ทริปนี้เดินทางโหดแบบไม่แคร์ซีซี. เมื่อฮอนด้าขอท้าพิสูจน์สมรรถนะความอึดแห่งวงการมอเตอร์ไซค์ กับ “All New Honda Wave 125i เชื่อมั่น พิชิต 10 ดอย” ใหม่ ที่ใครๆต่างก็เคยโดนเจ้าถิ่นแซงมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นทางดิน ทางดำ ทางลูกรัง หรือแม้แต่ทางโคลน.. ซึ่งเราพร้อมจะสนองให้แบบหมดเปลือกเพื่อแฟนนิตยสารโมโตครอสกันอีกครั้ง.. บอกเลยว่าทางจะชันแค่ไหนผมและ Wave 125i ใหม่ไม่มีกลัว!
เตรียมตัวก่อนเดินทาง..
ก้าวเท้าลงจากสนามบินเชียงใหม่ เรามุ่งสู่ศูนย์ฝึกขับขี่ปลอดภัยของฮอนด้าจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปรับรถคู่หูประจำทริปนี้ พร้อมบรีฟข้อมูลเส้นทางให้แน่นปึ้ก! โดยครูฝึกและเจ้าหน้าที่ชำนาญการของฮอนด้าโดยตรง ..นอกจากนี้ยังมีทีมงานจากไทยฮอนด้าคอยดูแลประกบติด หวังให้ข้อมูลรถยอดฮิตคันนี้อยู่ไม่ห่าง(คงไม่ได้ระแวงเราทำรถเค้าพังเนอะ)
โดยเส้นทางในทริปนี้เป็นเส้นทางขับขี่ทั้งสิ้นรวม 3 วัน 2 คืน ระยะทางกว่า 700 กิโลเมตรพร้อมฝ่าทางคดเคี้ยวอีกกว่า 4,000 โค้ง! เพื่อการเช็คอินที่จุดมุ่งหมายรวม 10 ยอดดอย เชียงใหม่-แม่ฮ่องสอน ได้แก่ ดอยปุย, ดอยสุเทพ, ม่อนวิวงาม(ม่อนแจ่ม), ดอยกิ่วลม(ห้วยน้ำดัง), ปาย, ดอยหยุนไหล, ดอยกิ่วลม(ปางมะผ้า), ดอยกองมู, ดอยผาบ่อง, ดอยแม่อูคอ และดอยอินทนนท์.. แค่ได้ยินก็น้ำลายสอ อยากลองเอา Wave 125i ลุยโค้งโหดๆแบบนี้สักครั้งมานานแล้ว..
สตาร์ทยัวร์เอ็นจิ้น..
เสียงเครื่องยนต์ 125i ใหม่ สตาร์ทขึ้นมาเป็นจังหวะเดียวกันจากเพื่อนๆสื่อหลายสำนัก เราออกตัวอย่างเนิบๆจากตัวเมืองเชียงใหม่และเริ่มไต่ขึ้นหมายแรก.. “ดอยปุย” ในช่วงบ่าย.. แม้จะมีลมเย็นๆพัดมาประทะร่างกายบ้าง แต่แดดตอนกลางวันของเชียงใหม่นั้นแสบสันไม่ต่างจากถนนของ กทม. เลย..
เหมือนเป็นการวอร์มอัพก่อนทริปจริง.. เราขับขี่ถึงดอยปุยด้วยเวลาอันรวดเร็ว เพื่อมาเจอกับน้องๆหมู่บ้านม้งที่ใส่ชุดประจำเผ่ามายืนต้อนรับคณะเดินทางของฮอนด้า ผมมีโอกาสพูดคุยกับเด็กๆนิดหน่อย ก่อนที่เราต้องออกจากจุดแรก แวะเช็คอินที่วัดพระธาตุดอยสุเทพ ก่อนมุ่งสู่ม่อนวิวงาม ในพื้นที่ อ.ม่อนแจ่ม ในช่วงหัวค่ำ.. แม้จะไม่ได้ชมวิวอะไรเลย แต่การได้คุยเล่นกับเด็กๆ ก็ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราได้ผ่อนคลายไปกับความสดใสกับความไร้เดียงสาอยู่เหมือนกัน
วิว 70% ของทริปคือปลายโค้ง
จากวอร์มอัพของ 3 ดอยในวันแรก.. วันที่ 2 เริ่มจริงจังกับการหวดคันเร่งตั้งแต่เช้ามืดยันค่ำ ..ความชันของม่อนแจ่มเรียกได้ว่าเด็กๆ เมื่อเราเข้าสู่พื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน บ้านใกล้เรือนเคียงของจังหวัดเชียงใหม่ อันเลื่องชื่อลือชาเรื่องทางโค้งจำนวนหลายพันโค้ง..
