสีดำเป็นสีทองเป็นสีเขียวให้ชมเพลินตาทีเดียว
อ้อสัญลักษณ์คาวาซากิที่เห็น เป็นการใช้เทคนิค พิมพ์ 3 มิติลงบนถังน้ำมันเลยนะ…เจ๋งจนหยดสุดท้ายเลย!!