เริ่มตั้งแต่พื้นฐาน..
โดยสองคุณครูดีกรีแชมป์.. “ตั้น” เดชา ไกรศาสตร์ และ “เบน” ประสิทธิ์ ฮัลเกรน อาสาพาไปสัมผัสการประสบการณ์ขับขี่แบบ “ก้ำกึ่งทางเรียบ-ทางฝุ่น” มาทบทวนตำราการควบคุมรถ “ตั้งสติใหม่” เพราะการขับขี่รูปแบบ Flat Track นั้นต้องผสมผสานทุกทักษะที่เรามีในการขับขี่รถพอสมควร..
อบรมท่านั่งควบคุม ทำความเร็ว การเลี้ยว การเบรก ให้เหมาะสมกับพื้นผิวที่มีการยึดเกาะน้อยสไตล์ Flat Track พร้อมแนะนำเทคนิคการเลือกไลน์เข้าโค้ง-ทำความเร็ว-เปิดคันเร่งไปพอสมควร.. ถึงเวลาลงสนามจริงเจิมความรู้แล้ว..
ขับขี่ 2 Session จุกๆ
แบ่งเป็น 2 ช่วงใหญ่ๆ เพื่อพัฒนาการขับขี่ให้ถึงขีดสุด.. เราเริ่มขับขี่คลาส “เบบี๋” ใน Session แรกด้วยการแบ่งฝึก 3 รูปแบบง่ายๆ .. เข้าโค้งแคบ โค้งกว้าง และการทำความเร็ว ..หลังจากเสร็จสิ้นก็ถึงคราวประชุมวิเคราะห์จุดอ่อนที่ต้องแก้ไขของแต่ละคน รวมถึงแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อนำไปใช้พัฒนาการขับขี่ให้ตรงกับสไตล์ของแต่ละคนอีกที..
หลังจากได้รับการแนะนำจากทั้ง 2 คุณครูแล้ว ก็ถึงเวลาปรับแก้ไข ลงหวดต่ออีกครั้งใน Session ถัดมา ซึ่งทางคุณครูก็อนุญาตให้ขับขี่กันเต็มสนามในที่สุด.. สงสัยจะเห็นความสามารถเฉิดฉายของเด็กนักเรียนแก๊งสื่อมวลชน (5555)..
สรุปการเรียน
ทีมมาร์แชลสนามโบกธงสัญญานขวักไขว่ พยายามให้เด่นทะลุม่านฝุ่นอันคลุ้งตลบ ถึงเวลาสรุปการขับขี่ เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในสถานการณ์จริงครั้งต่อไป
การฝึกขับขี่รูปแบบ Flat Track นั้น เป็นการผสมผสานระหว่างการคุมรถในทางออฟโรดและออนโรดเอาไว้อย่างลงตัว ทั้งการเปิดคันเร่งหรือเบรกลงจากความเร็ว การคุมอาการของรถที่มักจะ “ดิ้น” เสมอในสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้เราคุ้นเคยและตัดสินใจ “แก้อาการ” ได้อย่างทันควัน เพื่อทำความเร็วสู่จุดถัดไปได้อย่างเคยชินและรวดเร็ว.. นับว่าจะเป็นประโยชน์มากสำหรับคนที่อย่างทำความเร็วในสนามแข่งให้ดีขึ้น หรือแม้แต่ทำเวลาขับขี่ลุยทางดินก็ตาม
นอกจากนี้อาการของรถที่เกิดขึ้นในสนาม Flat Track สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการขับขี่บนถนนทั่วไปได้ด้วย ..โดยเฉพาะเมื่อต้องขับขี่ผ่านช่วงถนนที่ไม่ค่อยดีเท่าไร อันนี้ตอบโจทย์ตรงจุดมาก
ของฝากจากนักทดสอบ
งานนี้ทีมงานส่งนักทดสอบ “แทน ธรรมชาติ” ไปลุยให้เสร็จสรรพ มีคำแนะนำมาฝากเพื่อนๆ.. “การขับขี่เน้นการเลี้ยวในท่าที่โอเวอร์แอคติ้งฉะนั้น Riding Position ในการเลี้ยวต้องถูกต้องเพื่อรับมือกับรถที่พร้อมเสียอาการอยู่ตลอด..คันเร่งและเบรกต้องแม่นยำ ..และสายตาเองก็เป็นเรื่องที่สำคัญ “มองทางไหนไปทางนั้น” มองที่ปลายโค้ง ก็จะออกจากโค้งได้อย่างอยู่มือเช่นเดียวกัน..
ทักษะทั้งหมดที่กล่าวมา สามารถเหลาให้คมขึ้นได้จากกิจกรรม Yamaha Flat Track Exciting Training นี่แหละครับ แม้คลาสวันนี้จะเป็นคลาสสั้นๆวันเดียวจบ แต่ได้ทักษะกลับมาเยอะจนเราเองยังประหลาดใจ ..ถ้ามีโอกาสอยากให้เพื่อนๆลองสัมผัสดูครับ”