เพียงวันเดียวเราหวดทะลุ 6 ดอยในหลากหลายเส้นทาง.. เป็นการทดสอบสมรรถนะรถอย่างเข้มข้นชนิดที่ผมต้องมองหน้าทีมงานฮอนด้าว่า “พี่จะไม่ให้ผมละสายตาจากถนนเลยใช่ไหมครับ?”.. ดอยแล้วดอยเล่าผ่านไป เราก็ยังไม่เห็นวิวของยอดเขา รู้เพียงแค่ทีมงานที่ประกาศให้มารวมตัวถ่ายรูปแล้วเดินทางต่อ.. เราไม่เคยเดินคันเร่งเกินตำแหน่งเกียร์ 2 สลับ 1 ตามสถานการณ์ความชัน.. ต้องยอมรับว่าฟีลลิ่งการสับเกียร์ของเจ้า Wave 125i ใหม่คันนี้เร้าใจ “แกร๊ก.. บรื้นน” วนไป 4 เกียร์แบบออโต้คลัทช์สุดคลาสสิก.. สมรรถนะของรถครอบครัวคันเล็กๆนี้ก็พาผมมาถึง “วัดพระธาตุดอยกองมู” จุดหมายก่อนจบวันที่ 2 แบบครบ 32.. ในบรรยากาศที่เปี่ยมไปด้วยกลิ่นอายของศิลปะล้านนาแห่งเมืองสามหมอก
สมรรถนะ “สมความเชื่อมัน”
เครื่องยนต์ใหม่ของ All New Wave 125i นั้นเดินรอบสูงได้ “เนียนมากขึ้น” จากการได้รับระบบหล่อลื่น “Piston Oil Jet” ที่จะฉีดน้ำมันเครื่องไปหล่อลื่นใต้หัวสูบ แบบเดียวกับที่อยู่ในคลาส 160 ซีซี.. พร้อมระบายความร้อนของหัวลูกสูบไปในตัว อีกทั้งประหยัดน้ำมันได้เหลือๆ เพราะเราเติมน้ำมันไปแค่ “ถังเดียว” เท่านั้น (เดินรอบสูงตลอดการไต่เขา) ..ลองกดท็อปสปีดกันแล้วได้ไม่ต่ำ 120++ นะจ๊ะ ..คิดว่าถ้าไม่ได้นำมาหวดสไตล์นักบิด Moto3 อย่างที่เราทำในทริปนี้ก็น่าจะใช้งานได้คงทนยาวนานทีเดียว..
ที่ต้องชื่นชมจริงๆคือเรื่อง “ระบบกันสะเทือนดีมาก” สำหรับรถเดิมโรงงาน.. โดยฮอนด้าได้เพิ่มระยะยุบหน้า-หลังของโช้คอัพมาที่ด้านหน้า 11% และด้านหลัง 5.8% ซับแรงกระแทกได้ดีขึ้น พร้อมเซ็ตอัพความหนืดใหม่ให้แข็งขึ้นเล็กน้อยซึ่งส่งผลอย่างมากต่อการขับขี่ โดยเฉพาะในลักษณะที่มีการพับโค้งต่อเนื่องได้อย่าง “ไม่โหย่ง” เหมือนในรุ่นก่อนหน้านี้
จบทริปแบบ “สูงและหนาวที่สุดในประเทศไทย”
ฮอนด้าเข้าใจเลือกคอนเซปต์ของทริป 10 ดอยนี้ด้วยการพาคณะสื่อมวลชนขี่รถมาจบทริปที่ดอยอินทนนท์ ณ จุดสูงสุดแดนสยาม ซึ่งมีสภาพอากาศต่างไปอย่างชัดเจน.. ทั้งหมอก ทั้งหนาว และ “เปียก”
โชคดีที่ผมเองไหวตัวทัน คว้าเสื้อกันหนาวสำรอง พร้อมอุปกรณ์ถ่ายเก็บบรรยากาศของดอยอินทนนท์ไว้ที่ช่องเก็บของใต้เบาะขนาด 17 ลิตร เมื่อสบโอกาสช่วงพักดื่มน้ำจึงถือโอกาสสวมใส่ชุดอุปกรณ์เพิ่มเติมได้ทันที ทำให้ผมไม่ต้องทนหนาวมาก…
สุดท้าย เราก็ขับขี่เก็บภาพหมอกหนาๆกับรถ All New Honda Wave 125i จนหนำใจ และขับขี่ฝ่าถนนเปียก ถนนแห้ง พื้นทราย โค้งแคบ โค้งความเร็วสูง ขึ้นเขา ลงโคลน ข้ามลำห้วยได้อย่างมั่นใจ จนทำให้ผมนึกขึ้นได้ว่า ..รถครอบครัวแบบนี้ก็พาเรามาท่องเที่ยวได้ดีเหมือนกันนะ”
ต้องขอขอบคุณทางไทยฮอนด้าที่จัดกิจกรรมดีๆแบบนี้ ขอบคุณเจ้า All New Honda Wave 125i ที่พาผมตะลุยฝ่าขุนเขาแดนเหนือได้รอดปลอดภัยอวัยวะอยู่ครบ แถมมีฟังก์ชันดีๆที่ยังรู้สึกว่าลองใช้ได้ไม่เต็มที่อยู่มาก ..ไหนจะไฟหน้า LED ใหม่ ช่องเก็บของที่คอนโซลหน้า หรือกระทั่งเบาะนั่งกว้างขวางของเขาที่ยังขาดคนซ้อนมาร่วมทริปกับผมก็ตาม.. กับราคาเริ่มต้นแค่ 54,300 บาท ถึงว่าทำไมคนไทยชอบใช้กันจริง!